เป็นกระแสมากมายทีเดียวกับการกลับมาของ Snow White ภาพยนตร์ในตำนานของดิสนีย์ ที่ออกสู่สายตาชาวโลกเป็นครั้งแรกในปี 1937 โดยในปี 2025 นี้ ดิสนีย์ได้นำ Snow White กลับสู่อ้อมอกแฟนๆ ทั่วโลกอีกครั้ง ในรูปแบบไลฟ์แอคชั่น แถมเป็นมิวสิคัล ซึ่งก็น่าสนใจมาก โดยเฉพาะกับแฟนๆ ที่เคยติดตาม (หรือติดใจ) มาตั้งแต่เวอร์ชั่นแรก

เราก็เป็นอีกคนที่ชื่นชอบคาแรกเตอร์ สโนว์ไวท์ มาตั้งแต่เด็ก โดยภาพจำ สโนว์ไวท์ ของเราคงหนีไม่พ้นเจ้าหญิงที่พูดและร้องเพลงกับนก หรือบรรดาสิงสาราสัตว์ได้อย่างเพราะพริ้ง ซึ่งเสียงร้องในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ยังก้องในหัว แม้ว่าเราจะได้ดูตัวอย่างเวอร์ชั่นไลฟ์แอคชั่นแล้วก็ตาม

แล้วก็เพราะไอ้ภาพจำและเสียงร้องที่ยังก้องในหัวนี่เอง ที่น่าจะเป็นความท้าทายแรกที่ดิสนีย์ต้องผ่านมันไปให้ได้ แต่ก็ดูเหมือนจะถูกตั้งแง่ตั้งแต่ประกาศตัวนักแสดงนำที่จะมารับบท สโนว์ไวท์  ด้วยเพราะเธอ (Rachel Zegler) ไม่ได้มีภาพลักษณ์ หรือรูปร่าง หน้าตา เหมือน หรือแม้แต่ใกล้เคียงกับตัวละครสโนว์ไวท์ ที่หลายคนจดจำได้เลย

มาดูกับมาดาม: Snow White ใครว่าภาพลักษณ์ไม่สำคัญ

...

มาดูกับมาดาม: Snow White ใครว่าภาพลักษณ์ไม่สำคัญ

เอาจริงๆ ประเด็นนี้เราก็อดเห็นด้วยเงียบๆ ไม่ได้ เพราะทุกอย่างของเรเชล ทั้งรูปร่าง หน้าตา สีผิว สีตา ก็ไม่ได้ดูเหมาะกับการรับบท สโนว์ไวท์ เลย ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า สโนว์ไวท์ มันก็อดไม่ได้จะอยากให้นักแสดงที่มารับเล่น มีคุณสมบัติและภาพลักษณ์ที่เหมาะกับชื่อ 

แต่ก็นั่นแหละ ถึงขัดอกขัดใจ แต่ก็อดเอาใจช่วยไม่ได้ เพราะอันที่จริง ฝีไม้ลายมือของเรเชลก็ไม่ใช่เล่นๆ เพราะเธอเคยได้รับบทเด่นมาแล้วจาก West Side Story (2021) ซึ่งครั้งนั้นก็ทำให้เธอมีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะความสามารถเรื่องการร้องเพลงของเธอที่ก็ไม่ธรรมดา และหาตัวจับได้ยาก

มาดูกับมาดาม: Snow White ใครว่าภาพลักษณ์ไม่สำคัญ

และแล้ววันที่รอก็มาถึง ภาพยนต์ไลฟ์แอคชั่น Disney’s Snow White ก็เผยโฉมบนจอภาพยนตร์ในที่สุด ซึ่งต้องบอกเลยว่าภาพรวมไม่ได้แย่อย่างที่หวั่น องค์ประกอบต่างๆ โดยเฉพาะงานศิลป์ ซีจีเสียงเพลง ตัวละครคนแคระ หรือแม้แต่ตัวละคร Evil Queen (Gal Gadot) ก็ออกมาดี ฉากจำหลายฉากก็ทำได้ดี โดยเฉพาะฉากในเหมืองเพชรของเหล่าคนแคระ (ประกอบเพลง Heigh-Ho) และฉากทำความสะอาดบ้าน (ประกอบเพลง Whistle While You Work) ก็ตระการตา ประทับจิต ประทับใจมากๆ จนทำให้เราอดยิ้มและหัวเราะตามไม่ได้

นอกจากนี้ สโนว์ไวท์ เวอร์ชั่นนี้ ยังได้รับการอัปเดตคาแรกเตอร์ให้ร่วมสมัยมากขึ้น อย่างน้อยๆ ก็ดูเป็นเจ้าหญิงที่มีความเป็นมนุษย์มากขึ้นกว่าเดิม กล่าวคือ ไม่ใช่แค่ใจดี ขี้เล่น รักสัตว์ แต่เพิ่มความแข็งแกร่ง ความกล้าหาญ และความหัวขบถ ที่น่าเป็นเทรนด์หลักๆ ของตัวละครเอกในยุคนี้

มาดูกับมาดาม: Snow White ใครว่าภาพลักษณ์ไม่สำคัญ

เอาเป็นว่าภาพรวม สโนว์ไวท์ ในเวอร์ชั่นไลฟ์แอคชั่นนี้ยังใช้เค้าโครงเดิมจากเวอร์ชั่นปี 1937 (ซึ่งก็ได้เค้าโครงและแรงบันดาลใจมาจากนิทานของพี่น้องกริมม์ผู้โด่งดังมาอีกที) ฉากจำ และตัวละครหลักๆ แทบจะเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่เพิ่มรายละเอียดเกี่ยวกับคาแรกเตอร์หลักๆ โดยเฉพาะ สโนว์ไวท์ รวมถึงปรับเส้นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้เนื้อเรื่องโดยรวมร่วมสมัย และสมเหตุสมผลมากขึ้น

...

แน่นอนว่าเส้นเรื่อง และรายละเอียดที่ว่าทำออกมาได้ดี ไม่เถียงเลยว่าทั้งภาพ เสียง รวมถึงอรรถรสใดๆ ที่ต่อเติมมาทำให้เนื้อเรื่องดูสนุก และสมบูรณ์ขึ้น ส่วนธีมความรักที่เคยเป็นหนึ่งในโฟกัสหลักของเจ้าหญิงเจ้าชายดิสนีย์หลายๆ เรื่อง ก็ถูกลดบทบาทลงให้เหลือเป็นแค่สีสันบางๆ เท่านั้น ซึ่งส่วนตัวไม่ได้คิดว่าทำให้เรื่องสนุกน้อยลง มัน make sense ขึ้นด้วยซ้ำที่ตัวละครไม่น่าจะรักกันดูดดื่ม ทั้งที่เพิ่งเจอกันได้ไม่นาน 

มาดูกับมาดาม: Snow White ใครว่าภาพลักษณ์ไม่สำคัญ

แต่เรื่องที่ติดในใจ และน่าจะเป็นประเด็นที่กำลังถกเถียงกันอยู่ตอนนี้ คงหนีไม่พ้นรูปร่าง หน้าตาของนักแสดงผู้รับบท สโนว์ไวท์ (Rachel Zegler) ที่แม้ว่าฝีมือการแสดงจะไม่เป็นที่กังขา แต่ก็อย่างที่เกริ่นตั้งแต่ชื่อเรื่องว่า ภาพลักษณ์มันสำคัญและเป็นประเด็นมากกว่าที่คิด!

ส่วนตัวเราคิดว่าดิสนีย์เองก็คงตระหนักถึงเรื่องนี้ ไม่มากก็น้อย ตอนที่ตัดสินใจเลือกเรเชลมารับบท สโนว์ไวท์ คาแรกเตอร์ที่จะเรียกว่าเป็น iconic ของตัวเองเลยก็ว่าได้ ถึงได้เตรียมการอย่างหนัก ทั้งปรับและอัปเดตคาแรกเตอร์ รวมถึงออกแบบรูปแบบการนำเสนอเรื่องราวต่างๆ เพื่อส่งให้เรเชลเปล่งประกายได้อย่างเต็มที่ ซึ่งก็ต้องขอชื่นชมจากใจจริงว่าฝีไม้ลายมือของเธอก็ดีจริงๆ 

...

มาดูกับมาดาม: Snow White ใครว่าภาพลักษณ์ไม่สำคัญ

แต่ถึงจะเพิ่มส่วนที่ขาด อัปเดตส่วนที่ต้องทำ รวมถึงรายละเอียดงานโชว์ซึ่งแต่ละฉากก็ทำได้ดี แต่ภาพลักษณ์ของสโนว์ไวท์ที่ปรากฏตัวให้เห็นแทบทุกฉากก็ยัง กวนใจ อยู่ดี ซึ่งน่าจะทำให้คนดูสุขแบบไม่สุด อารมณ์เหมือนแต่งตัวแล้วมันก็ดี ไม่มีที่ผิด แต่มันไม่คอมพลีตลุคอะ นึกออกไหม!

ว่ากันตามตรง เราคิดว่าเรื่องนี้มันเป็นปัญหาของ สโนว์ไวท์ ในเวอร์ชั่นไลฟ์แอคชั่นนี้ ซึ่งก็คือเรื่องของการแคสนักแสดง ที่แม้ว่าจะฝีมือดี แต่รูปร่างหน้าตาไม่เหมาะกับคาแรกเตอร์ ย้ำอีกทีว่าเราไม่ได้มีประเด็น หรือปัญหากับเรเชล แต่มันก็แค่เรื่องของความไม่แมช ทำให้ภาพจำตัวละครสโนว์ไวท์ของเรา(และอาจจะคนดูอีกหลายคนทั่วโลก)สั่นคลอน

มาดูกับมาดาม: Snow White ใครว่าภาพลักษณ์ไม่สำคัญ

...

ประเด็นที่ว่าส่งผลกระทบเป็นกระแสที่ไม่ค่อยดีหลังการฉายอย่างเป็นทางการทั่วโลกตอบรับ ซึ่งถ้าจะให้พิจารณาอย่างตรงไปตรงมา กระแสที่ว่าก็ดูจะไม่ค่อยน่ารักสำหรับเจ้าของทุนอย่างดิสนีย์ เรตติ้งในเว็บไซต์เกี่ยวกับภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงหลายๆ เจ้าก็จัดอันดับให้ สโนว์ไวท์ เวอร์ชั่นไลฟ์แอคชั่น นี้ต่ำเตี้ยจนน่าตกใจ ซึ่งเราก็อดเห็นใจไม่ได้ โดยเฉพาะเจ้าตัว Rachel Zegler ที่น่าจะกระทบกระเทือนมากกว่าใครๆ

อย่างไรก็ดี ในภาพรวมเราก็ยังยืนยันว่าหนังดูสนุกนะ ฉากในความทรงจำของใครหลายคนก็ยังอยู่ครบ แถมทำได้ดี จะมีขัดใจการแปลบทเพลงต่างๆ บ้างที่ฟังแล้วเข้าใจยาก (ซึ่งอาจจะแค่เวอร์ชั่นพากย์ไทย) แต่รวมๆ องค์ประกอบทุกอย่างก็ถูกออกแบบมาอย่างดี ซึ่งเราคิดว่าคงมองข้ามความตั้งใจนี้ของดิสนีย์ไม่ได้ ปัญหาก็คงมีเรื่องเดียว แต่ดันเป็นปัญหาใหญ่ที่พาดพิงเรื่องอื่นๆ ไปซะหมด

เอาเป็นว่าอยากให้ลองเปิดใจไปดู แล้วตัดสินกันอย่างแฟร์ๆ ว่าชอบหรือไม่ชอบสโนว์ไวท์เวอร์ชั่นไลฟ์แอคชั่นนี้หรือไม่ อย่างไร อย่าแค่ดูหน้าหนัง หรือตัวอย่างหนัง หรือแค่เห็นหน้านางเอกก็พาลพาโลไปซะหมด เพราะอย่างที่บอก หนังเขาก็มีดีน้า ไม่ให้เสียมาตรฐานดิสนีย์หรอก!


จนกว่าจะพบกันใหม่