หนึ่งในแอนิเมชันของ ค่ายดีสนีย์ ที่นั่งอยู่ในหัวใจผู้ชมหลายคน นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2559 อย่าง “ซูโทเปีย” (Zootopia) หรือ “นครสัตว์มหาสนุก” เรื่องราวของอาณาจักรสัตว์ที่ใช้ชีวิตอย่างมีอารยะไม่ต่างจากสังคมมนุษย์ มีกำหนดกฎเกณฑ์แบบผู้ที่เจริญแล้วปฏิบัติกัน สิงสาราสัตว์ในแอนิเมชันเรื่องนี้ถูกกำหนดคาแรกเตอร์ที่แตกต่างกันไป โดยไม่ทิ้งลักษณะพฤติกรรมตามธรรมชาติของสัตว์เหล่านั้น

หนังมอบความสนุกสนานในการเดินเรื่อง ออกแบบสัตว์แต่ละตัวโดดเด่นน่ารัก ทว่าสิ่งที่ซุกซ่อนแฝงอยู่ในนั้นเป็นเรื่องที่ทรงพลังต่อการนำไปขบคิดและขับเคลื่อนชีวิต เช่น การตั้งมั่นในเป้าหมายของชีวิต การเผชิญกับปัญหาและพยายามฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อบรรลุเส้นทางแห่งความฝัน ผลของความสำเร็จของ “ซูโทเปีย” สามารถคว้ารางวัลได้หลายเวที และซิวสาขาภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยมปี 2560 จากเวทีออสการ์ไปอย่างเต็มภาคภูมิ

หากจะต่อยอดมาขยายเป็น “ซีรีส์” ก็คงไม่ยากเย็น เมื่อมีข่าวคราวว่า “ซูโทเปีย” มาแน่ในแบบซีรีส์ ทว่าไม่ได้ชูตัวละครหลักแบบในฉบับหนัง แต่ครั้งนี้จะเป็นโอกาสของสัตว์ชนิดอื่นๆใน “ซูโทเปีย” ได้ออกมาโลดแล่นนำเสนอแง่มุมชีวิตของพวกเขาบ้าง ในชื่อ “ซูโทเปียพลัส” (Zootopia+) โดยใช้บริการ 2 ผู้กำกับคือ โจซี ทรินิแดด และ เทรนต์ คอร์รีย์ ซึ่งในช่วงที่ซีรีส์เข้าฉายทาง “ดีสนีย์พลัส” คนทำงานไม่ว่าจะเป็น 2 ผู้กำกับ และดารา บอนนี ฮันต์ ที่ให้เสียงกระต่ายสาว บอนนี ฮอบบ์ส, ดอน เลค ผู้ให้เสียง สตู ฮอบบ์ส รวมทั้งคนทำดนตรีประกอบ เอลิสซา แซมเซิล และ เคท แอนเดอร์สัน จนถึงโปรดิวเซอร์ นาธาน เคอร์ติส ซึ่งเคยเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการสร้างในแอนิเมชัน “รายา แอนด์ เดอะ ลาสต์ ดรากอน” (Raya and the Last Dragon) และ “เอนคันโต” (Encanto) ก็มานั่งล้อมวงคุยถึง “ซูโทเปียพลัส” ผ่านซูมเมื่อเร็วๆนี้

...

เมื่อถูกโยนคำถามมากลางวงว่าอะไรคือความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการผลิตซีรีส์ “ซูโทเปียพลัส” นาธาน เคอร์ติส เผยว่า “ส่วนที่ยากที่สุดคือความห่างไกลกันนะ” ซึ่งเจ้าตัวหมายถึงซีรีส์เรื่องนี้เกิดขึ้นที่โลกของเรากำลังเผชิญกับโรคระบาดใหญ่ “เราอยากจะอยู่กับดอนและบอนนีในสตูดิโอบันทึกเสียงด้วยกัน เราคงชอบที่จะมีการประชุมงานมากขึ้นกับ เคท, เอลิสซา และ ไมเคิล จิแอค ชิโน คือสตูดิโอของเราก่อตั้งขึ้นจากการอยู่ร่วมกัน เราทำทุกอย่างในสตูดิโอที่ยอดเยี่ยมได้ในที่เดียว ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดก็คือการถูกแยกออกจากกัน ส่วนความท้าทายที่ 2 คือ ‘ซูโทเปีย’ เป็นหนังที่ดีมาก เทรนต์ และ โจซี ก็พยายามอย่างมากที่จะบอกว่าเราจะทำให้ซีรีส์นี้ให้สนุกและบันเทิงเท่าๆกันได้อย่างไร ผมก็คิดว่าเราได้ทำงานที่ยอดเยี่ยมในการนำมันไปสู่ระดับที่เราหวังว่าทุกคนจะเห็นด้วยกับเรานะครับ”

ส่วน บอนนี ฮันต์ ที่ก็เล่าถึงการทำงานในเรื่องนี้ว่า “มันสนุกมากเลยนะเมื่อได้ร่วมงานกับคนมีพรสวรรค์อย่าง นาธาน, โจซี และเทรนต์ คือโชคดีมาก เพราะคุณจะรู้ว่ามีโครงเรื่องที่ดี ความตั้งใจที่ดี และคุณภาพของตัวละคร” ดอน ก็เผยต่อว่า “การได้ร่วมงานกับบอนนีอีกครั้ง เพราะเรามีสิ่งนี้ เรารู้จักกันมานาน เราเป็นเหมือนเพื่อนรักที่สามารถปิดการชี้ขาดของกันและกันได้ เช่น รู้แค่ว่าเรากำลังเดินไปตามทางนี้และเราไม่ต้องพูดอะไร เราแค่ไปตามถนนนั้น สำรวจ แล้วก็สนุกไปกับมัน”

ขณะที่ เอลิสซา พูดถึงเพลง “บิ๊ก ไทม์” (Big Time) ที่ร่วมทำงานกับไมเคิล จิแอคชิโน ว่า “ตอนเขาโทร.มาและบอกว่ามีโอกาสเขียนเพลงประกอบละครให้กับตัวละครดยุค วีเซลตัน (ตัววีเซิลเจ้าเล่ห์) เราดีใจจนตัวสั่น ไมเคิลส่งแผ่นเสียงชุดแรกและเมโลดี้ที่สวยๆมาให้เพื่อเริ่มเพลง คือมันเป็นวันพิเศษเมื่อได้รับบันทึกเสียงจากไมเคิล พร้อมไอเดียทำนองที่เขาเล่นเปียโนและพูดว่า ‘มาเปลี่ยนเพลงนี้เป็นเพลงกันเถอะ คุณคิดยังไง’ เราอยากให้ดยุคเขย่าวงการได้ จึงเลือกแนวเพลงที่ได้แรงบันดาลใจจากวงควีน เพลง ‘สตาร์แมน’ ของเดวิด โบวี มันใช้ได้กับตัวละคร ดยุคจริงๆ” ส่วน เคท ก็สนับสนุนว่า “เทรนต์และโจซีมาหาเราพร้อมกับความคิดที่น่าทึ่งเกี่ยวกับดยุค ซึ่งเขาจินตนาการว่าเพลง ‘บิ๊ก ไทม์’ มีความหมายต่อดยุคยังไง การเป็นวีเซิลขี้โกงตัวเล็กๆ เราจึงคิดว่ามันคงตลกดีที่เริ่มเนื้อเพลงด้วยเรื่องเล็กๆ เช่นความฝันที่จะเป็นพนักงานขายรถมือสองของดยุค”

...

และก่อนอำลา คำถามที่ส่งต่อถึงผู้กำกับทั้ง 2 คนปิดท้ายก็คือพลเมืองของซูโทเปียคือหัวใจของซีรีส์ เหตุผลที่นำตัวละครเหล่านี้มาอยู่ในแต่ละตอนคืออะไร และรู้สึกอย่างไรที่เรื่องของพวกเขาช่วยให้ภาพที่ขยายใหญ่ขึ้นของหนังต้นฉบับ ทั้งคู่เผยว่า เคยคุยนานแล้ว และมองว่าที่นี่เหมือนนิวยอร์กซิตี้ มีตัวละครจากหลากหลายด้านของชีวิต “อาจมีชาวเมืองท้องถิ่นอย่างสตูและบอนนีหรือดยุค วีเซลตัน นักต้มตุ๋น แต่พวกเขาจะไม่เปลี่ยนไป ไม่เป็นไร เขาอาศัยอยู่ในโลกนี้ เราก็ยังบอกเล่าเรื่องราวที่มีเสน่ห์เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้”

ใครที่คิดถึงสัตว์ใน “ซูโทเปีย” ก็กดไปดู “ซูโทเปียพลัส” ที่มีทั้งหมด 6 ตอนจบได้แล้วทางช่องดีสนีย์พลัส.

เรื่อง: ศุภางค์ภัค เศารยะพงศ์