หากใครรู้จักชื่อของผู้กำกับ โจโก อันวาร์ ก็คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณความน่าสนใจของหนัง Impetigore หรือในชื่อไทยว่า บ้านเกิดปีศาจ ให้มากความ แต่หากไม่รู้จัก ก็ขอแนะนำสั้นๆ ว่าเขาคือผู้กำกับชื่อดังของอินโดนีเซียที่ทั่วโลกจับตามอง สร้างชื่อขึ้นมาจากหนังสยองขวัญ Satan's Slave เมื่อปี 2017 และในผลงานล่าสุดนี้ก็มีคะแนนและคำวิจารณ์จากทั่วโลกอยู่ในเกณฑ์ยอดเยี่ยมไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

Impetigore บ้านเกิดปีศาจ เล่าเรื่องราวของ มายา และ ดีนี่ เพื่อนสนิท ทั้ง 2 ต้องเผชิญความยากลำบากในการสร้างเนื้อสร้างตัวที่เมืองหลวง โอกาสเปลี่ยนชีวิตที่หาได้ยากจากความเป็นจริง ทำให้ทั้งสองหวังให้โชคชะตาเข้าข้างพวกเธอบ้าง เมื่อมายาพบเบาะแสที่ทำให้เธอได้รู้ชาติกำเนิดที่เธอไม่เคยรู้มาก่อน ด้วยความหวังที่จะเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้น ทำให้เธอเลือกเดินทางกลับบ้านเกิดที่อยู่ในป่าลึกห่างไกลความเจริญ พร้อมเพื่อนสนิท เพื่อหวังถึงมรดกที่พ่อแม่ตกทอดไว้ให้

...

แต่ที่แห่งนี้กลับทำให้เธอได้พบเบาะแสใหม่ที่เต็มไปด้วยปริศนา อาถรรพณ์ ลี้ลับ ผู้คนและบรรยากาศอันไม่น่าไว้วางใจของหมู่บ้านกลางป่า ที่มีการแสดงท้องถิ่นที่ชื่อ Wayang (วายัง) ที่คล้ายกับ “หนังตะลุง” บ้านเรา อันละเมียดงดงาม แต่ก็แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายของคำสาป การกลับบ้านครั้งนี้จึงอาจกลายเป็นหนทางสู่ความตายของคนทั้งสอง

ในยุคที่ทิศทางหนังสยองขวัญไม่ใช่แบบตีหัวเข้าบ้าน ด้วยเสียงหรือฉากที่จงใจให้คนดูต้องตกใจ จนดูไร้รสนิยม นั่นจึงเป็นโจทย์ที่ท้าทายของผู้กำกับหนังแนวนี้ ว่าจะหาทางทำให้หนังมีกึ๋นในตัวได้อย่างไร ซึ่งผู้กำกับ โจโก อันวาร์ ก็เลือกวิธีการนำเสนอในแบบอนุรักษ์ ด้วยการหยิบจับผลงานหนังสยองขวัญคลาสสิกต่างๆ มาประกอบร่างใหม่ ใส่ไอเดียสร้างสรรค์จนกลายเป็นความเฉพาะตัวขึ้นมา

Impetigore มีองค์ประกอบของการก้าวขึ้นมาเป็นหนังสยองขวัญคลาสสิกที่เป็นดั่งตัวแทนความหลอนในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งบรรยากาศของหมู่บ้านที่ความเจริญไม่สามารถเข้าถึง พล็อตเรื่องที่ผสมผสานระหว่างความเชื่อ ศิลปวัฒนธรรม และขนบธรรมเนียมประเพณีเข้าด้วยกัน จนกลายเป็นความสยองที่หาไม่ได้จากหนังแนวนี้ในภูมิภาคอื่น นั่นจึงเป็นเหมือนแต้มต่อที่น่าจะทำให้ทุกคนที่ดูหนังเรื่องนี้ อินไปกับเรื่องราวได้ไม่ยาก

นั่นทำให้ตลอดเวลา 1 ชั่วโมง 46 นาที ในหนัง Impetigore บ้านเกิดปีศาจ จึงเต็มไปด้วยความไม่น่าไว้วางใจ เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ที่มาพร้อมบรรยากาศชวนเสียวสันหลัง จนรู้สึกหวาดระแวงทุกครั้งกับสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวของตัวละคร ซึ่งต้องชื่นชมเป็นพิเศษกับการใช้ฉาก แสงสี องค์ประกอบศิลป์ ที่ช่วยยกระดับความน่ากลัวขึ้นมาได้ ทำให้ฉากที่ดูธรรมดาๆ เช่น แผงเช่าขายสินค้าในตลาดดูน่ากลัวขึ้นมาได้

...

ที่ร้ายกาจสุดๆ คือการเลือกใส่ฉากความรุนแรงที่เพิ่มดีกรีความบ้าดีเดือดให้กับเรื่อง ที่นึกจะมาก็มาแบบไม่ทันตั้งตัว และยังส่งผลกระทบต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหนัง กลายเป็นฉากหักมุมช็อกความรู้สึกของคนดู ที่คาดว่าจะสะใจนักดูหนังสายสยองขวัญที่ไม่ชอบความประนีประนอม เพราะหนังเรื่องนี้พาไปสุดทางพอสมควร ใครขวัญอ่อน ไม่แนะนำให้ดู!

จะว่าไปแล้วในหลายๆ ส่วนของ Impetigore บ้านเกิดปีศาจ ก็มาในทิศทางเดียวกับ Satan's Slave ซึ่งน่าจะเป็นจุดแข็งของผู้กำกับ โจโก อันวาร์ ที่ขับเคลื่อนหนังด้วยประเด็นของครอบครัวเป็นวัตถุดิบหลัก โดยมีองค์ประกอบของความเชื่อ วัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่น เข้าไปเป็นวัตถุดิบรอง

...

อาจกล่าวได้ว่า Impetigore บ้านเกิดปีศาจ เป็นหนึ่งในความยอดเยี่ยมที่สุดของปีนี้ แม้หนังจะแอบมีจุดน่าขัดใจอยู่บ้างกับการเฉลยปมความลับต่างๆ ของเรื่องที่ออกจะรวบรัด เร่งรีบ ราวกับกลัวจะถูกคนดูจับผิดถึงความไม่สมเหตุสมผลของเรื่อง แต่กระนั้นจุดแข็งของหนังในการเป็นหนังสยองขวัญชั้นดี ก็มากเพียงพอที่จะบอกว่า หากใครชอบดูหนังแนวนี้ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง