ไม่เคยหยุดที่จะสานต่อความฝันกับงานเบื้องหลัง ตั๊ก-บงกช เบญจรงคกุล โชว์ฝีมือกำกับภาพยนตร์เรื่อง “sad beauty เพื่อนฉัน ฝันสลาย” ผลงานสร้างของ Point up Films (พ้อยท์ อัพ ฟิล์มส์) และค่ายเอ็ม พิคเจอร์ส จัดจำหน่าย
งานนี้ ตั๊ก เผยว่า “เรื่องนี้ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องเพื่อนค่ะ เพื่อนที่ตั๊กมีความรู้สึกดีกับเขา ซึ่งเรื่องนี้เป็นหนังเพื่อนจริงๆ เป็นเรื่องจริงที่ตั๊กมีเพื่อน แล้วเขาก็เสียไป เสียไปตอนอายุ 23 ปี แล้วหลังจากนั้นตั๊กก็ไม่เคยเจอเพื่อนที่เฟรนด์ลี่เหมือนเขาอีกเลย”
แสดงว่ามันจะมีในมุมของความรักและดราม่าที่อยู่ในนั้น
“ใช่ค่ะ มันเศร้าตรงที่ว่า เขาทำทุกอย่างให้เราได้หมด ไม่ว่าจะเป็นปกป้องเรา ปกป้องแม่เรา ชี้ทางให้เราไปในทางที่สว่างขึ้น เพราะตอนเด็กๆ ตั๊กอาจจะมีเกเร มีคิดนอกกรอบ อยากจะสุดเหวี่ยงสุดขอบ ไม่ค่อยมีกฎเกณฑ์ในเรื่องการใช้ชีวิต พอมองย้อนกลับไปช่วงนั้น ถ้าไม่ได้เพื่อนคนนี้ ตั๊กก็คงจะไม่มีวันนี้ มีมุมที่จะไปทางที่แย่เหมือนกัน ความเป็นภาพยนตร์มันก็ต้องมีจุดพีค มีหักมุมนิดหนึ่งเพื่อให้คนดูรู้สึกเซอร์ไพรส์ ถ้าใครได้เห็นจากตัวอย่างก็จะเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น”
ตั้งแต่เริ่มโปรเจกต์มาจนถึงวันนี้ ใช้เวลานานมั้ย
“เริ่มโปรเจกต์ตั้งแต่แม่ตั๊กยังไม่ป่วยเลย แต่ก่อนแม่จะเสียตั๊กก็เริ่มโปรเจกต์นี้แล้ว คือ เมื่อไหร่ที่เริ่มภาพยนตร์แล้ว การถอยมันจะยากละ เพราะว่าจุดเริ่มต้นของภาพยนตร์ก็คือเงิน แล้วก็ไหนจะทีมและส่วนอื่นๆด้วย”
คาดหวังให้คนดูได้อะไรจากหนังเรื่องนี้มั้ย
“ตั๊กไม่มีกรอบเลยว่าให้คนดูต้องคิดอะไร ตั๊กอยากให้ทุกคนรู้จักหนังเรื่องนี้ แล้วอยากให้ดูสิ่งที่ตั๊กอยากจะเล่า ตั๊กอยากให้เขาได้ดู เพราะทั้งเนื้อเรื่องก็มาจากชีวิตจริงๆ และเงินทุนมาจากเงินก้นถุงของตั๊กเรื่องนี้ เพื่อจะดำเนินต่อชีวิตตั๊กในภาพยนตร์เรื่องต่อๆไปในปีหน้า”
...
นักแสดงทำไมต้องเป็นฟลอเรนซ์ แล้วก็แอมด้วยล่ะ
“ตั๊กเป็นเพื่อนกับฟลอเรนซ์มานาน ฟลอเรนซ์ ตั๊กชอบความเป็นไทยและมีความเป็นฝรั่ง ตั๊กแคสต์ตัวหลายตัวมากนะ ก่อนที่ตั๊กจะตัดสินใจ เพราะฟลอเรนซ์ค่าตัวสูงมาก คือครึ่งหนึ่งของงบตั๊กนะก็หาคนมาแคสต์เยอะมาก แต่จะเสียน้อยหรือเสียมากล่ะ เอายังไง หรือยิ่งทำแล้วเหมือนไม่มีใครมาจุดประกายเลย ผู้กำกับก็ต้องการคนมาจุดประกาย เวลากำกับก็ต้องการคนจุดประกาย อยากให้นักแสดงจุดประกาย ยิ่งกำกับต้องยิ่งสนุก ไม่ใช่ยิ่งกำกับยิ่งรู้สึกท้อ ยิ่งเหนื่อย ไม่อยากไปกองเลย อยากได้นักแสดงที่จุดประกายให้มีไฟในการทำงานมากขึ้น ก็เลยตัดสินใจมาลงตัวที่ฟลอเรนซ์ เขาก็ตั้งใจทำงานมาก ตั๊กก็เลยดีใจที่เลือกนักแสดงไม่ผิด ส่วนแอมก็เป็นน้อง เหมือนเป็นวาสนากัน พอดีตั๊กเคยไปไหว้ย่านาค แล้วก็ถามกับทางทีมงานว่า อยากหาคนไปรำให้ย่าดู แล้วก็ไปเจอน้องแอม น้องเค้าจบนาฏศิลป์ แล้วเขาก็ไปรำแก้บนให้ตั๊กเอง แล้วก็เจอกันก็เลยถามน้องว่าอยากเล่นหนังรึเปล่า (หัวเราะ) น้องก็บอกว่าก็ลองดู เพราะว่าไม่เคยเล่นหนังเลย แถมน้องเขารำสวยมาก”
เรื่องนี้เห็นว่าพิถีพิถันในรายละเอียดมากๆ
“ค่อนข้างจะพิถีพิถันมากๆ ด้วยความเป็นภาพยนตร์เอง เพราะว่ามันจะมีความบีบคั้น มีความละเอียดอ่อนกับคนทำ จนบางทีติดการกำกับไปกำกับคนใกล้ชิด (หัวเราะ)”.