ยอมรับเลยว่า Downsizing หรือในชื่อไทยว่า มนุษย์ย่อไซส์ เป็นหนังที่มีไอเดียการนำเสนอที่น่าสนใจมาก กระตุ้นความอยากดูสุดๆ กับไอเดียการนำมนุษย์มาย่อส่วนให้มีขนาดเล็กเพื่อให้ลดการใช้ทรัพยากรของโลก จนเป็นหนังไซไฟล้ำอนาคตที่ผสมเข้ากับหนังตลกได้อย่างลงตัว แต่อีกด้าน เนื้อในของหนังก็นำเสนอดราม่าชีวิตหนักๆ ที่ชวนคนดูตั้งคำถามต่อการใช้ชีวิตว่า “วันนี้เราได้ทำอะไรที่มีคุณค่าหรือมีความหมายต่อชีวิตจริงๆ แล้วหรือยัง?” 

Downsizing เล่าเรื่องราวของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อนักวิทยาศาสตร์ชาวนอร์เวย์ ได้ค้นพบวิธีที่จะย่อส่วนมนุษย์ลงให้เหลือส่วนสูงแค่เพียงห้านิ้ว เพื่อเป็นทางออกให้กับปัญหาประชากรล้นโลก และพวกเขายังเสนอโครงการเปลี่ยนถ่ายทั่วโลกในระยะเวลา 200 ปี จากสังคมมนุษย์ตัวใหญ่ไปสู่สังคมมนุษย์ย่อส่วน

หนังสร้างโลกย่อส่วนออกมาได้สมจริง
หนังสร้างโลกย่อส่วนออกมาได้สมจริง

...

ด้วยคำสัญญาว่าจะมีชีวิตที่ดีขึ้น ผู้ชายธรรมดาๆ อย่าง พอล ซาฟราเน็ก จึงชวนภรรยา ออเดรย์ ละทิ้งชีวิตที่แสนตึงเครียดของพวกเขาในปัจจุบัน เพื่อไปอยู่ในชุมชนย่อส่วนแห่งใหม่ และสร้างชีวิตใหม่ร่วมกันที่นี่ แต่การตัดสินใจนี้เป็นการตัดสินใจที่จะถอยหลังกลับไม่ได้ การผจญภัยในโลกของคนย่อไซส์จะเปลี่ยนมุมมองต่อชีวิตไปอย่างสิ้นเชิง…

หนังดูง่ายและสนุกมาก ใครที่กลัวว่าหนังไซไฟจะดูยาก ศัพท์ทางวิทยาศาสตร์มากมาย Downsizing จะทำให้ภาพของหนังไซไฟของคุณนั้นเปลี่ยนไป 

หากมนุษย์ในยุคปัจจุบันถูกย่อส่วนลงมา ชีวิตพวกเขาจะเปลี่ยนอย่างไร
หากมนุษย์ในยุคปัจจุบันถูกย่อส่วนลงมา ชีวิตพวกเขาจะเปลี่ยนอย่างไร

งานกำกับเรื่องล่าสุดของผู้กำกับ อเล็กซานเดอร์ เพย์น ที่พ่วงการเขียนบทเข้าไปด้วยเรื่องนี้ (ผู้กำกับ Sideways, The Descendants) ใช้ประโยชน์จากเรื่องมนุษย์ย่อส่วนมาสร้างเป็นมุกต่างๆ ได้อย่างฉลาด หนังตั้งคำถามง่ายๆ ว่า “หากมนุษย์ในยุคปัจจุบันถูกย่อส่วนลงมา ชีวิตพวกเขาจะเปลี่ยนอย่างไร” และก็ใช้จุดนั้นมาถ่ายทอดไอเดียสุดล้ำออกมาได้อย่างมีสีสัน สนุก ขำขันแบบตลกร้าย และน่าติดตาม จนอยากจะลองเป็นมนุษย์ย่อส่วนบ้างเลยทีเดียว

หนังมีสีสัน สนุก ขำขันแบบตลกร้าย
หนังมีสีสัน สนุก ขำขันแบบตลกร้าย

"งานภาพ" ของ Downsizing เป็นหัวใจของการนำเสนอโดยแท้จริง ตอบสนองต่อจินตนาการได้สมบูรณ์ ดูเนียนตา สร้างโลกย่อส่วนออกมาได้สมจริง ซึ่งไม่ใช่การทำภาพซีจีเทคโนโลยีอนาคตแต่อย่างใด แต่เป็นการทำสิ่งง่ายๆ คือ การใช้ “มุมกล้อง” ในระดับสายตาคนจิ๋ว เพื่อถ่ายทอดให้คนดูได้รู้มุมมองภาพของคนย่อส่วน ว่าเห็นสภาพแวดล้อมทั่วไปอย่างไร 

"หงเชา" นักแสดงเชื้อชาติเวียดนาม ตัวขโมยซีนของเรื่องนี้

...

ในความเป็นหนังไซไฟแฝงอารมณ์ขัน แต่ Downsizing เสียดสีการใช้ชีวิตของมนุษย์ปัจจุบันได้อย่างเจ็บแสบ และตั้งคำถามที่ชวนขบคิดหาคำตอบมากมาย การใช้การย่อส่วนกับศัตรูทางการเมือง การตั้งคำถามว่า สิทธิความเป็นพลเมืองว่าควรหรือที่จะเท่าเทียมกัน ในเมื่อมนุษย์ย่อส่วนบริโภคทรัพยากรน้อยกว่าคนขนาดปกติ หรือในอีกมุมคือทำประโยชน์ให้น้อยกว่าคนปกติ สิทธิการใช้การโดยสารสาธารณะ การเสียภาษี ไปจนถึงการใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้ง... ซึ่งทั้งหมด มันสะท้อนให้เห็นว่าบางทีการแก้ไขปัญหาของมนุษย์ อาจเป็นการแก้ไขที่นำไปสู่การสร้างปัญหาใหม่ๆ ก็เป็นได้

คริสตอฟ วอลท์ซ มอบการแสดงที่เต็มไปด้วยการเสียดสี
คริสตอฟ วอลท์ซ มอบการแสดงที่เต็มไปด้วยการเสียดสี

Downsizing ได้นักแสดงระดับแม่เหล็กอย่าง แมตต์ เดม่อน, คริสเตน วิก และ คริสตอฟ วอลท์ซ มานำแสดงในเรื่อง ที่บท ดูซาน ของ คริสตอฟ วอลท์ซ นี่แหละคือสีสันของเรื่อง เต็มไปด้วยการเสียดสี และแม้จะเป็นตัวละครที่คนดูอาจไม่ชอบใจนัก แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธกับมุมมองการใช้ชีวิตที่อยู่บนข้อเท็จจริงของเขาได้ แต่ตัวขโมยซีนของเรื่องอย่างแท้จริง คือ ง็อคลานทราน แม่บ้านรับจ้างของดูซาน ที่นำแสดงโดย "หงเชา" นักแสดงเชื้อชาติเวียดนาม ที่เป็นดั่งกระบอกเสียงของคนชายขอบที่สังคมไม่ค่อยเปิดโอกาสให้เขาได้พูด หนัง Downsizing ไปไกลมาก เมื่อนำเสนอในมุมของเธอ จนอาจกล่าวได้ว่า “ทุกมิติการแสดงของเธอคือหัวใจของหนังเรื่องนี้อย่างแท้จริง”

...

โปสเตอร์ Downsizing มนุษย์ย่อไซส์
โปสเตอร์ Downsizing มนุษย์ย่อไซส์

แม้ Downsizing จะดูสนุก ชวนติดตามกับความแฟนตาซีของโลกย่อส่วน และเรียนรู้มุมมองต่อชีวิตจากตัวละครในเรื่อง แต่ก็ยอมรับว่าหนังมีปัญหาอยู่บ้าง กับการพาเรื่องราวไปสู่บทสรุปที่ดูจะหลุดกับธีมหลักของเรื่องไปบ้าง จนอาจบั่นทอนความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อหนังให้ลดลงไป 

อย่างไรก็ตามเมื่อมองในภาพรวม Downsizing ก็เป็นหนังฟีลกู๊ดแบบแนวๆ ของผู้กำกับ อเล็กซานเดอร์ เพย์น ที่ดูสนุก และจบแบบมีอะไรให้เก็บเกี่ยวมาคิดต่อยอดในการใช้ชีวิตได้เล็กๆ น้อยๆ

...

--- ชาแมน ---