หนึ่งในภาพยนตร์จากไต้หวันที่คอหนังรักโรแมนติกยังประทับใจก็คือ “ซีเคร็ต” (Secret) หรือใช้ชื่อไทยว่า “รักเรา กัลปาวสาน” ออกฉายในปี 2550 นำแสดงโดยซุปเปอร์สตาร์ชาวไต้หวัน เจย์ โจว ส่วนนางเอกของเรื่องก็คือ กุ้ย หลุนเหมย สาวสวยหน้าใสที่โด่งดังจากภาพยนตร์เรื่องแรกคือ “บลู เกต ครอสซิง” (Blue Gate Crossing)-“สาวหน้าใส กับนายไบซิเคิล” และเมื่อใครได้ชมฝีมือการแสดงจากผลงานทั้ง 2 เรื่อง ก็ต่างยกให้เธอเป็นขวัญใจไปเลยในช่วงเวลานั้น นับจากนั้นนักแสดงสาวชาวไต้หวันคนนี้ก็มีผลงานจอเงินออกมาให้ชมในตลอดหลายปีที่ผ่านมา

จนกระทั่งเมื่อเร็วๆนี้ งานใหม่ล่าสุดของ กุ้ย หลุนเหมย ได้ปรากฏสู่สายตาผู้ชมที่รอคอยผลงานของเธอ เมื่อ ดิสนีย์ พลัส ฮอตสตาร์ (Disney+ Hotstar) ได้ปล่อยซีรีส์ใหม่เรื่อง “วีเมน อิน ไทเป” (Women in Taipei) นำแสดงโดย กุ้ย หลุนเหมย ซึ่งเป็นการหวนคืนสู่วงการซีรีส์ครั้งแรกของเธอในรอบ 14 ปี ร่วมแสดงโดย หวัง ปัวเจี๋ย, โจเซฟ ชาง, ไรเดียน วอห์น, สโตน, เชอริล หยาง และ เทียน ซิน โดยเนื้อหาของซีรีส์บอกเล่าเรื่องราวการเปลี่ยนผ่านชีวิตและการก้าวพ้นวัยของหญิงสาวคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆ แล้วก็มาเผชิญชีวิตตามหาความฝันในกรุงไทเป ซึ่งชีวิตในเมืองใหญ่ไม่ได้ง่าย ต้องพบเจอความยากลำบากทั้งเรื่องของความรัก มิตรภาพ ครอบครัว และอาชีพการงาน บทบาทนี้น่าจะเป็นตัวแทนของผู้คนที่พยายามไขว่คว้าหาความฝันในโลกแห่งความเป็นจริงก็ว่าได้

...

เมื่อซีรีส์ลงจอทั้งที ดิสนีย์ พลัส ฮอตสตาร์ได้ชักชวน “ไทยรัฐ” ไปสนทนาสั้นๆผ่านซูมกับ กุ้ย หลุนเหมย ถึงการทำงานในซีรีส์ “วีเมน อิน ไทเป”

เธอเล่าว่า “ตอนที่ถูกทาบทามให้แสดงในซีรีส์เรื่องนี้ ฉันถามผู้กำกับ (อี้หยุนชาน) ว่าทำไมคุณถึงคิดว่าฉันเหมาะกับบทนี้ คือฉันได้รับแจ้งว่าพวกเขาต้องการนักแสดงสาวที่อายุ 20-40 ปี และเป็นใครสักคนที่เคยแสดงภาพยนตร์ ฉันเลยรู้ทันทีว่ากำลังได้รับมอบหมายงานแบบไหนและก็คิดว่าจะทำได้ดี ซึ่งบทที่ฉันได้รับก็คือ อี้ชาน หลิน ผู้หญิงที่ตั้งใจทำงานและพยายามสู้ชีวิตอย่างหนักในกรุงไทเป คือฉันก็อาศัยอยู่ที่ไทเปมาระยะหนึ่งแล้ว ดังนั้น บางทีฉันอาจจะสามารถถ่ายทอดประสบการณ์ที่อาศัยอยู่ที่นี่ให้เข้ากับบทบาทในซีรีส์ได้ค่ะ”

คุณบอกว่าบทบาทที่คุณได้รับค่อนข้างยาก เป็นบทของผู้หญิงที่ทิ้งบ้านเกิดเพื่อไปไล่ตามความฝันในเมืองใหญ่ คุณเตรียมตัวกับบทบาทนี้อย่างไรบ้าง

เธอตอบว่า “ก่อนที่จะมีการถ่ายทำ ฉันเตรียมพร้อมโดยใช้วิธีนี้ค่ะ คือลองใช้เวลานานๆกับการใช้บริการขนส่งสาธารณะ อย่าง รถประจำทาง รถไฟ แล้วก็ตั้งงบใช้จ่ายต่อวันไว้เล็กน้อยในทุกวัน เพื่อที่จะได้รู้ว่ามันจะเป็นยังไงนะสำหรับคนหนุ่มสาว หรือผู้ใหญ่ที่เพิ่งเริ่มทำงาน ฉันตั้งงบการใช้เงินประมาณ 3,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 3,500 บาท) เพื่อซื้อเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าทำงาน ซึ่งสาววัยทำงานอาจใส่ไปสัมภาษณ์งาน ฉันก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะใช้ชีวิตให้เหมือนสาวออฟฟิศเลย”

แม้จะให้ความทุ่มเทและลงลึกถึงบทบาทขนาดนี้ กุ้ย หลุนเหมย ก็ยังมีสิ่งที่ท้าทายที่สุดที่เธอต้องเผชิญระหว่างการถ่ายทำซีรีส์

เธอเอ่ยว่า “ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับฉันคือการตรึกตรองช่วงอายุต่างๆที่ฉันเล่น ตั้งแต่อายุ 20 ปีจนถึง 40 ปี ยิ่งช่วงกลางอายุ 28-33 ปี ฉันรู้สึกว่าชีวิตของคนเราในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานั้นคงไม่ต่างกันมากนัก แต่ถึงอย่างนั้น ฉันต้องแสดงให้เห็นการเติบโตของอี้ชาน หลิน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แล้วก็พูดตามตรงเลยนะคะ ฉันทำได้แค่แสดงการเติบโตภายในเท่านั้น เช่น การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในบุคลิกภาพและกิริยาท่าทาง และวิธีที่อี้ชาน หลินตอบสนองต่อสิ่งต่างๆ ที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่าง เช่น อี้ชาน หลิน ในวัยที่แก่ขึ้น ก็จะเดินอย่างมั่นใจมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับ อี้ชาน หลิน ที่อายุยังน้อยๆ”

เธอว่าพลางยิ้ม ก่อนจะตอบคำถามที่ว่า ถ้าต้องเลือกฉากที่ชอบจากซีรีส์ จะเลือกฉากไหน?

เธอว่า “มีฉากหนึ่งในตอนที่ 7 เป็นฉากเล่นสนุกๆกับโจเซฟ ชาง ซึ่งฉันล้อเลียนตัวละครดิสนีย์ต่างๆ โดยใช้พวกสินค้าไลฟ์สไตล์เป็นอุปกรณ์ประกอบฉาก มันสนุกมากเลยค่ะ”

...

เมื่อเวลาล่วงมาถึงช่วงท้าย เราถามว่าเธอว่า อยากให้ผู้ชมได้อะไรจากซีรีส์ “วีเมน อิน ไทเป” 

กุ้ย หลุนเหมย บอกว่า “ฉันรู้สึกว่าสำหรับคนไทเป คำจำกัดความของความสำเร็จนั้นกว้างมาก แทนที่จะไล่ตามสิ่งที่โลกคาดหวังจากคุณ เช่น เงินที่คุณควรมี ทรัพย์สินที่คุณมี หรือรถของคุณจะคันใหญ่แค่ไหน ฉันหวังว่าคุณจะพบปรัชญาชีวิตของคุณเอง อย่างตัวของ อี้ชาน หลิน ในท้ายที่สุด เธอก็ถามตัวเองว่าเธอเป็นคนแบบไหน และอะไรที่จะทำให้เธอพอใจกับชีวิต ดังนั้น มันจึงสรุปว่าคุณต้องการอะไรในชีวิต โดยไม่ได้พุ่งเป้าไปที่ปัจจัยภายนอก”

และก่อนอำลากันกุ้ย หลุนเหมยส่งคำทักทายแก่ผู้ชมชาวไทยที่รอคอยชมซีรีส์ “วีเมน อิน ไทเป” และทิ้งท้ายว่า

“ชีวิตอาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ฉันหวังว่าบทบาทของ อี้ชาน หลิน จะเป็นเพื่อนของคุณ เธอจะอยู่ฝ่ายคุณไม่ว่าคุณจะผ่านอะไรมา ฉันหวังว่าคุณจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของ อี้ชาน หลิน ด้วยและเราจะดำรงอยู่ร่วมกัน!

เรื่อง: ศุภางค์ภัค เศารยะพงศ์

...