ประกาศผลออสการ์ครั้งที่ 94 ไม่พลิกโผ เมื่อหนังไซไฟ “ดูน” ผงาดกวาดรางวัลไปสูงสุดถึง 6 รางวัล ส่วน “โคดา” ถือเป็นหนังสตรีมมิงออนไลน์เรื่องแรกจากบริการฉายหนังออนไลน์ ที่คว้ารางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์-นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม แต่ที่เกินคาดเมื่อ “วิล สมิธ” ตบหน้าพิธีกรดาวตลก “คริส ร็อค” กลางเวทีฉาดใหญ่ เหตุพูดพาดพิงถึงภรรยา “จาดา” ที่เป็นโรคผมร่วง ก่อนเจ้าตัวขึ้นรับรางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมเป็นครั้งแรกในชีวิตการแสดง จากบทพ่อผู้ปั้นสองลูกสาววีนัส-เซเรนา วิลเลียม จนประสบความสำเร็จเป็นนักเทนนิสระดับท็อปของโลก พร้อมเอ่ยขอโทษผู้จัดงานและเพื่อนดารา

กลับมาคึกคักอีกครั้ง สำหรับการประกาศผลรางวัลสถาบันศิลปะและวิชาการทางภาพยนตร์ หรือรางวัล “ออสการ์” อันทรงเกียรติ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 94 ประจำปี 2565 ในนครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ปีนี้รูปแบบไม่มีการจำกัดผู้เข้าร่วมงานเหมือนปีก่อน ท่ามกลางความคาดหวังว่าจะมีผู้รับชม การถ่ายทอดเพิ่มขึ้น หลังงานออสการ์ปี 2564 ทำสถิติผู้ชมทั่วโลกน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์เพียง 10.4 ล้านคน

ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานบรรยากาศงานประกาศรางวัลออสการ์ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 28 มี.ค.ตามเวลาประเทศไทย ระบุว่า ภาพยนตร์และนักแสดงที่คว้ารางวัล ไม่พลิกโผจากความคาดหมาย “โคดา” (CODA) เรื่องราวของเด็กสาวมัธยมที่เติบโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่พี่ชายหูหนวก และเป็นภาพยนตร์ของช่องสตรีมมิงออนไลน์ แอปเปิล ทีวี+ สร้างประวัติ ศาสตร์เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกจากบริการฉายหนังออนไลน์ ที่คว้ารางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม โดยมีทรอย คอตเซอร์ ผู้รับบทเป็นพ่อหูหนวกในเรื่องโคดา ร่วมคว้ารางวัลสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมไปครอง

...

ขณะที่ภาพยนตร์ไซไฟ “ดูน” (Dune) ที่คว้ารางวัลมาหลายเวทีรางวัลภาพยนตร์ก่อนหน้านี้ ทั้งบาฟตาของอังกฤษ ลูกโลกทองคำ และคริติก ชอยส์ อวอร์ดส ประสบความสำเร็จซิวรางวัลออสการ์ไปมากที่สุดในปีนี้ รวม 6 สาขา ได้แก่ สาขาเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม สาขาถ่ายภาพยอดเยี่ยม สาขาออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม สาขาตัดต่อภาพยนตร์ยอดเยี่ยม สาขาเสียงยอดเยี่ยม และสาขาดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ด้วยผลงานของผู้ประพันธ์ชาวเยอรมัน ชื่อก้อง ฮานส์ ซิมเมอร์

ส่วนรางวัลเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเป็นของ 2 พี่น้องป๊อปสตาร์รุ่นเล็ก บิลลี ไอลิช และพี่ชายของเธอ ฟินเนียส โอคอนเนล จาก “โน ไทม์ ทู ดาย” เพลงประกอบภาพยนตร์สายลับ เจมส์ บอนด์ 007 ตอนสุดท้ายของเดเนียล เครก เอาชนะเพลง “บี อไลฟ์” จากภาพยนตร์เรื่องคิง ริชาร์ด ผลงานของซุปเปอร์สตาร์ดีว่าตัวแม่อย่างบียอนเซ่ รวมถึง โดส โอรูกีตาส เพลงประกอบภาพยนตร์แอนิเมชัน “เอ็นคันโต” ของลิน-มานูเอล มิรานดา ที่ถูกคาดเดาจากสื่อบันเทิงในสหรัฐฯหลายสำนักเก็งให้เป็นผู้ชนะ ขณะที่ก่อนหน้านี้ “โน ไทม์ ทู ดาย” คว้ารางวัลจากเวทีใหญ่ทั้งแกรมมี และลูกโลกทองคำ ทำให้เพลงประกอบภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ 3 ตอนที่ผ่านมากวาดออสการ์ไปทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม งานประกาศรางวัลออสการ์ปีนี้สร้างความฮือฮาไปทั่วโลก หลังช่วงการประกาศรางวัลสารคดียอดเยี่ยม พิธีกรตลกคริส ร็อค ยิงมุกตลกล้อเลียนจาดา พิกเกต-สมิธ ภรรยาของซุปเปอร์สตาร์ชื่อก้อง “วิล สมิธ” ที่มาร่วมงานในทรงผมหัวเกรียน เนื่องด้วยโรคผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia) ว่า “รักคุณนะจาดา รอชมหนังทหารหญิงจีไอเจน ภาค 2 อยู่นะ” ทำให้วิล สมิธ เดินขึ้นไปบนเวทีและตบหน้าคริส ร็อค เข้าฉาดใหญ่เสียงดังลั่นเวที ทีแรกผู้ร่วมงานต่างพากันหัวเราะเพราะคิดว่าเป็นการจัดฉาก แต่ ต่อมาปรากฏชัดว่าไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เนื่องจากวิล สมิธ ตะโกนย้ำสองรอบด้วยเสียงดังว่า “อย่าใช้ปากพล่อยๆ เอ่ยถึงเมียผมอีก” ขณะที่คริส ร็อค เองก็แก้เก้อ กล่าวว่า“ว้าว ผมถูกวิล สมิธ ตบซะยับเลย ที่ผมพูดคือมุกตลกจีไอเจนนะ นี่คือค่ำคืนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์วงการโทรทัศน์”

สื่อบันเทิงสหรัฐฯรายงานด้วยว่า หลังจากเหตุวิล สมิธ แสดงความเกรี้ยวกราดนั้น แร็ปเปอร์ฌอน คอมส์ ที่ขึ้นเป็นผู้ประกาศรางวัลลำดับถัดไป กล่าวให้คู่กรณีทั้งสองไปเคลียร์ใจกันในงานเลี้ยงเสีย และในช่วงพักเบรก นักแสดงผิวสีรุ่นพี่ เดนเซล วอชิงตัน เดินเข้ามาพาวิล สมิธ ไปคุยข้างเวที ก่อนสวมกอดกัน

...

จากนั้นในช่วงการประกาศสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม รางวัลตกเป็นของ “วิล สมิธ” จากภาพยนตร์เรื่อง “คิง ริชาร์ด” (King Richard) จากบทบาทคุณพ่อริชาร์ด วิลเลียม ผู้ปั้นลูกสาววีนัส-เซเรนา วิลเลียม ให้ประสบความสำเร็จกลายเป็นนักเทนนิสระดับท็อปของโลก ซึ่งเจ้าตัวกล่าวด้วยความปลาบปลื้ม น้ำตาไหลอาบหน้า หลังจากเป็นการคว้าออสการ์รางวัลแรก นับตั้งแต่คร่ำหวอดในวงการภาพยนตร์มาหลายทศวรรษ พร้อมกล่าวขอโทษผู้จัดงานและดาราคนอื่นๆ ความรักทำให้คุณทำอะไรบ้าๆลงไป หวังว่าผู้จัดงานจะไม่ถือโทษและเชิญมาร่วมงานอีก

สำหรับรางวัลยอดเยี่ยมสาขาอื่นๆนั้น เจสซิกา แชสเทน คว้าสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากเรื่อง “ดิ อายส์ ออฟ แทมมี เฟย์” (The Eyes of Tammy Faye) อาเรียนา เดโบซ รับรางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม จากผลงานภาพยนตร์เพลง “เวสต์ ไซด์ สตอรี” (West Side Story) ของผู้กำกับชื่อดังระดับตำนาน สตีเวน สปีลเบิร์ก ด้าน เจน แคมเปียน คว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจากผลงานเรื่อง “พาวเวอร์ ออฟ เดอะ ด็อก” (Power of the Dog) ภาพยนตร์จากค่ายสตรีมมิ่งเน็ตฟลิกซ์ ส่วน “เอ็นคันโต” การ์ตูนจากค่ายดิสนีย์ คว้าสาขาภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยม “ไดรฟ์ มาย คาร์” (Drive My Car) ภาพยนตร์ญี่ปุ่นรับรางวัลสาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม

นอกจากนี้ งานประกาศรางวัลออสการ์ปีนี้ ยังขอให้ผู้ร่วมงานยืนไว้อาลัยเป็นเวลา 1 นาที เพื่อแสดงการสนับสนุนชาวยูเครนที่เผชิญการรุกราน แต่ไม่ได้เชิญนายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ขึ้นกล่าวปราศรัยในงานผ่านวิดีโอลิงก์ ตามเสียงเรียกร้องของนักแสดงบางกลุ่ม ซึ่งก่อนหน้านี้ ฌอน เพนน์ ดาราเจ้าบทบาท ผู้คว้ารางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมมาแล้วถึง 2 ครั้ง ประกาศจะนำตุ๊กตาออสการ์ไปหลอมทิ้ง หากผู้จัดงานไม่เชิญประธานาธิบดียูเครนมาร่วมงาน

...