หลังจากที่นักธุรกิจสาว เมย์ วาสนา อินทะแสง ออกรายการ “โหนกระแส” ทางช่อง 3 กรณีที่นางร้ายสาว ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์ ยืมของ 62 ล้านบาท เพื่อไปแก้ไขปัญหาชีวิตที่เกิดขึ้น และมีกำหนดคืนชัดเจน พร้อมทั้งบอกว่าให้เอาไปเป็นของเพื่อประกันเท่านั้น ห้ามจำนำและซื้อขายเด็ดขาด แต่สุดท้ายจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้ของคืน
ก่อนที่ทางรายการจะโทรหา ดิว อริสรา เพื่อให้เจ้าตัวชี้แจง ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับผิดว่ายืมของไปจริง แต่ไม่มีเจตนาหลอกลวงอะไร เพราะอีกฝ่ายเป็นคนเดียวที่มาช่วยเหลือในเวลานั้น ของยังอยู่ครบ แต่มีของชิ้นหนึ่งที่ฝากผู้ใหญ่คนหนึ่งไป ปัจจุบันอยู่กับรัฐมนตรีท่านหนึ่งจริง เงินที่ยืมไปก็เอาไปลงทุนธุรกิจแต่ไม่ประสบความสำเร็จ และยอมรับว่าใช้เงินเกินตัว ตอนนี้อยู่ไต้หวัน และพร้อมกลับมาชี้แจงที่กองปราบฯ
ซึ่งหลังเสร็จสิ้นรายการ เมย์ วาสนา ก็ได้มาเปิดใจอีกครั้งกับสื่อมวลชนที่มารอทำข่าว ณ อาคารมาลีนนท์ ทาวเวอร์ 2 ช่อง 3 ถ.พระราม 4

เมื่อกี้ได้คุยกับดิว อริสรา ในรายการ รู้สึกยังไงบ้าง?
...
“หนูว่าหนูพูดทั้งหมดไปในรายการที่ค่อนข้างยาวมากๆ ได้คุยกับน้องในสิ่งที่น้องพูดทั้งหมด ซึ่งน้องได้แสดงเจตนารมย์ทั้งหมดในรายการ ถ้าความรู้สึกส่วนตัว มันก็เป็นบทเรียนครั้งใหญ่ในชีวิตตัวเองนะคะ ไม่รู้จะพูดอะไรอีกดี”
มันอัดอั้นเก็บมานานด้วย ถึงระเบิดในวันนี้ทีเดียว?
“ก็อย่างที่บอกว่าฟางเส้นสุดท้ายคือเหมือนเราให้คนยืมด้วยเจตนา ด้วยมิตรภาพ ด้วยความรู้สึกความเป็นเพื่อนเนอะ เพื่อนเป็นน้อง แต่เราได้รับกลับมาด้วยความโกหก หรือสะท้อนให้รู้สึกว่าเราเสียศักดิ์ศรี อันนี้คือฟางเส้นสุดท้ายที่รู้สึกว่าต้องออกมาปกป้องตัวเอง ต้องออกมาแก้ไขสิ่งที่หนูโดนดิสเครดิตมาขนาดนี้เลยเหรอ อาจจะด้วยเจตนาก็ดี หรือไม่ได้เจตนา แต่มันเกิดขึ้นแล้ว
เมย์ทำธุรกิจเนอะ ธุรกิจเราความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เมย์ซีเรียสเรื่องการให้คำพูดคำมั่นสัญญาต่อทุกคนเสมออยู่แล้ว ดังนั้นสิ่งนี้มันคือเครดิตทางธุรกิจที่รู้สึกว่ามันต้องออกมา หนูไม่เคยคิดว่าชีวิตต้องมานั่งอยู่ในรายการโหนกระแส ไม่เคยอยากจะออกมา 1 เดือนที่ผ่านมาไม่เคยโพสต์ ไม่เคยพูดอะไรเลย เพราะว่าไม่ได้อยากให้มันเป็นเรื่อง แค่อยากได้ของคืนแค่นั้นเอง ของของเรา เราก็รักของเราเนอะ
แต่จะด้วยความ...ไม่อยากพูดว่าโง่เขลา อะไรก็ตามแต่ค่ะ มันเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนึงก็ต้องโทษตัวเอง จะโทษใครได้ ให้เขาไปเองจริงๆ ช่วยน้องจริงๆ และก็เชื่อน้องมาตลอด 6-7 เดือนที่ผ่านมาเราเชื่อเขามาตลอด พี่มดดำ (คชาภา ตันเจริญ) พยายามบอกหนู หนูก็บอกว่าไม่นะ หนูเชื่อเขา แต่พอเราเห็น เราก็รับไม่ได้”

หลังคุยในโหนกระแส คิดว่าแนวทางจากนี้จะเป็นยังไงต่อไป?
“solution เมย์แค่อย่างเดียวเลยค่ะ ได้ของคืน เมย์ไม่ดำเนินคดีก็ได้ ไม่โกรธ ไม่อาฆาต ไม่อะไรเลยค่ะ ขอแค่ได้ของคืน ไม่ดำเนินคดีก็ได้ เพราะเราคุยกันแล้ว แต่ว่าถ้าไม่ได้และมันจะต้องสู้ ก็ต้องสู้ให้ถึงที่สุด เป้าหมายคือต้องการของคืน”
การที่คุยกับน้องเมื่อกี้มันมีทางออกไหม?
“ดิวก็ให้ทางออกที่ดีมาก จริงๆ หนูก็เห็นใจเขา ทุกๆ ครั้งที่หนูไม่ได้ออกมาพูดอะไร เพราะหนูฟังเรื่องนี้มาตลอด และเมย์ก็เห็นใจเขามาตลอด”
คุณเมย์พึงพอใจกับคำตอบไหมในสิ่งที่เขาพูดผ่านรายการ?
“อืม… ไม่ได้บอกว่าพึงพอใจหรือไม่ ถ้าเราได้ของคืน แล้วไม่ต้องมาจ่ายตังค์อะ อันนี้เราโอเค แต่ถ้า solution อื่นไม่ได้โอเค”
คุณเมย์ทราบไหมว่าเขาเอาเงินไปทำอะไร?
“น้องให้สัมภาษณ์ในรายการไปแล้ว เขาก็พูดค่อนข้างยาว”
มีช่วงนึงที่คุณเมย์ร้องไห้หลังฟังเขาพูด เขาเป็นคนเอาของไป ทำไมคุณเมย์ร้องไห้ด้วย?
“คือเพื่อนน่ะพี่ (เสียงเครือ น้ำตาคลอ) เมย์เป็นคนที่เติบโต ทำงานและสู้ชีวิตมาด้วยกัลยาณมิตร เพื่อนมาตั้งแต่แรก หนูให้ค่าและให้หัวใจ ตีราคาความเป็นเพื่อนหนูสูงมาก เพราะต้นทุนของเรามันน้อย เราเดินมาได้ขนาดนี้ ระหว่างทางในชีวิตเราเกิดจากกัลยาณมิตร มิตรภาพที่ไม่ใช่ญาติพี่น้องเลย
แล้วการที่เราให้ค่ากับสิ่งนี้ แล้วเรากลับถูก…จะใช้คำว่าหักหลังหรืออะไรก็ตามแต่ มันหนังคนละม้วนตั้งแต่วันแรก ถ้าพูดจริงๆ คือเมย์รับไม่ได้ เมย์รู้สึกว่าทำธุรกิจมาก็ได้ สนามรบทางธุรกิจ เมย์ วาสนา เธอไม่เคยแพ้เลยนะ เธอเป็นคนทุ่มเททำงานทุกอย่างมาตลอด แต่ทำไมสนามนี้เธอถึงแพ้ราบคาบ เธอถึงยอมให้มันเป็นแบบนี้ แล้วจมอยู่กับมันว่าแบบ…โง่จัง”
...

คอลเลกชันบางอย่างมันเป็น rare item?
“สร้อย Lotus คือชิ้นเดียวของโลก นาฬิกามัน discontinue แล้ว ของบางอย่างมูลค่าที่แจ้งไปมันไม่ใช่มูลค่าปกติ มันเพิ่มมูลค่าไปแล้ว ดังนั้นมันเป็นมูลค่าทางจิตใจ เมย์เป็นคนที่สุดในทุกๆ เรื่อง เมย์ไม่ได้รวยมาจากไหน แค่มีความชื่นชอบในสิ่งเหล่านี้ เมย์ก็เก็บสะสม คิดว่าวันนึงมีมูลค่าที่เพิ่มมากขึ้น เราก็เลยเก็บมันไว้แบบนี้ มีมูลค่าทางจิตใจที่อยากได้คืนมากๆ ค่ะ ไม่ได้อยากขาย แต่อยากได้ของคืน”
เป็นของที่รักมากๆ แต่ยอมให้เขาไป?
“คือที่รีสตอรี่ไปแค่ช็อกว่าของไปถูกเร่ตั้งแต่แรก ก็แค่รู้สึกว่าของบางอย่างเก็บในห้องแอร์แล้วมันไม่เคยใช้เลย แต่ถูกไปเร่ในตลาด มันก็เลยช็อก”
ตอนนั้นไม่ได้ให้ใบ certificate?
“มันแค่บางรายการที่มี certificate ค่ะ บางรายการก็ไม่ได้มี มันมีแค่รายการเดียวที่มีใบ certificate”
ในแง่ความสัมพันธ์กับดิว สามารถคุยกันในฐานะพี่น้องได้ไหม หรือจบเรื่องนี้คือพอแล้ว?
...
“ไม่โกรธแค้น ไม่เคือง แต่ก็กลัวแล้วค่ะ เข็ดแล้ว”
หลังจากนี้จะติดต่อรัฐมนตรีที่มีการอ้างว่าสร้อยไปอยู่กับเขาไหม?
“ให้เป็นเรื่องของกฎหมาย คิดว่าวันนี้น้องเองก็พูดมาในรายการชัดเจนแล้วว่าจะให้ข้อมูล เขาพูดมาชัดเจนก็เชื่อว่าเราก็น่าจะได้ข้อมูลนี้ว่าอยู่ที่ไหน”
ตอนนี้รู้ประมาณกี่อย่างว่าทรัพย์สินอยู่ตรงไหน?
“รู้มาแน่ชัด 1 รายการ อีกหนึ่งรายการเป็นไม่แน่ชัด อย่างที่ทนายพูดไปในรายการค่ะ”
ของที่อยู่เป็นระดับรัฐมนตรีหรือนักการเมือง?
เมย์ “มันยังการันตีสิ่งนี้ไม่ได้ เพราะมันเป็นคำพูดที่ได้ข้อมูลข่าวสารมา ซึ่งทนายเป็นคนให้คำพูด”
ทนายตั้ม “คือได้แหล่งข่าวมานะครับ เขาแจ้งมาเฉยๆ แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นตำแหน่งอะไร ยังไม่ยืนยันครับ”
ตอนนี้ยังติดใจคนที่เขาจะไปจำนำตั้งแต่แรกไหม?
“ไม่ติดใจใครเลยค่ะ แค่อยากได้ของคืน ใครๆ ก็ตามแต่ เมย์ไม่ติดใจ เมย์ขออย่างเดียว ขอแค่ขอของเมย์คืนเท่านั้นเลยค่ะ ไม่ต้องมาให้ดอกเบี้ยหรืออะไรเลย เอาของมาคืนทุกอย่างจบ ไม่ดำเนินคดี แต่ถ้าไม่ได้ ต้องสู้ เมย์ก็จะสู้ให้ถึงที่สุด”
มีเส้นตายไหมว่าจะต้องได้ของคืนช่วงไหน?
“ก็ต้องเร็วที่สุดค่ะ”

...
ตอนที่ได้คุยกับดิว เราสัมผัสถึงความสงสารอีกไหม เพราะคุยทุกครั้งก็สงสารทุกครั้ง สัมผัสได้ถึงความจริงใจไหม?
“เมย์ฟังเรื่องแบบนี้มา 7 เดือนแล้ว เท่านี้เลยค่ะ”
ล่าสุดมีกระแสข่าวว่าเขาเลิกกับเซบาสเตียนแล้ว?
“ไม่รู้เลย ไม่ทราบเลยค่ะ”
คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม