หนก่อนก็เพิ่งออกมาเคลียร์หลังมีภาพไปร่วมงาน ดิไอคอนกรุ๊ป ไปไม่นาน ล่าสุดดีเจดัง มะตูม เตชินท์ พลอยเพชร ก็ต้องออกโรงเคลียร์อีกครั้งกับธุรกิจแบรนด์อาหารเสริม Eighteen (เอธธีน) ที่ปิดตัวไปตั้งแต่ 5-6 ปีที่แล้ว ซึ่งเจ้าตัวเคยเป็นพรีเซ็นเตอร์ในอดีตร่วมกับ ต้นหอม ศกุนตลา เทียนไพโรจน์ และ แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์ ถูกหาว่าเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ โดยอ้างว่ามีการตลาดคล้ายกับดิไอคอนกรุ๊ป ล่าสุด มะตูม มาร่วมงาน “Thailand Health and Beauty Awards 2024” ณ EnCo Terminal ดอนเมือง นักข่าวเลยถามถึงเรื่องดังกล่าว

ถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา เกี่ยวกับเรื่องแบรนด์เอธธีนเมื่อ 6 ปีที่แล้ว?

“ตามนั้นเลย จริงๆ ตูมว่าพี่หอมค่อนข้างพูดละเอียดมากๆ ในโหนกระแส เพราะตูมก็เพิ่งมาฟังย้อนหลังเต็มๆ ก็ตามที่พี่หอมแจ้งครับ จริงๆ เมื่อ 6 ปีที่แล้วอาจไม่ได้มีโอกาสมาคุยกับพี่ๆ สื่อว่าเบื้องหลังที่แบรนด์มาถึงจุดที่ไปต่อไม่ได้มันเกิดอะไรขึ้น หรือมันมีปัญหาอะไร เพราะว่าตอนนั้นถ้าเกิดทุกคนตามข่าว มจสก มันใหญ่มาก มันล้มเป็นโดมิโนจริงๆ เหมือนเป็นสึนามิวงการอาหารเสริมเลยครับ มันเลยทำให้แบรนด์เราเจอวิกฤตหนักในช่วงนั้นเหมือนกันครับผม”

...

จากการที่ถูกพูดถึงอีกครั้ง กระทบยังไงบ้าง?

“สำหรับตูมมันมีบ้าง มันก็คงเป็นความรู้สึกเก่าๆ ที่เราเคยไม่รู้ว่าจะผ่านมันไปได้ไหม แต่ตอนนั้นผ่านมาได้แล้ว พอวันนี้ถูกหยิบยกชื่อแบรนด์ออกมาพูดอีกครั้ง มันรู้สึกใจสั่นเหมือนกันนะตอนแรกที่เห็นข่าว เราเองก็มั่นใจว่าเราทำถูกต้องอย่างเต็มที่แล้ว ณ ตอนนั้น ออกมาแถลงข่าวเป็นเรื่องเป็นราวแล้ว พอพี่อัจฉริยะหยิบขึ้นมาพูดอีกรอบหนึ่ง คนในแบรนด์ก็ตกใจ กลายเป็นว่ามะตูม แต้ว พี่หอม กลับมาคุยโทรศัพท์กันอีกครั้งนึงในรอบหลายปี”

คุยกับแต้วแล้วเป็นไงบ้าง?

“อุ๊ย จริงๆ ต้องขอบคุณแต้วมากๆ ตั้งแต่เราไม่ได้ทำแบรนด์ด้วยกัน ตูมกับคุณแต้วไม่ได้คุยกันเลยด้วยซ้ำ เพราะเขาเป็นสายการแสดง เราเป็นสายพิธีกร ไม่ค่อยได้เจอกันเลยด้วย แต่พอเกิดเรื่องขึ้นเราก็ต่อสาย เราเองก็อยากคุยกับเขา อันดับแรกคืออยากขอโทษแต้ว คือจริงๆ แต้วเขาเป็นคนที่ตั้งใจทำงานมากนะ ตอนนั้นที่เขาทำงานร่วมกับเราอยู่ พอมาวันนี้เราแยกย้ายกันไปเติบโตคนละเส้นทาง พอมันถูกหยิบยกมาพูด อันดับแรกเลยตูมถามพี่หอมคุยกับแต้วยัง กลัว เป็นห่วงความรู้สึกของแต้ว”

แต้วเขากังวลอะไรยังไง?

“อืม... แต้วมีอีเวนต์วันที่ 28 นี้นะ (หัวเราะ) รึเปล่า ขอโทษๆๆ ถามแต้วเองดีกว่าครับว่ารู้สึกยังไง”

ที่เราอยากขอโทษแต้วเพราะเราเป็นกังวล?

“จริงๆ ตูมอยากขอโทษไม่ใช่แค่แต้ว ตูมอยากขอโทษทุกคนเลย ที่ได้รับผลกระทบจากข่าวที่เพิ่งเกิดขึ้น 2-3 วันนี้เกี่ยวกับแบรนด์เอธธีน อยากขอบคุณด้วย คือตูมเห็นคอมเมนต์จากตัวแทนเก่าๆ จากคนที่เขาเป็นลูกค้าเก่าๆ เขามาเมนต์ให้กำลังใจเราเยอะมาก ตูมอ่านทุกข้อความเลยครับ”

ต้นหอมบอกว่าเจ๊ง มันถึงขั้นนั้นเลยไหม ณ วันนั้น?

“เอาง่ายๆ เลย ถ้าแบรนด์ประสบความสำเร็จ เราจะหยุดทำเหรอครับ ธุรกิจทุกตัวหากมันกำไร มันประสบความสำเร็จ ทุกตัวไปต่อได้หมด ไม่งั้นเราจะมีแบรนด์ที่อยู่มา 10 ปี 20 ปีเหรอครับ เพราะฉะนั้น วันนั้นมาเจอวิกฤต แต่เป็นวิกฤตเหตุการณ์หลังบ้าน ไม่สามารถออกมาพูดกับประชาชนได้ ณ เวลานั้น ตามที่พี่หอมแจ้งในรายการวันนั้นเลยครับ ว่าเอธธีนไม่ได้กำไร“

ที่มีผู้เสียหายแจ้งผ่านคุณอัจฉริยะ เรามองตรงนี้ยังไงบ้าง?

“จริงๆ คุณอัจฉริยะเขาทำหน้าที่ตามสังคมที่เขาทำ แต่ส่วนตัวตูมมองว่า ปัญหาเกิด แจ้งที่นั่นดีกว่า เพราะว่าตอนเราเคยมีปัญหาเมื่อ 5 ปีที่แล้วก็มีตัวแทนมาแจ้ง มันมีการเยียวยา มีการพูดคุย ตรงนั้นจบไปแล้ว พอวันนี้ไม่รู้ว่าผู้เสียหายที่หลงเหลืออยู่ที่ไปแจ้งคุณอัจฉริยะเป็นใครบ้าง มันไม่ใช่ความควบคุมของตูม และอีกอย่างตูมไม่ได้ร่วมงานกับทางบริษัทผู้ผลิตมาเกือบ 5 ปีแล้ว เพราะฉะนั้นตูมคงไม่มีอำนาจในการตอบแทนบริษัทว่าจะดูแลตรงส่วนไหนได้บ้าง สุดท้ายแล้วมะตูม พี่หอม แต้ว เราเป็นคนสาธารณะ เพราะฉะนั้นแล้วเวลาใครมีปัญหาอะไร รู้อยู่แล้วว่าจะต้องติดต่อเราได้ที่ไหน ตูมว่ามันเคลียร์จบไปแล้ว ถ้าเกิดยังคงหลงเหลืออยู่ ตูมก็อยากที่จะรับฟังและดูว่าบริษัทเขาจะดูแลตรงนี้ต่อไปได้ยังไงบ้าง”

...

คิดว่ามันเป็นเกมการเมืองไหม?

“ไม่ออกความคิดเห็นดีกว่า ตูมไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องภายในภายนอกยังไง ส่วนตัวแล้วเราเคยโปรโมตแบรนด์นี้จริงๆ เราเคยรับหน้าที่เป็นเจ้าของแบรนด์จริงๆ เพราะฉะนั้นแล้วต่อให้เราเลิกทำมาแล้ว แต่ ณ วันนี้ ถ้ามีคนพูดถึงอยู่ ตูมก็พร้อมที่จะพูดคุย สามารถแถลงได้เลยว่าทางแบรนด์เรามีความตั้งใจทำสิ่งที่ดีที่สุดให้ผู้บริโภคแล้วจริงๆ แต่ ณ ตอนนั้นมันเจอวิกฤต ทำให้จุดจบเป็นแบบนี้”

จากกระแสสังคมตอนนี้ ทำให้คนคิดว่าเอธธีนเกี่ยวข้องกับธุรกิจขายตรงด้วยหรือเปล่า?

“ตัวตูมเองไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องระบบธุรกิจออนไลน์แบบ 100% มาก่อนครับ ตูมคิดว่า ณ ตอนนั้น ถ้าเกิดเราทำอะไรผิด จะบอกว่าตอนนั้นไม่มีโซเชียลก็ไม่ได้ เพราะแบรนด์ตูมก็อยู่ทุกโซเชียลเหมือนกัน เพราะฉะนั้นการตลาดของเราตอนนั้นไม่ใช่แค่ในองค์กร มันทั่วประเทศ เพราะฉะนั้นตูมเลยมองว่าระบบของเราที่เราทำตอนนั้น คือขอใบอนุญาต ขอทุกอย่างจากผู้ใหญ่ เราโดนตำรวจเจ้าหน้าที่ทุกคนตรวจสอบหมดทุกอย่าง แม้กระทั่งกรมอาหารและยาก็ออกมาแถลงเองแล้ว เพราะฉะนั้นตูมมองว่าถ้าเกิดจะไปลิงค์กับธุรกิจบางประเภทที่เกี่ยวกับเครือข่าย ณ ปัจจุบันนี้ ตูมคิดว่าน่าจะใช้กันไม่ได้นะครับ”

...

เอธธีนให้อะไรกับเราบ้าง?

“โห...คำถามนางงามมาก ให้มะตูมได้เรียนรู้อะไรอีกเยอะมากในชีวิตนี้”

ต้นหอมบอกว่ามีผลกระทบ แล้วเราเป็นไงบ้าง?

“โชคร้ายแหละที่เรายังไม่ได้มีงานเยอะเท่าต้นหอม (หัวเราะ) แต่เนื่องจากว่าวันนี้เราเป็นเจ้าของรายการ ตูมเป็นโปรดิวเซอร์ครั้งแรกในชีวิต เพราะฉะนั้นรายการตูมไม่ใช่แค่คนที่มาจ้างตูมไง แต่คือลูกค้าหลัก 20 ตัว ตูมต้องคอยเช็กลูกค้าตลอดว่าโอเคไหม แต่ว่าขอบคุณมากจริงๆ ทุกแบรนด์ ทุกองค์กร หรือลูกค้าที่ร่วมงานกับตูมเขาโอเคกันหมดเลย เขารู้สึกว่าอันนี้เรื่องหลายปีแล้ว เราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร ต้องขอบคุณพี่หอมด้วย  สำหรับลูกค้าต่างประเทศ ถ้าต้องการคำตอบอะไร ตูมพร้อมตอบทุกอย่างที่พอจะตอบได้”

เรื่องที่เกิดขึ้นมันส่งผลต่อชื่อเสียงของเรา ได้คุยกับต้นหอมไหมในการปกป้องสิทธิ์ของเรา?

“จริงๆ หลายคนบอกว่าปกป้องสิทธิ์ของตัวสิ แต่สิทธิ์ของตูมมันถูกพี่หอมยกไปพูดในรายการหมดแล้ว ตูมมองว่าพี่หอมค่อนข้างชัดเจนมากกับการตอบคำถามแบบไม่มีการเตี๊ยมสคริปต์ด้วยซ้ำ มันคือการโฟนอินสดๆ ถูกยิงคำถาม แล้วเขาตอบออกมาได้แบบ...เราฟังเราน้ำตาซึมเลย ว่าแม่ขอบคุณนะ ที่แบบ...6 ปีที่แล้วที่ตูมเลือกเขามาเป็นหุ้นส่วน จนกระทั่งวันนี้ไม่ผิดหวังเลยสักวินาทีเดียว ที่มีผู้หญิงชื่อต้นหอมอยู่ในการทำงาน ทั้งพาร์ตชีวิตจริง วงการบันเทิง และวงการธุรกิจ”

คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม