นักร้องลูกทุ่งสาว เจนนี่ รัชนก สุวรรณเกตุ หรือ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น พร้อมด้วย ยิว ฉัตรมงคล สมแก้ว สามี และ และ ทนายไพศาล ที่ปรึกษาทางกฎหมายของค่ายเพลงได้หมดถ้าสดชื่น เปิดใจผ่านรายการ “โหนกระแส” ทางช่อง 3 โดยมี หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ดำเนินรายการ ถึงเรื่องที่เคยไปไลฟ์สดกับ แม่ตั๊ก กรกนก ก่อนจะเกิดประเด็นแตกหักและไม่ร่วมงานกันอีก พร้อมทั้งพูดถึงปมร้อนนาฬิกาหรู 2 ล้านบาทที่ เจนนี่ ซื้อเอง แต่กลับถูกตัดคลิปบิดไปว่า แม่ตั๊ก ซื้อให้
รู้จักกับคุณตั๊กมานานแค่ไหนแล้ว?
เจนนี่ : ประมาณ 3 ปีค่ะ 3 ปีนี้ใช้คำว่าสนิทได้ค่ะ รู้จักกันเพราะพี่เขาจ้างไปไลฟ์สดรีวิวสินค้า โปรโมตสินค้าตัวใหม่ เราก็ไปเพราะว่าพี่เขาจ้างหลายคนแล้ว เราก็เชื่อใจ เราก็ไปปกติ หนูก็เคยมีไปไลฟ์ร้านทองด้วย แต่ว่าร้านทองของหนูที่กลับไปย้อนหนูยังไม่มีผู้เสียหายเกิดขึ้น แต่ถามว่ารู้สึกผิดไหมก็รู้สึกผิด เพราะว่าหนูคิดว่าองค์ประกอบทุกสิ่งอย่างมันก็นำมาซึ่งก่อให้เกิดผู้เสียหายในวันนี้
...
อย่างที่พี่หนุ่มแจ้งเมื่อกี้คือเหมือนสร้างความเชื่อถือเชื่อมั่นให้ วันนี้ที่มาก็ตั้งใจว่าจะพูดที่นี่ทีเดียว แล้วก็พูดต่อหน้าทนาย พูดต่อหน้าพี่หนุ่ม มาแสดงความบริสุทธิ์ใจแล้วก็มาเป็นพยานในฐานะคนเคยร่วมงานแล้วก็ขอเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงที่จะยืนเคียงข้างความถูกต้องค่ะ
เจนนี่รู้ใช่ไหม ณ วันนี้มันมีประเด็นที่เกิดขึ้นในสังคมมากมาย รวมถึงทางตำรวจเองก็มีการบอกว่าคนที่มีการไปไลฟ์กับทางคุณตั๊กเองมีโอกาสที่จะต้องถูกเรียกมาตรวจสอบด้วยเหมือนกัน ทราบใช่ไหม?
เจนนี่ : ทราบค่ะ ถามว่ากังวลใจไหม ตอนแรกก็กังวลใจแต่พอรู้ว่าทางรายการโหนกระแสให้เราได้มีโอกาสมาพูดก็สบายใจค่ะ นั่งพูดตรงนี้อะไรผิดอะไรถูกว่ากันตรงนี้ ถ้าผิดแก้ไขตรงนี้ ถ้าถูกทำต่อค่ะพี่
อันไหนที่ทำให้เรารู้สึกอึดอัดหัวใจเหลือเกิน?
เจนนี่ : เป็นเรื่องของความรู้สึกค่ะ (วันนี้ตีกันแล้วเหรอ?) ตัดความสัมพันธ์มาตั้งแต่เดือนธันวาคม วันที่ 9 ปีที่แล้วค่ะ
อะไรคือจุดแตกหักตัดความสัมพันธ์กับทางฝั่งคุณตั๊ก?
เจนนี่ : จริงๆ ต้องขอบคุณสามีค่ะ เพราะว่าสามีค่อนข้างที่จะมองคนเก่งพอใช้ได้ แล้วก็เตือนเราอยู่เสมอเกี่ยวกับเรื่องของการทำงานและการคบคน จริงๆ หนูก็มีเรื่องอึดอัดไม่สบายใจมาสักระยะ แต่พอถึงวันนึงที่บังเอิญว่าพี่เขามีเน็ตไอดอลมาไลฟ์การตลาด แล้วเน็ตไอดอลด่าเรากลางไลฟ์แล้วพี่เขามีการหัวเราะตลกขบขัน กันพอดีเราถือว่าได้จังหวะนี้การแสดงจุดยืนว่าของไม่ไปต่อ แล้ว ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ไม่มีการรับงานเพิ่มแล้ว งานที่เหลือก็มีการโอนคืนครบทุกบาททุกสตางค์
(เปิดคลิปเจนนี่ไปไลฟ์สดกับคุณตั๊ก) อันนี้คือคลิปเหตุการณ์เมื่อไหร่?
เจนนี่ : ตอนครบรอบแต่งงานปีที่แล้วค่ะ
เหตุการณ์นี้มันคืออะไรลองเล่าให้ผู้ชมฟังและเล่าข้อเท็จจริงหลังบ้าน ที่เราเห็นนี่คือหน้าบ้าน เดี๋ยวฟังเรื่องหลังบ้านว่าเป็นยังไงเล่าซิ?
เจนนี่ : ก็เป็นวันครบรอบแต่งงานของเราสองคนค่ะ พี่เขาจ้างไว้แล้วแหละว่าให้ไปไลฟ์ แต่ครั้งนั้นเขาอยากได้สามีไปด้วยเพราะว่าครบรอบแต่งงาน เวลาขายก็จะขายแบบโปรโมชั่นครบรอบแต่งงานจัดโปร แล้วพี่เขาก็มีการมอบของขวัญให้เราในไลฟ์สด ซึ่งตอนนั้นเซอร์ไพรส์จริงๆ ไม่ทราบจริงๆ ว่ามันคืออะไร
แล้วก็มีการเปิดขึ้นมาเห็นเป็นเงิน ก็เลยไม่มีการดึงออกมา น่าจะประมาณ 300,000 บาทค่ะ แต่หนูไม่ได้ดึงออกมาเพราะเอะใจ ไม่อยากให้มีดราม่าหลังจากนี้ เพราะเรารู้ว่าน่าจะเป็นของขวัญที่โดนหักค่าตัวแน่นอน ก็เลยไม่ได้มีการดึงออกมาเพื่อโชว์ว่าพี่เขาให้อะไรเรา ทีนี้พอกลับมาเราก็ไม่ได้มีการทวงไป แต่สุดท้ายข้อสรุปคือตรงนั้นมันคือค่าจ้างในการไลฟ์สด
เขามีการตกลงกับเราก่อนไหมว่าจะเอากล่องนี้เป็นเงินค่าตัวหนู เดี๋ยวจะเอามาเซอร์ไพรส์หนูหน้าไลฟ์นะ?
เจนนี่ : ไม่ได้มีคุยกันค่ะ
ยิว : เขาไม่ได้บอกครับ ก็คือรู้ตอนนั้นเหมือนกัน
เจนนี่ : รู้หน้าไลฟ์ว่าเขาให้ แต่มารู้ตอนจบกลับบ้านแล้วว่าอันนั้นคือค่าตัว
ยิว : ก็แอบหน้าชานิดนึง
เจนนี่ : ตอนแรกเราก็ดีใจที่เงินมาให้ตั้งหลายบาท เซอร์ไพรส์พี่เขาต้องรักเรา เอ็นดูเรามาก เราก็ดีใจชื่นใจ
...
แล้วเขาบอกเราตอนไหนว่านี่คือเงินค่าตัว?
เจนนี่ : หนูไม่แน่ใจว่าหนูเป็นคนทักท้วงไปเรื่องค่าตัว หรือว่าพี่เขาแสดงมาเองว่ายังเหลืออีกไลฟ์นะ ที่จ่ายไปวันนี้ เพราะว่า 300,000 มันเท่ากับ 2 ไลฟ์ค่ะ ไลฟ์ละ 150,000 เราก็ทำได้แค่ขอบคุณค่ะ เพราะเราก็ไม่ได้อยากมีปัญหา อันนี้เป็นเรื่องเล็กไม่เท่ากับเรื่องนาฬิกาที่เป็นข่าวค่ะ
มันได้เหรอแบบนี้?
ทนายไพศาล : พูดสั้นๆ คำเดียวนะว่า ความปลอมจะปรากฏเมื่อความจริงถูกพิสูจน์ เรื่องมีเท่านี้แหละ แล้วถ้าทำแบบนี้กับหลายๆ คนนะ ผมบอกเลยว่าความจริงมันจะปรากฏเรื่อยๆ และคนที่ไม่ได้อยู่บนโลกความจริงร่วงทุกราย
แล้วตกลงเป็นยังไง เหตุการณ์วันนั้นเห็นว่ายังมีคลิปต่อเนื่องอีก?
เจนนี่ : อ๋อ.. ที่มีดราม่าเข้ามาค่ะว่าพี่ตั๊กแจกไม่จริง และเขาก็เหมือนให้เจนนี่ช่วยคอนเฟิร์ม หนูก็เลยต้องคอนเฟิร์มไปว่าที่หนูเห็นน่ะคือเขาแจกจริงนะ ถ้าเขาแจกไม่จริง ก็ให้เขาเจ๊งไปเลย ถ้าแจกจริงก็ให้เจนนี่มีงานยิ่งๆ ขึ้นไป
หลังจากนี้เห็นบอกว่ามีการคืนเงินกันด้วยใช่ไหม?
เจนนี่ : ใช่ค่ะ ตอนที่มีปัญหากันจุดแตกหักปุ๊บ ก็เข้าทางเลย แต่ก่อนจะคืนเงินพี่เขาบอกว่ากับเจ๊แมนให้ไปด้วยกันอีกสักไลฟ์ แต่หนูมองว่าไม่อยากได้กระแสเกี่ยวกับเรื่องลบอีกแล้ว ก็เลยปฏิเสธ พอปฏิเสธปุ๊บ เขาก็เลยบอกว่าที่เหลือเขาไม่สะดวกที่จะจ้างต่อแล้ว หนูก็เลยโอนคืนเลยค่ะ (เปิดหลักฐานเจนนี่โอนเงินคืน 450,000 บาทให้ตั๊ก)
ถามถึงนาฬิกาที่เอามาตั้ง?
เจนนี่ : อันนี้เป็นชิ้นที่พี่เขาซื้อให้จริงๆ ไม่ได้ไปไลฟ์สด แต่ว่าก็มีการถ่ายทำคอนเทนต์เหมือนอยากซื้อให้น้อง นัดหนูไปที่ไอคอนสยามแล้วก็ซื้อแล้วก็ถ่ายไปลงในช่อง กำไลข้อมือคาเทียร์ราคาประมาณ 140,000 อันนี้ไม่มีค่าจ้าง แต่ก็เหมือนถ่ายทำคอนเทนต์ลงช่อง
...
จะคืนเขาไหม?
เจนนี่ : คืนได้ค่ะ อยากคืนเหมือนกันค่ะเพราะกลัวว่าเป็นเงินที่มาจากการฉ้อโกง ก็สามารถนำไปแบ่งให้กับผู้เสียหายได้
ทนายของคุณเจนนี่ว่ายังไง?
ทนายไพศาล : แนะนำให้คืน เพราะจะถูกตรวจสอบทรัพย์สินหรือการโอนเงินใดๆ ที่ได้มาจากผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดเบื้องต้นต้องคืนครับ แต่การคืนเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าเราได้มาโดยสุจริตแบบไหน ค่าตอบแทนอะไร ถ้าไม่ได้มีค่าตอบแทนอะไรเป็นการให้โดยเสน่หาอย่างนี้
แต่เนื่องจากผู้ที่ถูกกล่าวหาถูกดำเนินคดีอยู่ ต้องอธิบายว่าคนที่เกี่ยวข้องกับร้านทองนี้ได้รับทรัพย์สินอะไรไปก็ควรจะไปชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าทรัพย์ได้มายังไง ได้มาโดยสุจริตหรือไม่ ได้ค่าตอบแทนมาแบบไหน เพราะตอนนี้เขาได้ถูก ปปง. อายัดหรือไม่อย่างไร ผมไม่ได้ยืนยันข้อเท็จจริง แต่ต้องทำ ต้องคืน อะไรที่ได้มา แต่ถ้าอะไรที่เป็นค่าตอบแทน เราไปแสดง อยู่ที่เจ้าหน้าที่เขาจะใช้ดุลพินิจจะกันไว้เป็นของกลางหรือไม่แค่นั้นเอง
กำไลอันนี้เจนนี่บอกว่าขอคืน แล้วจะคืนทางไหนล่ะ?
ทนายไพศาล : เจ้าหน้าที่ตำรวจครับ ไปบอกว่าที่มาที่ไปเป็นยังไงคือทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเงินทรัพย์สินต้องแสดงให้ได้ว่าที่มาที่ไปเป็นยังไงแบบไหน สุจริตหรือไม่ รับมาโดยอะไร ค่าตอบแทนแบบไหน แค่นั้นเอง
เจนนี่ : อันนี้เป็นชิ้นเดียวที่เราไม่ได้ทำงานแลก เราก็เลยขอคืนกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจค่ะ
ทนายไพศาล : ต้องบอกว่าอย่าไปเสียดายเพราะถ้าคุณเสียดายแล้วมันเกี่ยวพันโดยหาที่มาที่ไปไม่ได้ ไอ้ความเสียดายนี้โทษมันสูง
เจนนี่ : ไม่ได้เสียดายค่ะ
ยิว : เราคืนไม่ได้ทำร้ายน้ำใจพี่ตั๊ก แต่เจนอยากแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าเราไม่ได้อะไร
...
ส่วนนาฬิกาปาเต็ก ฟิลิป ที่เป็นประเด็น มูลค่า 2 ล้าน (เปิดคลิปวันมอบ) ที่ฟังก็เหมือนเขาให้คุณไหม?
เจนนี่ : หนูซื้อเองค่ะ แต่ว่ามอบบนเวทีพรีเซนเตอร์พอดีค่ะ ทุกคนก็เลยคิดว่าแบบนั้น มันก็จะมี TikTok บางช่องที่พยายามตัดเพื่อสื่อให้รู้ว่าพี่เขาซื้อให้ค่ะ
มันมีการตัดคลิปที่พยายามบิดให้คิดว่าคุณตั๊กเป็นคนซื้อให้?
เจนนี่ : ใช่ค่ะ (แล้วเรือนนี้ไปซื้อมาไง?) ปรึกษาทางพี่ผู้ชายว่าอยากหาซื้ออะไรไว้เก็งกำไร เราจะได้ไม่ต้องเก็บเงินสดไว้ พี่เขาก็เลยแนะนำว่าเป็นนาฬิกาไหมเพราะพี่เขาเคยซื้ออยู่ เขาก็เลยให้เลือกทางไลน์ หนูก็บอกว่างั้นเอาเรือนนี้ก็ตกลงซื้อแล้วพี่เขาก็บอกว่างั้นเดี๋ยวให้มาส่งวันนี้เลยนะ หนูก็เข้าใจว่าถ้าส่งวันนี้น่าจะตอนเสร็จงานมั้ง แต่แอบตกใจที่ทางพิธีกรก็รู้ราคาเฉยเลยทั้งที่ว่าไม่ได้คุยกับใครเลย คุยกันแค่ข้างหลัง
แล้วจังหวะที่นาฬิกามาก็เป็นช็อตที่พี่เขาอยู่บนเวทีครบพอดี แล้วพี่เขายื่นให้แถมมาแกะนาฬิกาเรือนนี้เองก่อนหนูด้วยซ้ำ ทั้งๆ ที่หนูเป็นคนซื้อ อันนี้หนูก็มีความเอะใจ แล้วก็เสียใจนิดนึงค่ะ เพราะว่ามันค่อนข้างแพง เราก็อยากถ่ายคอนเทนต์ของเรา แล้วก็จะมีอีกคลิปนึงที่เหมือนหนูดึงเงินจากเค้ก ซึ่งเขาก็เขียนแคปชั่นว่า 2 ล้าน ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ เป็นวันเกิดหนูย้อนหลัง คือมันก็เท่ากับมูลค่าของนาฬิกา มันก็ก้ำกึ่งกันไปหมด มันหาความชัดเจนไม่ได้
แล้วเงินในเค้กนี่มันเท่าไหร่?
เจนนี่ : 2 หมื่นค่ะ
ทนายไพศาล : ซีเรียสนะ มันเป็นเรื่องของสรรพากร
เจนนี่ : แถมตอนลงจากเวที หนูก็พยายามแก้ต่างทันทีว่านาฬิกานี้หนูซื้อเองนะคะ หนูทำงาน ก็พยายามจะพูดเพื่อให้เกิดความเข้าใจ เพราะหนูอยากให้เข้าใจว่า หนูไม่เคยได้อะไรจากใครมาฟรีๆ โดยที่เราไม่ได้ทำงานค่ะ แล้วก็มีอีกหลายคลิปที่เขียนว่าเปย์ 2 ล้าน เจนนี่รับ 2 ล้าน ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงหนูซื้อเอง
แล้วใบ Certificate ของนาฬิกามีไหม?
เจนนี่ : ที่หนูส่งรูปให้ทีมงานคือไม่ได้ใบนั้นมาจริงๆ วันนั้นได้มาประมาณนี้ ถามว่ามีใบไหมจำไม่ได้ แต่ก็มีข้อความที่ทักไปถามพี่เขาว่าตรงนี้มันคืออะไร มันมีไหม เพราะหนูก็รับมาบนเวทีเลยค่ะ เท่าที่จำได้คือยังไม่เคยเห็น แต่เดี๋ยวจะกลับไปดูอีกที วันที่ได้รับของมีเท่านี้ ใบคู่มือมี แต่ใบ Certificate เดี๋ยวรีบกลับไปหาดูค่ะ ก็เป็นครั้งแรกที่ซื้อของแพงๆ ค่ะ ถือเป็นประสบการณ์
คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม