กลายเป็นประเด็นที่ทำเอาขาเผือกมุงรัวๆ สำหรับกรณีที่พระเอกหนุ่มตี๋ ตงตง กฤษกร กนกธร หรือ ตงตง เดอะสตาร์ ออกมาให้สัมภาษณ์เปิดตัวว่าศึกษาดูใจกับนักร้องสาว สาลี่ โสมวิมาลา ณ อุบล หรือ สาลี่ เดอะสตาร์ แต่งานนี้ชาวเน็ตก็ขุดภาพที่ เบล บุษยา ตั้งภากรณ์ ลูกสาว บรรยิน ตั้งภากรณ์ โพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นภาพที่ ตงตง นั่งทานข้าวอยู่กับสาวอื่นที่ไม่ใช่ สาลี่ พอนักข่าวเจอ ตงตง ในงาน “Diamond Night Pool Party สาดส่องแฟชั่นเพชรวิบวับนับ 5,000 ล้าน” ณ บ้านหรูคุณชูชัย ย่านเลียบด่วนรามอินทรา เลยถามถึงเรื่องนี้
ขอถามถึงเรื่องที่เปิดตัวคบกับสาลี่ แต่ก็มีรูปภาพกับสาวอีกคนในเฟซบุ๊กของเบล บุษยา?
"จริงๆ มีคนส่งมาให้ผมดูบ้างแล้วครับ ผมไม่ได้ซีเรียสอะไรเลย ผมกับพี่เมเปิ้ลเรารู้จักกันอยู่แล้ว แล้ววันนั้นเป็นวันที่ผมไปทานข้าว จริงๆ พี่เมเปิ้ลกำลังจะกลับแล้ว แต่ว่าผมเดินไปข้างหน้าพอดี เลยบอกพี่เมเปิ้ลอย่าเพิ่งกลับ เข้าไปด้วยกันใหม่ก่อน เค้าก็เลยเข้าไปอีกรอบหนึ่ง ก็ได้ไปทานข้าวแล้วรู้จักคนนั้นคนนี้อยู่ข้างใน แล้วก็เป็นพี่เบลถ่าย ก็เพิ่งรู้จักพี่เบลครั้งแรกวันนั้น"
...
ตกใจไหม?
"ไม่ได้ตกใจเลยครับ คือผมกับพี่เมเปิ้ลสนิทกันมากๆ เป็นพี่น้อง เป็นพี่สาวที่ผมสามารถคุยได้ทุกเรื่อง มีโอกาสได้ไปเที่ยวต่างประเทศกับแก๊งที่ไม่ใช่แค่พี่เมเปิ้ล คือเรามีแก๊งของเราที่เป็นแก๊งไปเที่ยวต่างประเทศคือที่เกาหลี ก็รู้จักกันหมด จำนวนหลายคนเหมือนกัน"
แต่ข่าวออกมาไม่ได้เป็นแบบนั้น?
"คือบางครั้งผมก็ไม่สามารถที่จะมาชี้แจงอะไรต่างๆ ได้ อะไรที่จริงไม่จริงสำหรับผมมันก็ทำอะไรไม่ได้ สุดท้ายคนที่มาคอมเมนต์ก็จะมีทั้งชอบและไม่ชอบ เราไม่สามารถไปห้ามเขาได้ เพราะฉะนั้นผมทำอะไรไม่ได้นอกจากปล่อยไป อย่างน้อยเรารู้แล้วว่ามันเป็นยังไง ที่เมเปิ้ลยังเข้ามาทักผมเลยว่าดูสิ ผมก็ทำได้ได้แค่อืม ตามนั้นครับ"
จังหวะมันเป๊ะเหมือนกันนะ?
"มันนานมากแล้วครับ จริงๆ ก็ผมไปนานมากแล้วนะ ผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่เบลถ่าย ผมไม่รู้เลย แล้วผมมาเห็นวันนั้น ผมมารู้ในวันที่มีคนมาส่งให้ผมครับ"
ต้องเคลียร์กับน้องสาลี่ไหม?
"อ๋อ ไม่ น้องรับทราบอยู่แล้วครับ เพราะว่าวันนั้นผมก็บอกน้องอยู่แล้วว่าเจอใครบ้าง อยู่กับใคร"
สาลี่ก็ออกมาตอบเองว่าจริงๆ คนในภาพเค้าก็รู้จัก?
"เห็นแล้วครับ ผมคุยกับน้องตลอด ผมก็เลยไม่ได้ไปใส่ใจอะไรมาก เรารู้กันอยู่แล้ว ผมแค่บอกน้องไว้ประมาณนึงเฉยๆ ผมไม่อยากให้ออกมาต่อสู้อะไรแบบนี้ครับ ไม่งั้นบางครั้งบางเรื่องก็ไม่จบ อย่างน้อยผมโดนเดี๋ยวแป๊บนึงมันก็คงหายไป ถ้าน้องออกไปผมก็กลัวว่าเดี๋ยวจะมีอะไรมากระทบน้องอีกหรือเปล่า ทั้งที่ตัวน้องไม่ได้ทำอะไรผิดเลย
ถามว่าเขาได้รับผลกระทบไหม จริงๆ ไม่ได้เยอะขนาดนั้น หลักๆ ผมก็เป็นห่วงความรู้สึกน้อง เพราะว่าน้องยังไม่มีประสบการณ์ตรงนี้เยอะมากมาย พอเขาต้องมาเจออะไรแบบนี้ ไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาเจอมันมากน้อยแค่ไหน ที่เขาไม่ได้เล่าให้ผมฟังอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้ ผมเลยรู้สึกว่าไม่อยากให้ออกไปต่อสู้อะไรมากครับ"
เชื่อไหมว่าน้องจะรับมือตรงนี้ได้?
"ผมก็มีความเชื่อนะว่าน้องจะเก่งและไหวกับเรื่องตรงนี้ เพราะว่าน้องบอกผมอยู่เสมอว่าน้องไม่สน อย่างน้อยคือเราฟังกันและกัน เห็นน้องคอยพูดอยู่บ่อยๆ ว่าไม่ต้องเป็นห่วงนะ มันก็ทำให้เราโล่งใจไปประมาณนึง แต่สุดท้ายผมก็เป็นห่วงความรู้สึกของเขาอยู่ดี"
แปลว่ามีการคุยกันแล้วว่า การที่เราจะศึกษาดูใจ เราจะต้องเจอแบบนี้?
"ใช่ครับ ผมบอกเอาไว้ตั้งแต่ต้นว่ามันคงจะมีเรื่องอะไรแบบนี้ แต่อนาคตก็ไม่มีใครรู้หรอกว่าจะเป็นยังไง แต่อย่างน้อยเราคุยกันทุกเรื่อง เล่าให้ฟังทุกเรื่องในทุกๆ วัน อย่างน้อยผมว่าเป็นสิ่งที่ดี"
...
แปลว่าเราคิดอยู่แล้วว่าการที่จะมีใครสักคน คนที่จะมาคุยกับเราต้องเจอเรื่องนี้?
"จริงๆ ก็คิดเอาไว้อยู่แล้วครับ อยากที่จะพยายามพาเขาไปให้ถึงปลายทางให้ได้"
น้อยใจไหม?
"อาจจะเป็นช่วงแรกๆ ที่ผมเคยผ่านมาแล้ว แต่ตอนนี้คำว่าน้อยใจมันไม่ได้อยู่กับผมแล้ว มันมีแต่คำว่าเป็นห่วงมากกว่าก้บคนที่จะต้องเดินทางไปกับเรา และสิ่งที่เขาต้องมาเจอ โดยที่เขาอาจจะได้ไปเจอสิ่งที่ดีกว่านี้ก็ได้ แต่เขาเลือกที่จะเดินในเส้นทางนี้ ผมก็เลยรู้สึกเป็นห่วงความรู้สึกของเขาในสิ่งระหว่างทางที่เดินไปกับผมแล้วเขาต้องเจอ ก็เลยเป็นห่วงตรงนี้
ล่าสุดน้องก็มาเล่าให้ฟังว่ามีหัวหรือหมอดูอะไรไม่รู้ที่เขาทำช่องแล้วเอาดวงของผมกับดวงน้องไปดู แล้วเขาเอาไปลงในโซเชียล มันก็ทำให้ตัวน้องเองรู้สึกไม่ดี คือเอาไปดูได้ แต่ไม่ใช่เอามาลง มันก็จะมีคอมเมนต์ไปอีก มีทั้งดีและไม่ดี อันนี้มันเป็นดวงของเรา แต่เขาไม่น่ามีสิทธิ์เอาของเราไปลงแบบนั้นหรือเปล่า
ผมก็ไม่ได้เข้าไปฟังเหมือนกัน แต่น้องมาเล่าให้ผมฟัง แต่จริงๆ ก็ไม่มีใครดูได้ชัดเจนหรอก ตราบใดที่เขาไม่ได้รู้เวลาเกิดของเราอย่างแน่นอน แต่ก็มีชื่อมีวันเดือนปีเกิดที่เสิร์ชตาม Google แล้วเอาไปดู แต่สำหรับผมการที่เอาไปลงแบบนี้มันก็อาจจะไม่ได้เหมาะหรือเปล่ากับสิ่งที่คุณทำ เพราะว่ามันก็เป็นดวงของเรา ยังไม่ได้รับอนุญาตในการดู"
มันมีทั้งคอมเมนต์ที่ดีและไม่ดี เราได้เข้าไปดูไหม?
"จริงๆ ผมดูบ้าง แต่ดูผ่านๆ ไม่ได้ดูทุกคอมเมนต์ จริงๆ เรารู้อยู่แล้วว่าผลมันจะเป็นประมาณไหน ผมไม่อยากจะคาดหวังอะไรเลย ผมไม่อยากให้ใครก็ตามรู้สึกไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม วันนั้นที่ผมต้องพูดคือ ยังไงผมก็ต้องพูดให้ทุกคนได้รับรู้ ผมไม่ได้อยากมาเปิดให้เป็นกระแส แค่รู้สึกว่าคนคบกันศึกษาดูใจมันก็เป็นเรื่องของคนสองคน แต่พอเราทำอาชีพตรงนี้อยู่ก็ไม่อยากปกปิดอะไรเพราะวันนึงเดี๋ยวใครก็เข้าไปถ่ายรูปอะไรอีก ผมก็ตัดสินใจมาเล่าให้ฟัง ผมพยายามมาอัปเดตให้พวกพี่ๆ ฟัง แต่ว่าต่อไปจะเป็นยังไงในอนาคต ผมก็จะอัปเดตกับพี่ๆ นี่แหละเป็นที่แรก"
...
อยากบอกอะไรกับคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจ?
"จริงๆ คนที่เข้าใจผมก็อยากขอบคุณมากๆ (ยกมือไหว้) อย่างน้อยก็เป็นแรงกำลังใจที่เหมือนเพื่อนร่วมเดินทางของผมด้วย เพราะผมเชื่อว่าอาชีพนี้ถ้าไม่มีกำลังใจตรงนี้ก็ไปได้ไม่เต็มที่ อย่างน้อยเรามีกำลังใจ เป็นแฟนคลับเป็นคนที่เข้าใจเราคอยร่วมทางเดินไปด้วยกันให้ถึงปลายทาง มันเป็นสิ่งที่ดี มันเป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับผมด้วยครับ สำหรับคนที่ไม่เข้าใจผมก็ไม่สามารถที่จะบอกอะไรเขาได้ เพราะสิ่งที่ผมทำได้ ทำได้เพียงแค่ ณ ปัจจุบันให้มันดีที่สุด ผมคงเล่าให้คนไม่เข้าใจฟังทีละคนว่าผมเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ผมคงไม่ทำแบบนั้น"
แล้วกับพ่อแม่ของน้อง เขาเข้าใจในตัวเราไหม?
"จริงๆ ผมกับคุณแม่คุณพ่อน้องก็คุยกันตลอดครับ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผมแฮปปี้มาก มีความสุขมาก อย่างน้อยคนที่เข้าใจเราก็มีคุณพ่อคุณแม่เขาด้วยที่เขาคอยรับฟังเรา ยังไม่ตัดสินเราจากคอมเมนต์ต่างๆ มันทำให้เราเปิดใจกับทุกอย่าง กล้าคุยทุกๆ เรื่อง เล่าให้คุณพ่อคุณแม่ของน้องฟังว่าเราจะเดินทางไปแบบไหน ใช้ชีวิตยังไงในทุกๆ วัน มันทำให้เราสบายใจ และมันก็เป็นเหมือนครอบครัวนึงที่ทำให้ผมรู้สึกว่าผมอยู่แล้วไม่ต้องมีอะไรปิดกั้น ไม่ต้องมีกำแพง ผมอยู่ด้วยแล้วมีความสุข".
...
คลิกเพื่ออ่าน ข่าวบันเทิง เพิ่มเติม