จากกรณีที่ทางตำรวจได้ออกมาเผยว่า มีดาราสาวรายหนึ่งมีชื่อเสียงในวงการภาพยนตร์ที่ทำรายได้กว่า 100 ล้าน สั่งซื้อไซยาไนด์จากแหล่งเดียวกันกับ แอม ผู้ต้องหาวางยาไซยาไนด์ และกำลังอยู่ในขั้นตอนการตรวจ ซึ่งประเด็นดังกล่าวกลายเป็นที่ฮือฮาทันที และเดากันไปต่างๆ นานาว่าเป็นใคร 

กระทั่ง คุณแม่บังอร พงษ์ธนานิกร แม่ของดาราสาว ไอซ์ ปรีชญา พงษ์ธนานิกร เปิดเผยว่า ไอซ์ สั่งซื้อไซยาไนด์มาจริง โดยสั่งซื้อมาตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย. ได้รับของเมื่อวันที่ 27 เม.ย. พร้อมกับบอกสาเหตุของการซื้อไซยาไนด์มานั้นเพื่อกำจัดงู ตัวเงินตัวทอง ตะขาบ และสัตว์เลื้อยคลานต่างๆ เนื่องจากที่บ้านมีปัญหาดินทรุดประสบปัญหาสัตว์เลื้อยคลานเข้าทำร้ายสัตว์เลี้ยง พยายามหาวิธีแก้ปัญหาหลายอย่าง หาอะไรมาโรยก็ไม่สำเร็จ จนไปค้นเจอว่าไซยาไนด์สามารถไล่ได้ 

ล่าสุด ไอซ์ ปรีชญา พร้อมด้วยคุณแม่บังอร ได้มานั่งเปิดใจในรายการ โหนกระแส โดยบอกว่า 

"ตอนแรกที่นั่งดูข่าวนี้ มีความคิดที่ว่าจะสั่งสารไซยาไนด์มา แต่แฟนบอกว่าที่สวิตเซอร์แลนด์ผิดกฎหมาย ไม่สามารถสั่งได้ ก็เลยบอกว่านี่ไทยแลนด์ สั่งได้ ไม่งั้นยูเห็นมั้ยมันเป็นข่าวแบบนี้ แฟนไม่เชื่อ ไม่จริงหรอก น่าจะกวาดไปหมดแล้ว เขาเสิร์ชกูเกิลพิมพ์ว่า ไซยาไนด์ มันก็ขึ้นมาหมดเลย

หลังจากนั้นก็สั่ง แล้วเราก็คิดว่ามันไม่น่าจะได้ เพราะว่าเราก็เป็นคนธรรมดา และเราก็คิดว่าไม่น่าได้หรอก แต่ด้วยความที่เราอาจจะพลาดหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อยากให้เอาเป็นตัวอย่าง ไอซ์ไม่รู้ว่ามันเป็นสารที่ผิดกฎหมาย ไอซ์ไม่ทราบ

หลังจากสั่งก็ได้มีการส่งมาที่บ้านปกติเลย ไม่คิดเลยว่าจะสั่งได้ พอของมาถึงแม่บ้านเป็นคนแกะพัสดุออกมา แล้วตั้งไว้ที่โต๊ะกินข้าว ตกใจมาก มันเป็นขวดเดียวกับในข่าวเลย ไม่รู้ร้านเดียวกันมั้ย มันเหมือนกันเลย ก็ไม่กล้าแกะ กลายเป็นว่ากลัวไปเลย เลยเอาไปเก็บ และไม่รู้จะทำยังไงดี ตอนนี้ก็เก็บเอาไว้ ไม่ได้แกะเลย"

...

ด้าน คุณแม่บังอร เผยว่า "คือบ้านของเราอยู่มานานแล้ว และเป็นบ้านที่อยู่หลังริมสุด ติดกำแพงมีคลองอยู่ข้างๆ พอมีโครงการมาสร้างข้างๆ ก็ตอกเสาเข็มและบ้านทรุดจนเป็นโพรง แม้จะอุดรอยร้าวแล้วแต่ก็ไม่ได้ มีตัวเงินตัวทองเข้ามากินแมว กินหมา ตัวแม่อยู่บนหลังคา ใต้ฝ้า แล้วที่สำคัญคือมีงูเห่าเข้ามา งูเหลือมก็มาอยู่บนจานข้าว ทุกวันนี้อยู่ด้วยความกลัว

แม่ก็เลยบอกว่า มีเรื่องนี้ขึ้นมา ก็เลยคิดจะซื้อ และเราแสดงความบริสุทธิ์ใจพาน้องไป สน.บางเขน ถ่ายรูป ลงบันทึกประจำวัน ซึ่งเราไม่รู้ว่าสารไซยาไนด์ผิดกฎหมาย และเราก็ไม่รู้ว่าการฆ่าตัวเงินตัวทองผิดกฎหมาย และทางตำรวจได้เขียนไว้ตอนท้ายว่า และขอส่งมอบสินค้าดังกล่าวให้พนักงานสอบสวนเก็บไว้ก่อน พร้อมพูดกับคุณแม่ว่า ถ้าจะมารับคืนตอนไหนก็มารับได้

ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ลองหลายวิธีแล้ว เพื่อไม่ให้สัตว์มีพิษเข้าบ้าน ทุกวันนี้อยู่กับความกลัว ไม่กล้าอยู่บ้าน พอมีข่าวออกมานักข่าวโทรมาบอกว่า มีอักษร อ. แต่เราก็บอกว่าซื้อจริง ไม่ได้ปิดบัง และตอนหาตำรวจก็เอาไปให้เขาดู

หลังจากมีข่าวออกมา ไอซ์โดนแคนเซิลเรื่องงาน กระทบกับเรื่องงานมาก และมีเพจๆ หนึ่งเอารูปของไอซ์กับอดีตผู้จัดการส่วนตัวที่เสียชีวิตไปหลายปีแล้วมาขึ้นคู่กัน เขียนทำนองว่าตายเพราะอย่างนี้รึเปล่า ซึ่งการซื้อไซยาไนด์ครั้งนี้ของเราเป็นการซื้อครั้งแรก ไปตรวจสอบประวัติได้เลยว่าเราไม่เคยซื้อยานี้มาก่อน เราไม่เคยรู้จักมาก่อน โดยส่วนหนึ่งมันเกิดจากการที่เราไม่รู้กฎหมายเรื่องสารร้ายแรง และเราก็ไม่เข้าใจ เพราะตำรวจพูดแบบนี้"

...

เมื่อถามว่า มีคนกลุ่มหนุ่มที่เป็นห่วงไอซ์ ว่าก่อนหน้านี้ไอซ์เป็นซึมเศร้า เขากังวลใจถ้าไอซ์สั่งไปจะไปใช้ในทางที่ไม่ถูก ไอซ์ บอกว่า "เข้าใจที่ถูกมองอย่างนี้ แต่ไม่ได้มีเจตนาใช้มันอยู่แล้ว หนูรู้ตัวดีว่าทำอะไร ไม่ได้ป่วยจนขั้นที่ต้องการทำร้ายตัวเอง"

ด้านคุณแม่ยืนยันว่า ไอซ์ไม่ได้คิดที่จะทำร้ายตัวเองอยู่แล้ว และที่เป็นซึมเศร้าไม่ได้เป็นในระยะที่อันตราย อยู่ในการดูแลของคุณหมอตลอด

...

กรณีที่มีคนเอารูปของ ไอซ์ กับ โกโก้ อดีตผู้จัดการไปขึ้นคู่กัน แล้วเขียนข่าวออกมาว่า ไอซ์ไปซื้อยาไซยาไนด์ ทำให้คนมองว่าไอซ์วางยาโก้ ไอซ์ บอกว่า "หนูพูดไม่ออก (ร้องไห้) ไม่คิดว่าเขาจะโยงแบบนี้ได้ คือผู้จัดการหนูเสีย แล้วทางเพจนี้ก็เขียนชื่อย่อหนู เหมือนให้คิดว่าตายช่วงเวลาเดียวกันกับเหยื่อนะ คือหนูรึเปล่าที่เป็นคนวางยาผู้จัดการ สื่อไปทางนั้นค่ะ แล้วมีคนพูดต่อๆ กัน ตรงนี้สะเทือนใจมาก"

คุณแม่ยืนยันว่า "เวลาที่โกโก้ป่วยจะไม่ค่อยบอก จนเราต้องตามหา แล้วมารู้อีกทีว่าอยู่โรงพยาบาลกำลังให้ออกซิเจนอยู่ ที่หมอบอกก็คือหัวใจวาย แต่ว่าอยู่ที่โรงพยาบาลประมาณ 5-6 วัน แล้วกลับมาอยู่ที่บ้าน วันที่เขาเสียไม่มีใครอยู่บ้านเลย แม่เป็นคนไปจัดงานศพให้เขา เขาเป็นคนที่รักน้องมาก เลยสะเทือนใจเรื่องนี้"

...

ไอซ์ ยืนยันว่า "ตั้งใจสั่งซื้อไปกำจัดสัตว์เลื้อยคลานที่เข้าไปในบ้าน และรู้สึกไม่ดีเลยจริงๆ และต้องขอโทษ ไม่รู้จะขอโทษยังไง อยากให้เป็นกรณีตัวอย่างว่าอย่าสั่ง ถ้าเราไม่รู้เรื่องสารพวกนี้ อย่าสั่งสารพวกนี้เลย อยากให้ดูกรณีไอซ์เป็นตัวอย่าง ขนาดไอซ์ยังสั่งได้ คนธรรมดาก็สั่งได้ และมันมีความผิดด้วย อย่างตัวไอซ์เองก็ต้องไปรับทราบข้อกล่าวหาเช่นกัน เพราะเรามีครอบครองจริง"

คุณแม่บอกว่า "ตอนที่น้องสั่งซื้อ เราก็เหมือนคนทั่วไปที่ไม่รู้เรื่องสารมีพิษอย่างนี้ น้องก็บอกให้แม่รู้ แม่ก็ไม่ได้ห้ามเขา เพราะเราไม่รู้จริงๆ ว่ามันผิดกฎหมาย อีกอย่างแม่กลัวสัตว์พวกนี้มาทำลายทรัพย์สินเรา และก็ไม่รู้ว่าจะมาถึงตัวเราเมื่อไหร่

แม่ก็เลยเจตนาคือ อยากให้ทุกคนมองน้องกับครอบครัวของเรา ที่เจตนาสั่งซื้อสารพวกนี้มาโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แม่ก็คุยกับน้องว่าเป็นจังหวะนรกมากเลยนะ เพราะเรามาสั่งในตอนที่เป็นกระแสอยู่ แม่ก็ยินดีไปให้ปากคำกับตำรวจและยอมรับ และฝากเป็นเคสอุทาหรณ์การที่เราจะไปซื้อพวกนี้มา.