'ทักษิณ'สไกป์ ยัน อยากกลับมาจัดงานปีใหม่ที่คลองเตย สิ้นปีนี้ ในงานเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พท. ยัน'บิ๊กจิ๋ว'ยังอยู่กับพท. หารือกันอยู่ตลอด แต่ตอนนี้ท่านขอพักผ่อนสักระยะ ชี้การซื้อขายตำแหน่งตำรวจ ข้าราชการที่ผ่านมาเป็นต้นตอปัญหายาเสพติดที่ระบาดมากขึ้น ลั่นขอเวลา 12 เดือน จัดการแบบเบ็ดเสร็จ...
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 8 เม.ย. ที่วัดสะพาน เขตคลองเตย กทม. นายวิชาญ มีนชัยนันท์ พร้อมด้วย นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และนายยุรนันท์ ภมรมนตรี เข้าร่วมเสวนารวมใจแก้ไขปัญหายาเสพติด พร้อมกับเปิดตัว นายวรพงษ์ ตันติเวชนานนท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขตคลองเตย ทั้งนี้ มีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย มาร่วมให้กำลังใจด้วย บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีกลุ่มประชาชนสวมใส่เสื้อสีแดงจำนวนหนึ่ง เดินทางมาให้กำลังใจ ท่ามกลางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ รักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่
ต่อมาเวลา 14.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ติดต่อผ่านโปรแแกรมสไกป์ มาในงานเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทย และมีการหยิบยกปัญหายาเสพติดในประเทศ ว่าเกิดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ข้าราชการ มีการซื้อขายตำแหน่งกัน โดยนำเงินที่ได้จากธุรกิจใต้ดินมาซื้อขายตำแหน่งตามที่ต้องการ เนื่องด้วยทุกวันนี้ การดำรงตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่รัฐ หากต้องการที่จะก้าวหน้าในตำแหน่งก็ทำได้ยากลำบาก ต้องมีการนำเงิน ไปจ่ายให้กับนักการเมือง จึงจะได้ตำแหน่งที่สูงขึ้น จึงเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ ทำงานย่อหย่อน ไร้ประสิทธิภาพ
"สมัยที่ผมมีลูกน้องที่เป็นตำรวจเยอะ ไม่รู้จะก้าวหน้าอย่างไร น่าเห็นใจตำรวจที่ส่วนใหญ่อยากเป็นตำรวจที่ดี แต่ความที่อยากซื้อ-ขายตำแหน่ง ก็ต้องไปรีดไถกับประชาชน เมื่อเติบโตแล้วก็เอาตำแหน่งมาหากิน ถามว่า เมื่อเติบโตแล้วเอาเงินไปให้ใคร คำตอบก็คือคนที่อยู่ในทำเนียบรัฐบาลทุกวันนี้ ก็คือคนที่ออกทีวีประจำทุกวันนั่นแหละ"
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อว่า ถ้าเพื่อไทย ได้กลับมาเป็นรัฐบาล เดือน ก.ย.-ต.ค. เป็นฤดูการโยกย้ายตำแหน่ง ช่วงนั้นจะต้องจัดการเด็ดขาด กับข้าราชการที่ซื้อขายตำแหน่ง ถ้ามีต้องจัดการ อีกทั้งต้องปรับปรุงให้ข้าราชการเป็นผู้ทำงานรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง เพราะทุกวันนี้ ข้าราชการตกเป็นทาสนักการเมืองในการแสวงหาผลประโยชน์ โดย พ.ต.ท.ทักษิณยัง ได้เปิดเผยแนวโยบายในการปราบปรามยาเสพติด คือ 1. จัดการเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องซื้อขายตำแหน่ง 2. จัดการผู้เสพยาเสพติดโดยนำวิธีการบำบัดมาใช้แทนการจับกุม เพราะผู้เสพคือผู้ป่วย 3. สั่งให้ผู้ค้ายาหยุดจำหน่ายทันที 4. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน 5. ปราบปรามอย่างเด็ดขาด โดยทั้งหมดนี้ จัดการภายใน 12 เดือนหรือ 1 ปี ซึ่ง 3 เดือนแรกจะใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก เตือนก่อนประมาณ 3 เดือน อีก 3 เดือนวางหลักการในการจับกุม หลังจากนั้นจึงเริ่มขันน็อตอย่างจริงจัง
ส่วนกรณี พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตประธาน ส.ส.เพื่อไทย ที่ได้ยื่นใบลาออกไปนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ยืนยันว่า พล.อ.ชวลิต จะยังไม่ไปไหน ยังอยู่บ้าน มีอะไรก็ปรึกษากันอยู่ ยังอยู่ช่วยงานกับพรรคเพื่อไทย ส่วนตัวได้พูดคุยกับ พล.อ.ชวลิต แล้ว เพียงแต่ตอนนี้ท่านอยากพักผ่อนสักระยะหนึ่ง ส่วนตนเองนั้น อย่างไรสิ้นปีนี้ก็กลับประเทศไทยแน่ พร้อมทั้งยังอยากมาจัดงานปีใหม่ที่เขตคลองเตย อีกด้วย และส่วนตัวยังมองปัญหาไทย-กัมพชาที่เกิดขึ้น ไม่ได้เป็นเหมือนการแข่งกีฬา คือมีแพ้ ชนะ และรู้จักการให้อภัย ในปัจจุบันพอระฆังดังเมื่อไร ฝ่ายแดง-น้ำเงิน ก็ชกกันตลอด ไม่มีท่าทีพูดคุยกันได้
"ถ้าเป็นผมยกหูคุยทีเดียวก็จบ คนด้วยกันพูดกันก็รู้เรื่อง แล้วทำไมคนไทยด้วยกันเองจึงคุยกันไม่ได้ วันนี้การเมืองกลายเป็นเรื่องของอาชีพ บางคนมีเงินเป็น 10 ล้าน บริหารธุรกิจไม่เป็นก็ต้องเข้ามาสู่การเมืองเพื่อมาแสวงหาประโยชน์ ทำให้มีเงินเป็นหมื่นล้าน จนสามารถมาตั้งพรรคเองได้ ทำให้นักการเมืองทุกวันนี้ไม่มีคุณธรรมและจรรยาบรรณ ทำให้สุดท้ายประชาชนต้องเสียผลประโยชน์ การเลือกตั้งที่จะถึงนี้ มีการซื้อเสียงดุหน่อย เพราะมีเงินกันเยอะ แต่เงินที่ได้มาคือภาษีจากประชาชน คนพวกนี้เมื่อเข้ามาดำรงตำแหน่งก็นำเงินตรงนี้มาแสวงหาประโยชน์อยู่เรื่อย" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว.
...