นวัตกรรมก้าวล้ำ จับมัมมี่อายุ 245 ปีเข้าเครื่องซีทีสแกนศึกษาความเป็นอยู่ ตรวจหาโรคขณะมีชีวิต และจะนำมาจัดแสดงโชว์ในนิทรรศกาลการ "มัมมี่โลก" ที่ลอสแองเจลิส ให้ได้ศึกษากันต่อไป...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 2 ก.ค. ว่า มัมมี่เพศชายอายุ 245 ปี ซึ่งถูกยืมมาจากพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติและประวัติศาสตร์ในฮังการี ถูกจับตรวจด้วยเครื่องซีทีสแกนในโรงพยาบาล เพื่อตรวจหาโรคเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ และต่อยอดการศึกษาวิจัยในศูนย์วิทยาศาสตร์แคลิฟอเนียร์ ในลอส แองเจลิส

ผู้เชี่ยวชาญได้ทำการบันทึกภาพตัดขวางสามมิติจากคอมพิวเตอร์ เพื่อศึกษาความเป็นอยู่ของมัมมี่เมื่อครั้งยังมีชีวิต โดยผลจากแสกนพบว่า  มัมมี่ที่ชื่อ ไมเคิล ออร์โลวิตส์ เกิดเมื่อปี 1765 ป่วยเป็นวัณโรคเช่นเดียวกับภรรยาของเขาที่ถูกเก็บรักษาด้วยความเย็น และอากาศที่แห้งในห้องใต้ดินที่บ้านพัก โดยระบุว่า "สิ่งเหล่านี้ทำให้ได้ฉุกคิดถึงการรอคอยนวัตกรรมใหม่ๆในการรักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาล เช่นเดียวกับชายผู้นี้ที่ต้องใช้เวลารอนานกว่า 245 ปี กว่าที่เทคโนโลยีทางการแพทย์นี้จะสามารถประดิษฐ์ขึ้น"

ขณะที่ ดร.กิลล์ เฟรกกิง หัวหน้าผู้ดูแลโครงการวิจัยมัมมี่ในเยอรมันกล่าวว่า "เครื่องซีทีสแกนและอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ ถูกใช้เป็นเครื่องมือมาตรฐานในการศึกษามัมมี่ ช่วยให้ได้เรียนรู้การมีชีวิต และการตายของมนุษย์ ซึ่งเทคนิคนี้จะไม่เป็นการทำลายมัมมี่แต่จะถูกบันทึกในรูปแบบของ 3 มิติ เพื่อเก็บรักษามัมมี่ให้ลูกหลานได้ศึกษาสืบไป"

มัมมี่ชายออร์โลวิตส์นี้ จะเป็น 1 ใน 3 มัมมี่ ที่จัดแสดงในนิทรรศการมัมมี่โลกในนครลอส แองเจลิส ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกๆ 3 ปี ใน 7 เมืองใหญ่ทั่วสหรัฐฯ โดยจะเริ่มที่ศูนย์วิทยาศาสตร์แคลิฟอร์เนียตั้งแต่วันที่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป.

...