นายกแพทยสภาอาวุโส วอนเพื่อนร่วมวิชาชีพรักษาความลับคนไข้ เพิ่มความระมัดระวัง คิดก่อนแชร์ หวั่นถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย...
กระแสอัพโหลดรูปกิจกรรมต่างๆ ผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ก, อินสตาแกรม เพื่อบอกกล่าวให้เพื่อนๆ และคนรู้จักได้รู้ว่าตัวเราทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร ดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับบางอาชีพ เช่น แพทย์ พยาบาล การถ่ายภาพขณะปฏิบัติหน้าที่รักษาคนไข้แล้วอัพโหลดผ่านโซเชียลมีเดีย โดยไม่ได้รับความยินยอมจากคนไข้ อาจจะทำให้เกิดความเสียหายตามมาได้
ศ.คลินิก นพ.อำนาจ กุสลานันท์ นายกแพทยสภาอาวุโส กล่าวผ่านไทยรัฐออนไลน์ว่า แพทย์ หรือพยาบาลที่ถ่ายรูปขณะรักษาคนไข้ อาจเป็นภาพที่ไม่เหมาะสม เช่น ภาพหวาดเสียว หรือภาพที่ทำให้คนพบเห็นรู้สึกไม่ดี พร้อมทั้งเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย โดยไม่ได้รับอนุญาตจากคนไข้ ต้องระมัดระวัง เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายกับคนไข้ตามมาได้ แต่คงต้องพิจารณาจากเจตนาในการเผยแพร่ประกอบด้วยว่า มีเหตุผลสมควรหรือไม่
นอกจากนี้ สิ่งสำคัญอีกประการ คือ หลักจรรยาบรรณวิชาชีพที่ต้องรักษาความลับคนไข้ ก่อนการเปิดเผยใดๆ ต้องได้รับความยินยอมจากคนไข้ก่อนดำเนินการใดๆ มิฉะนั้น อาจเข้าข่ายผิดข้อกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคล เช่น พระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 มาตรา 7 ที่บัญญัติว่า "ข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคล เป็นความลับส่วนบุคคล ผู้ใดจะนําไปเปิดเผยในประการที่น่าจะทําให้บุคคลนั้นเสียหายไม่ได้ เว้นแต่การเปิดเผยนั้นเป็นไปตามความประสงค์ของบุคคลนั้นโดยตรง หรือมีกฎหมายเฉพาะบัญญัติให้ต้องเปิดเผย แต่ไม่ว่าในกรณีใดๆ ผู้ใดจะอาศัยอํานาจ หรือสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการหรือกฎหมายอื่น เพื่อขอเอกสารเกี่ยวกับข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคลที่ไม่ใช่ของตนไม่ได้"
และมาตรา 49 บัญญัติว่า "ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 7 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ความผิดตามมาตรานี้เป็นความผิดอันยอมความได้"
รวมทั้งอาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 323 ซึ่งบัญญัติไว้ว่า "ผู้ใดล่วงรู้ หรือได้มาซึ่งความลับของผู้อื่นโดยเหตุที่เป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ โดยเหตุที่ประกอบอาชีพ แพทย์ เภสัชกร คนจําหน่ายยา นางผดุงครรภ์ ผู้พยาบาล นักบวช หมอความ ทนายความ หรือผู้สอบบัญชี หรือโดยเหตุที่เป็นผู้ช่วยในการประกอบอาชีพนั้น แล้วเปิดเผยความลับนั้นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ" และ "ผู้รับการศึกษาอบรมในอาชีพดังกล่าวในวรรคแรก เปิดเผยความลับของผู้อื่น อันตนได้ล่วงรู้ หรือได้มาในการศึกษาอบรมนั้น ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ต้องระวางโทษเช่นเดียวกัน"
"ยุคนี้หลายคนชอบแชต และแชร์ภาพต่างๆ บางครั้งไม่ได้มีเจตนาร้ายในการเปิดเผยข้อมูลของคนไข้ เพียงแต่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือพลั้งเผลอ แต่อยากเน้นย้ำให้เพื่อนร่วมวิชาชีพแพทย์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ระมัดระวังก่อนแชร์ภาพใดๆ เพราะความลับของคนไข้เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องไม่เผยแพร่ก่อนได้รับการยินยอม" นายกแพทยสภาอาวุโส กล่าวย้ำทิ้งท้าย.
...