รวบโจรแสบในคราบโชเฟอร์แท็กซี่ ทำชื่อเสียง เมืองไทยป่นปี้ ใช้มีดจี้ข่มขืนผู้โดยสารสาวชาวจีน ก่อนเชิดโทรศัพท์และเงินสดหนี ทิ้งเหยื่อไว้กลางทุ่งนา ตำรวจตามรวบได้ที่บ้านเช่าย่านลำลูกกา สารภาพขโมยรถแท็กซี่ แล้วมาเปลี่ยนป้ายทะเบียนตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ตามสถานที่ต่างๆ ลวงให้ตำรวจเขว ส่วนเรื่องข่มขืน อ้างเพิ่งทำครั้งแรก เจ้าหน้าที่ไม่เชื่ออยู่ระหว่างขยายผล

เหตุเสื่อมเสียชื่อเสียงประเทศไทยครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ก.ค. พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว พ.ต.ท.วีระ งามเลิศ รอง ผกก.สอบสวน สน.คันนายาว พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวนและสายตรวจ ร่วมกันนำตัวนายชัยพัฒน์ กลิ่นสุคนธ์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 161/95 หมู่ 1 ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ผู้ต้องหาใช้มีดจี้ผู้โดยสารสาวใหญ่นักธุรกิจชาวจีนไปข่มขืนในรถแท็กซี่ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ริมทุ่งนา ซอยนวมินทร์ 82 บริเวณเลียบถนนกาญจนาภิเษกขาออก มุ่งหน้าลำลูกกา แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา หลังติดตามจับกุมได้ที่บ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เมื่อกลางดึกวันที่ 30 มิ.ย.พร้อมรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นอัลติส เสื้อผ้า และมีดที่ใช้ก่อเหตุ

ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 28 มิ.ย. น.ส.หลิว (นามสมมติ) อายุ 42 ปี ชาวจีน เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.พลธร แวงแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สน.คันนายาว ถูกคนขับแท็กซี่ใช้มีดจี้ข่มขืนในรถ โดยก่อนหน้านี้ ผู้เสียหายไปๆมาๆเมืองไทยบ่อยครั้ง ล่าสุดเพิ่งเข้ามาเมื่อต้นเดือน มิ.ย. โดยก่อนเกิดเหตุ เพิ่งเสร็จจากทำธุระย่านนวมินทร์ และจะไปบ้านญาติที่ซอยนวลจันทร์ 32 ได้เรียกรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง ทะเบียน 1 มข 2704 กรุงเทพมหานคร จากถนนนวมินทร์ 103 หน้าหมู่บ้านธนะสิน ถนนนวมินทร์ แต่คนขับกลับพาขึ้นทางด่วนรามอินทรา 1 มุ่งหน้าถนนจตุโชค จากนั้นพาลงมาถนนเลียบมอเตอร์เวย์ แล้วใช้มีดจี้บังคับข่มขืนที่เบาะหลังจนสำเร็จความใคร่ไป 1 ครั้ง ก่อนหลบหนี โดยชิงโทรศัพท์มือถือ และเงินสด 2,000 บาท ของผู้เสียหายไปด้วย ขณะที่ผู้เสียหายได้เดินไปตามทาง ขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านให้พาไปแจ้งตำรวจ

...

หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว สั่งให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดจนทราบตัวผู้ก่อเหตุคือนายชัยพัฒน์ จึงนำกำลังเข้าจับกุมได้เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา สอบสวนรับสารภาพ ก่อนหน้านี้ ได้ขโมยรถแท็กซี่ทะเบียน 1 มก 4930 กรุงเทพมหานคร ของนายเฉลิมชัย ลี-คันมาส อายุ 57 ปี แจ้งความหายไว้ที่ สภ.ประตูน้ำ–จุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี เมื่อเดือน ม.ค.60 จากนั้นนำหมายเลขทะเบียนรถ 1 มข 2704 กรุงเทพมหานคร ของนายธนากร เพ็ญศรี อายุ 55 ปี โชเฟอร์แท็กซี่อีกคนมาติดไว้ โดยนายธนากรถูกหมายเรียกจาก สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ ให้ไปรับข้อกล่าวหาคดีลักทรัพย์ชุดแต่งรถจากรถที่จอดในลานจอดรถสนามบินสุวรรณภูมิ โดยคนร้ายใช้รถแท็กซี่ทะเบียนดังกล่าวเป็นพาหนะ แต่นายธนากรได้แจ้งกับตำรวจว่า ป้ายทะเบียนเป็นของตนจริง แต่ไม่ใช่รถแท็กซี่ที่ตนขับ ชุดสืบสวนได้ตรวจกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดอีกครั้ง จนพบภาพนายชัยพัฒน์เป็นคนขับแท็กซี่ที่ไปก่อเหตุ จึงนำกำลังเข้าจับกุม ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผล เคยกระทำผิดโดยเฉพาะความผิดทางเพศที่ใดมาบ้าง เบื้องต้นนายชัยพัฒน์รับว่าเพิ่งข่มขืนมารายเดียว

อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่เจ้าหน้าที่นำตัวนายชัยพัฒน์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ ผู้เสียหายและญาติๆ กรูเข้ามาจะรุมประชาทัณฑ์ด้วยความแค้น แต่ถูกเจ้าหน้าที่กันเอาไว้ ขณะที่ญาติ น.ส.หลิว สาวจีนเผยว่า การกระทำของคนขับแท็กซี่แบบนี้ ทำให้ประเทศไทยเสียชื่อเสียง ทั้งที่ผู้เสียหายจะนำเงินมาลงทุนทำธุรกิจเปิดร้านขายสินค้าในเมืองไทย แต่ต้องมาเจอกับเหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้