ยิ่งคุ้ยยิ่งเจอ “พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์” ผอ.พศ. สั่งสอบด่วน หลังพบ ข้อมูลการแจ้งยอดนักเรียนของโรงเรียนพระปริยัติธรรมบางแห่งไม่ตรงกับความเป็นจริง มีผลต่อยอดเงินอุดหนุนรายหัว จ่อเล่นงานผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด แฉระหว่างปี 55-58 พศ.ได้งบประมาณการบูรณปฏิสังขรณ์วัดเพียงปีละ 500 ล้านบาท แต่ต้องเฉลี่ยให้วัดถึง 4,700 แห่ง เลยเป็นที่มาของการเรียกรับ “เงินทอน”
กรณีเปิดยุทธการปราบโกงวัด หลังกองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พบข้อมูลการเรียกรับ “เงินทอน” ของเจ้าหน้าที่หน่วยงานรับผิดชอบดูแลงบประมาณบูรณปฏิสังขรณ์วัด ทำให้รัฐสูญเสียงบประมาณหลายสิบล้านบาทต่อปี จากการตรวจสอบขณะนี้พบรายชื่อวัดเข้าไปเกี่ยวข้องแล้ว 12 วัด อยู่ระหว่างขยายผลตรวจสอบทั่วประเทศตามนโยบายปราบปรามการทุจริตของรัฐบาล
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ในส่วนของผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ พศ.ที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการทุจริตเงินอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์วัดนั้น มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงแล้วและคณะกรรมการฯเริ่มลงพื้นที่สืบสวนข้อเท็จจริงในพื้นที่ภาคกลางก่อน จากนั้นจะไล่ตรวจสอบตามพื้นที่ต่างๆตามรายชื่อวัดตามที่กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พบการกระทำผิด กำชับให้คณะกรรมการฯรายงานผลมาเป็นระยะด้วย ส่วนของการตรวจสอบเงินอุดหนุนวัดในด้านอื่นๆนั้น กำชับให้ทำหนังสือแจ้งไปยังประธานกลุ่มโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาและ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ทั่วประเทศ ให้ตรวจสอบจำนวนนักเรียนที่แท้จริงของแต่ละโรงเรียนและรายงานผลมาที่กองพุทธศาสนศึกษา เนื่องจากที่ผ่านมามีผู้ร้องเรียนว่ามีการรายงานจำนวนนักเรียนเป็นเท็จไม่ตรงกับความจริง เพราะจะมีผลต่อยอดเงินอุดหนุนรายหัวของแต่ละโรงเรียน หากพบการทุจริตในขั้นตอนใดต้องดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดไม่มีละเว้น
...
มีรายงานว่าสำหรับหนังสือที่แจ้งไปยังกลุ่มโรงเรียนพระปริยัติธรรมและ พศจ. ให้ตรวจสอบจำนวนนักเรียนนั้น มีใจความระบุว่า ด้วยมีผู้ทำหนังสือร้องเรียนเกี่ยวกับจำนวนนักเรียนของโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา พบหลายแห่งมีจำนวนนักเรียนน้อยมาก แต่กลับมีการแจ้งจำนวนนักเรียนเป็นเท็จ ไม่มีการตรวจสอบจำนวนที่แท้จริง จึงขอให้ พศจ.ร่วมกับกลุ่มโรงเรียนพระปริยัติธรรมฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลจำนวนนักเรียนให้ถูกต้อง และจัดส่งกองพุทธศาสนศึกษา ภายในวันที่ 6 ก.ค. ขณะที่ข้อมูลเกี่ยวกับงบประมาณบูรณปฏิสังขรณ์วัดที่ พศ. และ ปปป. ตรวจสอบย้อนหลังระหว่างปี 55 -58 พบ พศ.ได้งบประมาณการบูรณปฏิสังขรณ์วัดปีละประมาณ 500 ล้านบาท แต่ต้องจัดสรรเฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 4,700 วัด งบประมาณดังกล่าวจะนำไปบูรณปฏิสังขรณ์วัดที่ประสบภัยต่างๆ รวมทั้งวัดที่มีพุทธศาสนสถานชำรุดทรุดโทรม ทำให้เป็นที่มาของการเรียกรับผลประโยชน์ต่างตอบแทนจากทางวัด เพื่อแลกกับการได้รับอนุมัติงบประมาณที่มีอยู่น้อยนิดในแต่ละปี