อัยการจังหวัดหล่มสัก สอบปากคำ 2 เยาวชนหญิงที่ถูกผู้ปกครองโบสถ์คริสต์เล่าเน้ง เขาค้อ ล่วงละเมิดมอมเมาให้เชื่อเรื่องสารภาพบาป พาเข้าป่าจับถอดเสื้อผ้า ปลอมเป็นซาตานเข้ามาทำอนาจาร จนความแตก มีผู้เสียหายแจ้งความแล้ว 7 ราย...
เวลา 13.00 น. วันที่ 29 มิ.ย. ที่สำนักงานอัยการจังหวัดหล่มสัก อำเภอหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ร.ต.อ.สงัด กุมภาพันธ์ พนักงานสอบสวน สภ.เขาค้อ นำผู้เสียหายเป็นเยาวชนหญิงสองราย อายุ 16 ปี และ 17 ปี เข้าพบพนักงานอัยการหล่มสักเพื่อสอบปากคำร่วมกับนักสงคมสงเคราะห์และสหวิชาชีพเพื่อประกอบสำนวนการสั่งฟ้องดำเนินคดี นายเล่าย่าง แซ่จาง อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 14 ต.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ผู้ปกครองโบสถ์คริสต์เล่าเน้ง ของคริสตจักรนิกายโปรเตสแตนต์ ต.เขาค้อ ในข้อหาพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจาร
ภายหลังการสอบปากคำผู้เสียหายทั้งสองที่เป็นเยาวชนเสร็จสิ้น ผู้ปกครองของเด็ก 1 ใน 2 ราย เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากพวกตนเป็นสมาชิกของคริสตจักรนิกายโปรเตสแตนต์ มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ ได้เข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม “เซเว่นเดย์แอดเวนติส” ที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ และมีแนวทางการปฏิบัติพิเศษที่เพิ่มมาคือ สมาชิกทุกคนในกลุ่มจะไม่บริโภคเนื้อสัตว์ ซึ่งมีสมาชิกอยู่ทั่วโลก มีนายเล่าย่าง แซ่จาง ดำรงตำแหน่งผู้ปกครองโบสถ์เล่าเน้ง ซึ่งผู้ปกครองโบสถ์นั้นก็เหมือนกับตำแหน่งบาทหลวงในคริสต์ศาสนานิกายคาทอลิก สมาชิกจะเชื่อมต่อข้อมูลผ่านโลกออนไลน์ คือไลน์กลุ่มของนายเล่าย่าง โดยในช่วงปี พ.ศ.2547 นายเล่าย่างได้กล่าวอ้างอิงคำสอนของพระคัมภีร์ไบเบิล ว่า “เราคือตัวแทนของพระเจ้า พระเจ้าแต่งตั้งให้เป็นผู้สื่อสารของพระเจ้า พระเจ้าให้เป็นผู้เขียนคำอธิบายพระคัมภีร์ไบเบิลออกมา” ซึ่งพวกตนได้ตรวจสอบแล้วพบว่า คำกล่าวของนายเล่าย่างบางอย่างตรงตามที่พระคัมภีร์ได้กล่าวสอนไว้ และเชื่อว่านายเล่าย่างเป็นผู้สื่อสารของพระเจ้าจริง จึงเคารพในแนวคำสอนนายเล่าย่างมาโดยตลอด
...
ทั้งนี้ นายเล่าย่างจะเป็นประธานกลุ่มที่คอยสื่อสารเผยแพร่คำสอนตามพระคัมภีร์ไบเบิล โดยนายเล่าย่างได้สอนให้พวกตนเชื่อว่า พระเยซูคริสต์จะเสด็จกลับมาแล้ว ทุกอย่างจะล่มสลายเหมือนคำทำนายวันล้างโลก ขอให้สมาชิกอย่าห่วงแต่ทำมาหากิน ให้ขายทรัพย์สินที่มีเพื่อใช้เป็นทุนรอนในการเผยแพร่ข่าวสารที่พระเยซูจะเสด็จลงมา และผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวจะได้รับพรและพระเจ้าจะได้มอบบำเหน็จรางวัลให้คือชีวิตนิรันดร์ หรือชีวิตที่ไม่มีวันตาย พวกตนจึงไม่ค่อยเก็บเงินทองไว้ เมื่อหามาได้ก็จะแบ่งให้นายเล่าย่าง 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นผู้ปกครองโบสถ์ไว้ใช้จ่ายในการเผยแผ่คำสอน ที่ผ่านมาสมาชิกที่ภาคเหนือรายหนึ่งขายที่ดินได้ 55 ล้านบาท ก็แบ่งเงิน 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นเงินหลายล้านบาทให้แก่นายเล่าย่าง
ผู้ปกครองของเด็ก กล่าวอีกว่า กระทั่งเดือนกันยายนปี 2559 ที่ผ่านมา นายเล่าย่างได้แจ้งข้อมูลผ่านไลน์กลุ่มที่ใช้เป็นช่องทางในการสวดมนต์ฟังคำสอนทุกวันเช้าเย็น โดยได้ระบุว่าให้หญิงสาวพรหมจรรย์ 10 คนเข้าค่ายล้างบาป และเข้าสู่กระบวนการทดสอบความอดทนที่จะเข้าถึงพระเจ้า พร้อมระบุชื่อของเด็กสาวทั้งสิบคน โดยตนในฐานะผู้ปกครองที่มีความเชื่อและศรัทธาในคำสอนของนายเล่าย่าง จึงได้ส่งบุตรสาวจากเชียงใหม่จำนวน 2 คน เดินทางมาเข้าค่ายร่วมกับหญิงสาวอื่น รวมทั้งหมด 10 คน โดยนายเล่าย่างจะให้เด็กสาวเข้ามาร่วมพิธีกรรมครั้งละ 1 คน ระยะเวลาแตกต่างกัน ตั้งแต่ 8-14 วัน ให้มาอาศัยอยู่กับนายเล่าย่างในบ้านของนายเล่าย่างที่มีลูกเมียนายเล่าย่างอาศัยอยู่ด้วย และบ้านหลังดังกล่าวจะเป็นสถานที่ที่นายเล่าย่างใช้เผยแพร่คำสอนพระคัมภีร์ไบเบิล และให้ไปสารภาพบาปกลางป่ามืดกับนายเล่าย่างสองต่อสอง
เมื่อไปอยู่ในป่า นายเล่าย่างจะบอกเด็กสาวว่า ในขณะทำพิธีให้อยู่ในความสงบ หากมีเภทภัยอันตรายใดๆ มาให้นิ่ง และอฐิษฐานขอพรพระเจ้า ให้สารภาพบาปต่อพระเจ้า และให้เชื่อในพระเจ้า ห้ามลุกหนีไปไหน ห้ามร้องขอความช่วยเหลือจากใคร ให้อดทน ซึ่งถึงแม้จะมีภูตผีปิศาจมาหาก็อย่าได้หนี ให้ต่อสู้กับความกลัว และขณะนายเล่าย่างได้กระทำการลวนลามจับเด็กสาวถอดเสื้อผ้าเพื่อลูบคลำนั้น ก็ขอให้เข้าใจไว้ว่ามันไม่ใช่ตัวนายเล่าย่าง เพราะนั่นคือปิศาจหรือซาตานปลอมตัวมาเป็นนายเล่าย่าง หากลุกหนีก็จะต้องกลับมาเริ่มพิธีกรรมใหม่ในวันรุ่งขึ้น ห้ามนำเรื่องนี้ไปบอกใครเด็ดขาด เพราะทูตสวรรค์จะไม่คุ้มครองและไม่ให้กลับสวรรค์ และทำการลวนลาม อ้างว่าตัวตนที่ไปหาไม่ใช่นายเล่าย่าง มันเป็นซาตาน เกิดอะไรขึ้นห้ามบอกใคร ห้ามขอให้ใครช่วย ถ้าบอก ทูตสวรรค์จะไม่คุ้มครองและพากลับสวรรค์
นอกจากนี้ นายเล่าย่างได้จัดตั้งกำลังทหารคุ้มครองพระเจ้าชื่อ กิเดโอน ที่พร้อมพลีชีพเพื่อพระเจ้าและนายเล่าย่าง ทหารทุกคนจะต้องต่อสู้ปกป้องและแลกชีวิตเพื่อนายเล่าย่าง โดยที่นายเล่าย่างมีฐานะร่ำรวยจากเงิน 10 เปอร์เซ็นต์ที่สมาชิกส่งมาให้ จะตระเวนนอนตามรีสอร์ตต่างๆ เพื่อสอนคำสอนให้แก่สมาชิกในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งมีความเป็นอยู่สุขสบาย เหตุการณ์ผ่านไปไม่มีอะไรเกิดขึ้น กระทั่งราวเดือนเมษายน 2560 หญิงสาวอายุ 22 ปีที่เป็นสมาชิกรายหนึ่งของกลุ่มได้สอบถามกับตนที่ถือเป็นผู้อาวุโสในกลุ่มว่า นายเล่าย่างได้หลอกลวงตนเองไปกระทำชำเราในป่าที่เขาค้อ ทั้งที่ตนเองมีสามีแล้ว และให้ตรวจสอบเด็กหญิงพรหมจรรย์ 10 คนที่ถูกเรียกให้เข้ารับการอบรมเข้าค่ายนั้นถูกกระทำเหมือนตนหรือไม่ และตามคำสอนในพระคัมภีร์ถือว่านายเล่าย่างทำผิดหรือไม่ ตนจึงได้เรียกให้ทั้งสองมาพบกัน และนายเล่าย่างได้สารภาพว่าทำจริง ตนจึงบอกให้นายเล่าย่างยุติบทบาทการเป็นผู้สอนศาสนา แต่นายเล่าย่างไม่หยุดตามที่พวกตนขอร้อง พวกตนจึงออกจากกลุ่มดังกล่าว และเข้าปรึกษาพนักงานอัยการจังหวัดหล่มสัก ก่อนเข้าแจ้งความที่ สภ.เขาค้อ รวม 6 คดี ที่ สภ.ท่าพล 1 คดี
ทั้งนี้ได้มีผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความแล้วจำนวน 7 คน ซึ่งหลังจากแจ้งความแล้วนายเล่าย่างได้บอกกับพวกตนขณะโทรศัพท์ว่า ครอบครัวลูกๆ ของนายเล่าย่างเป็นห่วงที่นายเล่าย่างถูกใส่ร้ายดำเนินคดี ไม่ได้กลับบ้าน และอาจจะถูกปองร้าย ลูกๆ ของนายเล่าย่างประกาศจะฆ่ากลุ่มของพวกตนที่เข้าแจ้งความ ตนเป็นคนต่างถิ่นจึงไม่กล้าอยู่ในพื้นที่นาน เมื่อแจ้งความเสร็จแล้วก็จะรีบเดินทางกลับภูมิลำเนาทันที.