ลูกจ้างนำเงินนายจ้างไปฝากธนาคาร 8 หมื่น แต่เงินเข้าบัญชีแค่ 4 หมื่น ภาพจากกล้องวงจรปิดพบพนักงานธนาคารแบ่งเงินออกเป็นสองส่วน อีกส่วนไม่นำเข้าเครื่องนับเงิน แต่เก็บเข้าลิ้นชัก ด้านพนักงานยัน ได้รับเงินมาแค่ 4 หมื่น ขณะที่ นายจ้างสุดทน เข้าแจ้งความดำเนินคดีพนักงานธนาคารคนดังกล่าว ล่าสุด ธนาคารกสิกรไทย ชี้แจง ทางธนาคารยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับเจ้าของบัญชี/ผู้ร้อง และพนักงานสอบสวน...

เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ที่ผ่านมา นายวชิระ อริยะพงษ์กรณ์ อายุ 41 ปี ลูกจ้างร้านจำหน่ายอาหารสัตว์แห่งหนึ่ง นำหลักฐานสำเนาเอกสารการฝากเงินเข้าบัญชีของธนาคารแห่งหนึ่ง ใน อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท มาร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.ชัยนาท หลังจากนายจ้างให้นำเงิน 8 หมื่นบาท ซึ่งตรวจนับครบถ้วนแล้วไปเข้าบัญชีธนาคารเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2560 แต่กลับพบว่ามีการบันทึกเงินเข้าเพียง 4 หมื่นบาทเท่านั้น

โดยก่อนหน้าที่จะพบว่าเงินเข้าบัญชีไม่ครบนั้น นายจ้างได้สั่งให้ นายวชิระ นำเงินสดไปเข้าบัญชีอีก 110,000 บาท แต่พบว่าเจ้าหน้าที่ธนาคารลงรายการรับเงินเพียง 11,000 บาท และพนักงานยอมรับว่าทำงานผิดพลาด พร้อมแก้ไขรายการให้ เหตุนี้ จึงทำให้นายจ้างไม่มั่นใจการทำงานของพนักงานธนาคารดังกล่าว จึงนำเอกสารรับฝากเงินที่เก็บไว้มาตรวจสอบ พบว่า ในวันที่ 27 เมษายนนั้น มียอดเขียนฝากกับลงบันทึกฝากไม่ตรงกัน จึงขอดูกล้องวงจรปิด

...

“ผมกล้าสาบานว่า ส่งเงินให้พนักงานธนาคารครบ 8 หมื่นบาทจริงๆ เขาก็ถามผมว่า 8 หมื่นบาทใช่ไหม ผมก็ตอบว่าครับ 8 หมื่นบาท จะให้ผมไปสาบานที่ไหนก็ได้” นายวชิระ ลูกจ้างร้านจำหน่ายอาหารสัตว์ ยืนยัน

ทั้งนี้ ภาพจากกล้องวงจรปิด สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ในขณะที่พนักงานธนาคารรับเงินจากนายวชิระ จากนั้นพนักงานคนดังกล่าวได้แยกเงินออกเป็น 2 ส่วน ซึ่งส่วนแรกนำไปเข้าเครื่องนับ แต่อีกส่วนเก็บเข้าลิ้นชักโดยไม่มีการตรวจนับ

ล่าสุด นางสายสุนีย์ อู๋เพชร เจ้าของร้านจำหน่ายอาหารสัตว์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ตนและนายวชิระได้เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานคนดังกล่าว ในข้อหาลักทรัพย์ โดยขอให้เป็นความผิดเฉพาะบุคคล

ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิมชัย ไขประภาย พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรวัดสิงห์ เปิดเผยว่า การแยกเงินออกเป็นสองส่วนนั้น เนื่องจากเงินในส่วนที่ไม่นำเข้าเครื่องนับเป็นธนบัตรชนิด 500 บาท ซึ่งมีไม่มาก และนับด้วยสายตาได้ โดยพนักงานคนดังกล่าว ยืนยันว่า ได้รับเงินมาเพียง 40,000 บาทเท่านั้น ส่วนตัวเลขบนใบฝากเงินที่เขียนว่า 80,000 บาท ซึ่งไม่ตรงกับจำนวนที่พิมพ์บนสลิปรับฝากเงินนั้น พนักงานคนดังกล่าว ยอมรับว่า เกิดจากความสะเพร่าของตนเองที่ไม่ได้ตรวจให้ถี่ถ้วน

อย่างไรก็ตาม ธนาคารกสิกรไทย ได้ชี้แจงเป็นเอกสารต่อผู้สื่อข่าวว่า จากกรณีที่มีข่าวเกี่ยวกับ “ลูกจ้างขอความเป็นธรรมฝากเงิน 8 หมื่น ธนาคารบันทึกเงินแค่ 4 หมื่นบาท” นั้น ธนาคารได้ตรวจสอบ พร้อมกับชี้แจงเจ้าของบัญชี และผู้ร้องให้ทราบถึงข้อเท็จจริง และกระบวนการปฏิบัติงานของธนาคารโดยละเอียด

ทั้งนี้ ธนาคารใคร่ขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น โดยยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับเจ้าของบัญชี/ผู้ร้อง และพนักงานสอบสวน พร้อมจะนำส่งข้อมูลให้พนักงานสอบสวนเพื่อใช้ในการตรวจสอบและดำเนินการต่อไป.