ครม.เห็นชอบ ผลการคัดเลือกเอกชนและร่างสัญญาโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู สายสีเหลืองให้เอกชนร่วมลงทุน เป็นเวลา 33 ปี 3 เดือน
วันที่ 30 พ.ค. นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมเห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชนและร่างสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว สำโรง โดยรูปแบบการลงทุนให้ดำเนินการตามโครงการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ โดยกำหนดให้เอกชนร่วมลงทุนเป็นเวลา 33 ปี 3 เดือน โดยผู้ชนะการประมูลทั้ง 2 เส้นทาง คือ กิจการร่วมค้ากลุ่มบริษัท BSR JV เป็นผู้รับสัมปทาน ซึ่งประกอบด้วย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้ ขอบเขตงาน จะแบ่งเป็น ระยะที่ 1 ออกแบบและก่อสร้างงานโยธา การจัดหา ติดตั้ง ทดสอบระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว และทดสอบเดินรถ โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี 3 เดือน ระยะที่ 2 คือ การให้บริการเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุง ระยะเวลา 30 ปี นับตั้งแต่ได้รับอนุญาต โดยกำหนดค่าโดยสารพื้นฐานเป็นอ้างอิงในปี 2559 เริ่มต้นที่ 14 บาท และสูงสุดไม่เกิน 42 บาท โดยปรับอัตราค่าโดยสารตามดัชนีราคาผู้โดยสาร และปรับแต่ละครั้งจะต้องมีระยะห่างไม่น้อยกว่า 24 เดือน
อย่างไรก็ตาม หลังจากการเปิดให้บริการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย รฟม. จะต้องจ่ายเงินสนับสนุนให้แก่ BSR JV ในช่วง 10 ปีแรก ปีละ 2,250 ล้านบาท สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ส่วนสีเหลือง ปีละ 2,505 ล้านบาท โดยให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีในลักษณะการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
...
สำหรับในเอกสารการประชุมนั้น พบว่า BSR JV ได้เสนอผลตอบแทนที่ให้กับ รฟม. ประกอบด้วย ปีที่ 1-1- ไม่ได้เสนอผลตอบแทน ปีที่ 11-15 เสนอที่ 5 ล้านบาท ปีที่ 16-20 เสนอ 10 ล้านบาท ปีที่ 21-25 เสนอ 15 ล้านบาท ปีที่ 26-30 เสนอที่ 20 ล้านบาท
สำหรับการยื่นซองนั้น มีผู้ยื่นซองประกวด 2 ราย คือ กลุ่มร่วมค้า BSR JV และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) แต่จากการดูรายละเอียด พบว่า ทาง BSR JV ให้ผลตอบแทนและประโยชน์ที่ดีกว่า