ตั้งทีมตรวจพบทำผิดพัก-ถอนใบอนุญาต ขึ้นทะเบียนกับ สผ.มีกว่า 70 แห่ง
พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อกังวลเกี่ยวกับข้อขัดแย้งในโครงการต่างๆของรัฐที่ต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (อีเอชไอเอ) และรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) โดยที่ผ่านมารัฐจะไปว่าจ้างบริษัทเอกชนเพื่อทำรายงานดังกล่าว
ซึ่งบริษัทที่ถูกว่าจ้างเหล่านี้ชาวบ้านไม่ได้ให้ความเชื่อถือ เพราะชาวบ้านอ้างว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการศึกษารายงานอีเอชไอเอและอีไอเอแต่อย่างใด นายกรัฐมนตรีจึงอยากแก้ปัญหาตรงจุดนี้เพื่อให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า
พล.อ.สุรศักดิ์กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรี จึงได้ให้กระทรวงทรัพยากรฯจัดทำโครงการศึกษาการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) เพื่อมองภาพรวมของพื้นที่และโครงการทั้งหมดทุกมิติ หากเกิดปัญหาหรือกระทบสิ่งแวดล้อมก็ ไม่ต้องดำเนินการต่อ และหาทางเลือกอื่นต่อไป พร้อมอนุมัติจัดตั้งคณะอนุกรรมการการศึกษาสภาวะแวดล้อมเพิ่มเติม เพื่อลงพื้นที่ทำความเข้าใจและรับฟังแนวทางออกของปัญหา เช่น ในโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา จ.สตูล และศึกษาเพิ่มเติมโดยเฉพาะกระบวนการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่จัดจ้างบริษัทเอกชนทำ ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและการยอมรับกับประชาชนในพื้นที่
รมว.ทรัพยากรฯกล่าวอีกว่า ปัจจุบันมีบริษัทที่ปรึกษาที่รับจ้างเข้ามาทำการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมโดยขึ้นบัญชีกับสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กระทรวงทรัพยากรฯ มีประมาณ 70 บริษัท ซึ่งบางโครงการมีความละเอียดอ่อนสูงและไม่ได้รับความเชื่อถือจากชาวบ้าน เช่น โครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา จ.สตูล
...
โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ โครงการก่อสร้างระบบท่อส่งน้ำประปาลอดใต้ทะเลไปยังเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี จึงเกิดการต่อต้านมาอย่างต่อเนื่องต่อไปบริษัทเหล่านี้ต้องถูกตรวจสอบให้เข้มข้นมากขึ้น โดยผ่านกรรมการวิชาชีพ เพื่อให้บริษัทที่ปรึกษาได้ทำการศึกษารายงานอย่างเป็นมาตรฐานและเชื่อถือได้ หากบริษัทใดไม่ปฏิบัติตามหน้าที่และบกพร่องในการทำการศึกษารายงาน จะมีการลงโทษด้วยการพักใบอนุญาต หรือเพิกถอนใบอนุญาตในทันที.