รากนครา ได้รับการดัดแปลงเป็นละครโทรทัศน์เมื่อปี พ.ศ. 2543 เขียนบทโทรทัศน์โดยศัลยา และกำกับการแสดงโดย จรูญ ธรรมศิลป์ สร้างโดยค่ายดาราวิดีโอ ออกอากาศทางช่อง 7 สี นำแสดงโดย บรู๊ค ดนุพร, อั้ม พัชราภา และ นุ่น วรนุช และในปี พ.ศ. 2560 รากนครา ถูกนำมาปัดฝุ่นทำใหม่อีกครั้งโดยค่ายแอคอาร์ต เจเนเรชั่น จำกัด ควบคุมการผลิตโดย ธัญญา วชิรบรรจง เขียนบทโทรทัศน์โดย ยิ่งยศ ปัญญา กำกับการแสดงโดย พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ออกอากาศทางช่อง 3 นำแสดงโดย หมาก ปริญ, แต้ว ณฐพร และ มิว นิษฐา

เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นละครรีเมค รากนคราเวอร์ชั่น 2543 ก็ทำเอาไว้ดี อีกทั้งอ๊อฟ พงษ์พัฒน์ ยังนั่งแท่นเป็นผู้กำกับละครเรื่องนี้อีก จึงทำให้แฟนละครเริ่มมีความคาดหวังว่าการทำละครรีเมคเรื่องนี้จะต้องดีกว่าของเดิมแน่นอน เพราะฝีมือของผู้กำกับคนนี้ไม่แพ้ใคร และในวันนี้รายงานพิเศษได้มีโอกาสสัมภาษณ์ผู้กำกับคนเก่ง อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ และ แดง ธัญญา เลยไม่พลาดที่จะอัพเดตถึงเรื่องงานละครเรื่องดังกล่าว ถึงความยากง่ายและความกดดันในการเอาละครเก่ามาทำใหม่ ทุนในการสร้าง ซึ่งทั้งคู่ได้เปิดใจถึงการทำละครเรื่องนี้กับเราว่า 

ทำ รากนครา ละครรีเมคอีกครั้ง กดดันมั้ย?
แดง “แฟนละครที่ไม่เคยดูละครของเราก็จะมาติดตามดูมากขึ้น คนก็จะจับจ้องว่าหลังจากที่เราทำนาคีได้พีคแล้ว เรื่องต่อๆ ไปของเราจะเป็นอย่างไร จะทำได้เหมือนเดิมมั้ย (หัวเราะ) แต่ถามว่ากดดันมั้ย ไม่ถึงกับกดดันค่ะ และการที่เราดึงแต้วมาเล่นเรื่องนี้ ต้องบอกว่าไม่ได้เกี่ยวกับว่าแต้วเล่นนาคีไว้ได้ดี แต่เป็นเพราะแต้วต้องเล่นรากนคราก่อนเรื่องนาคี แต่นาคีเป็นการสร้างระหว่างที่เราพักจะทำเรื่องรากนครา เพราะรากนครามันยากกว่าหลายจุด นาคีมันยากตรงซีจี และไปอยู่ต่างจังหวัดเยอะเท่านั้น เลยส่งผลให้หน้าพี่อ๊อฟแก่ ริ้วรอยขึ้นเยอะเพราะเรื่องนาคีนี่แหละ (หัวเราะ)”

...

รากนครา เป็นละครที่ยากที่สุดที่ค่ายแอคอาร์ตเคยทำมาหรือเปล่า?
แดง “ใช่ค่ะ เพราะเสื้อผ้ามันเป็น 3 วัฒนธรรม 3 ศิลปะ ซึ่งเราต้องมีการสำรวจเยอะ ลงทุนกับเสื้อผ้าเยอะมาก เรื่องนี้งบเต็มมาก ไม่เคยทำอะไรงบเต็มขนาดนี้มาก่อนเลย เสื้อผ้าการแต่งตัวก็ไปค้นหาว่าในยุคนั้นใส่แบบไหน และโชคดีที่เราได้คนเก่งที่รู้เรื่องนี้มาช่วย คืออาจารย์ตี๋ ซึ่งเป็นคนที่เหมือนบอกเล่าบอกกล่าวเรื่องราว 3 เมืองเลย เขาเก่งมากทั้งที่เขายังเป็นคนหนุ่มอยู่ ได้รู้จักเพราะเขาคุยกับทีมงานของเราที่เป็นฝ่ายคอสตูม ที่เขาเริ่มหาข้อมูลว่าจะต้องทำเรื่องรากนครา ก็มีคนเข้ามาเชื่อมต่อบอกข้อมูล พอคุยกันแล้วถูกอัธยาศัย และก็ได้เขาเข้ามาร่วมทำ คือเราพยายามเอาคนพื้นที่มาช่วย เหมือนกับนาคีเราก็เอาคนพื้นที่มาช่วย และคนที่มาช่วยก็เป็นเด็กรุ่นใหม่หมดเลย เป็นการเปิดเวทีให้คนที่เขายังไม่มีสปอตไลท์ส่อง มันก็สร้างบุคคลใหม่ๆ เข้ามาในวงการ ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี”

โลเคชั่นในการใช้ถ่ายทำ หายากมั้ย?
แดง “ถ้าเป็นวังเราใช้การอิงวัดค่ะ เพราะว่าวังไม่มีแล้ว เก่ามากแล้ว วัดก็เก่ามากแล้ว ก็ขึ้นไปทางเหนือก็ใช้โรงแรม ไปเมืองโบราณ และสตูดิโอของท่านมุ้ย ซึ่งต้องขอบคุณเมืองโบราณมาก เขาทำอะไรไว้ให้เราได้ใช้ และได้อิงกับเรื่องราวที่แทบหาไม่ได้แล้ว เรื่องนี้ถ่ายต่างจังหวัดเยอะมาก”

นักแสดงต้องพูดคำเมืองทั้งเรื่อง?
แดง “ใช่ เรื่องคำเมืองก็มีคนทางเหนือมาช่วยกันค่ะ ซึ่งแต้วเป๊ะมาก ขนาดคนเหนือยังถามว่าแต้วเป็นคนเมืองหรือเปล่า หมากยังอึ้งแต้วที่พูดได้ขนาดนี้ ส่วนมิวตอนแรกๆ ก็มีปัญหาอยู่เหมือนกัน แต่พอถ่ายๆ ไป ก็เริ่มเนียน”

...

กลัวแต้วจะกลบมิวมั้ย เพราะคนมองว่ามิวไม่น่าจะเล่นบทมิ่งหล้าได้?
แดง “ตอนแรกก็กลัวมิวเรื่องพลัง ก็คุยกับพี่อ๊อฟว่ากลัวน้องไม่มีแรง เพราะดูระโหยโรยแรง เพราะตัวละครตัวนี้มันต้องมีพลังสูงมาก เพราะการเลี้ยงดูจากแม่ที่สนับสนุนในทางที่ไม่โอเค เอาเปรียบคน ต้องเป็นที่หนึ่ง เพราะคาแรกเตอร์ตัวละครมันเป็นอย่างนี้ แต่ด้วยลุคของมิวเป็นอีกแบบหนึ่ง ก็ยอมรับว่ากลัวว่าเขาจะเล่นไม่ถึง พลังไม่ถึง เพราะการเล่นให้มีพลังมันสำคัญมาก แรกๆ ก็แผ่วๆ พี่อ๊อฟต้องจับเขย่าทุกวัน เราก็กลัวตัวเขาหักมาก (หัวเราะ) พอตอนหลังมันก็ดีขึ้น มาเต็มค่ะ”

อ๊อฟ “คือมันทำอย่างนั้นไม่ได้หรอก บทบาทนักแสดงเขามีบทเป็นตัวซัพพอร์ตอยู่แล้ว การแสดงของนักแสดงหน้าที่ผู้กำกับทำให้มันเต็มตรงนั้นให้ได้ ตัวของแม้นเมืองที่แต้วเข้าไปสวมวิญญาณก็เป็นพี่สาวที่เสียสละทุกอย่างให้กับน้อง ในขณะที่ตัวน้องมิ่งหล้า ที่รับบทโดยมิว ที่ถูกเลี้ยงดูมาให้เป็นอีกแบบหนึ่ง สอนให้เดินนำหน้าพี่ ส่วนพี่ก็ถูกสอนว่าอย่าเดินนำหน้าน้อง แต่ถึงจะเป็นเด็กที่เอาแต่ใจตัวเอง แต่ก็รักพี่สาวนะ เพราะฉะนั้นความรักของพี่น้องคู่นี้มันจะเป็นความรักที่มีเรื่องของฐานันดรเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็พยายามกดขี่กัน เวลาจะให้มิวเล่นก็บอกวิธีคิดให้กับเขา ว่าตัวละครตัวนี้มันเป็นคนแบบนี้นะ คือนักแสดงที่ดีเขาจะต้องเปิดกว้างอยู่แล้ว กับบทบาทที่เขาจะต้องรับ นักแสดงมีความสามารถอยู่แล้ว ไม่ดีมันอยู่ที่ผู้กำกับ ส่วนมิวจะเล่นได้หรือไม่ได้ อยากให้ไปดูเอาเอง (ยิ้ม) ถ้าไม่พอใจเราให้เขาผ่านไม่ได้หรอก ทำงานเต็มที่เต็มร้อย ยอมรับว่ามิวอาจจะมีเรื่องภาษาบ้างเพราะไม่ใช่ภาษาพูดของเขา บอกเลยว่าสิ่งที่ยากที่สุดในเรื่องนี้คือภาษา แต่ความรู้สึก วิธีคิด แอ็กติ้งได้ ดูตามิวสิเขาทำได้ ส่วนแต้วไม่ต้องพูด เขาเป็นดินน้ำมันที่เราอยากจะปั้นเป็นอะไรก็ปั้น”

...

...

เวอร์ชั่นนี้จะเหมือนกับเวอร์ชั่นก่อนมั้ย?
อ๊อฟ “มันจะหนีไปได้อย่างไร บทประพันธ์เดียวกัน แต่มีการปรุงแต่งในบางอย่างบ้าง รายละเอียดบางอย่างที่จะแตกต่างกัน แต่โครงเรื่องหลักๆ คือพี่น้องคู่นี้จะต้องแย่งผู้ชายคนเดียวกัน และมีการเสริมตัวละครขึ้นมาให้เกิดความอรรถรส”

สำหรับ น้ำฝน พัชรินทร์ กับการเล่นร้ายที่สุด เพราะอะไรถึงเป็นฝน?
แดง “บทนี้พี่เหมี่ยว ชไมพร เคยเล่นไว้ บทนี้เราเลือกเป็นปีนะ สายตา รูปร่าง เขาเหมือนในตัวละครเลย”

อ๊อฟ “การที่คนจะเอาตัวน้ำฝนกับเหมี่ยวมาเทียบกัน มันเป็นเรื่องที่อดใจไม่ได้อยู่แล้วของคนดูละคร แต่อย่าลืมว่าการที่เราจะทำละครรีเมค 1 เรื่องมันต้องวาดรูปใหม่หมดเลยนะ แต่ถ้ายังยึดติดกับเวอร์ชั่นเดิม ปัญหามันจะอยู่กับคนดู อุ๊ย สมัยคนนี้เล่นเป็นอย่างนี้ ทำไมเล่นแบบนี้ หรือเล่นดีกว่าเวอร์ชั่นที่แล้วก็ยังลำบาก อยากจะให้คิดใหม่ว่าเราทำใหม่ สู้ได้มั้ย ไม่รู้ ดีกว่ามั้ย ไม่รู้ แต่ดีที่สุดสำหรับเราแล้ว ตอนเหมี่ยวเล่นเราก็ไม่ได้ดู เวอร์ชั่นที่แล้วก็ไม่ได้ดู เพราะทำงานชิ้นใหม่ก็ต้องคิดใหม่ไปเลย ถ้าเกิดมันซ้ำ มันเหมือนกัน ก็คือความคิดของเราที่คิดตรงกัน ไม่เกี่ยวกับว่าไปก๊อบปี้มา แต่ก็ต้องเบี่ยงนิดๆ นะ จะได้ให้คนดูเสพงานใหม่ๆ แปลกๆ สนุกสนานตามเรื่อง ถ้าถามว่าเอาเวอร์ชั่นก่อนเป็นกรณีศึกษามั้ย เราหลีกเลี่ยงมากกว่าด้วยซ้ำ ส่วนใครจะเล่นเป็นบทที่ใครเคยรับมาก่อนทำไมต้องบอกคนคนนั้นที่จะมารับเล่นด้วย ทำไมต้องรู้ มันไม่ใช่หน้าที่ ไม่ใช่วิธี ไม่ใช่เลยนะสำหรับนักแสดง แต่ต้องรู้ว่าตัวเองต้องเล่นเป็นอะไร คิดยังไงแค่นั้นพอ ถ้าจะบอกว่าให้เขาเล่นแบบอั้มสิ อันนั้นมันก็ไม่ใช่แล้ว ทุกอย่างต้องใหม่หมด ทุกครั้งที่ทำละครรีเมคคิดเสมอว่าละครเรื่องนั้นไม่เคยทำมาก่อน ต้องสร้าง ต้องปั้นมาใหม่หมด มีการก๊อบหรืออิงของเก่า”

ตอนนี้ถ่ายทำได้มากแค่ไหน?
อ๊อฟ “จวนแล้ว ก็พยายามถ่ายให้ได้มากที่สุด เพราะพี่แดงเขาด่าแล้ว (ยิ้ม) นาคีก็โดนมาแล้ว ส่วนช่องไม่ได้เร่ง เพราะช่องเขาจะรอให้ทำให้เสร็จพร้อมออกอากาศก่อน ไม่ได้เร่ง แต่จะเอาละครของเราออกอากาศหรอก ลองคิดกันนะ ละครเรื่องหนึ่ง ถ่ายทำกัน 8-10 เดือน บางเรื่องเป็นปี ออกอากาศเดือนครึ่ง 2 เดือนก็จบแล้ว น่าเป็นลมมั้ยล่ะ นาคีก็ถ่ายนาน แต่ออนแอร์แป๊บเดียวเอง จบแล้ว ผู้จัดก็เร่งกันใหญ่เลย”.