ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทเกือบจะในทุกองค์ประกอบของชีวิตคนเมืองในปัจจุบัน โดยเฉพาะเมื่อเรามีเครื่องมือที่สะดวกสบายอย่าง ‘สมาร์ทโฟน’ ที่สามารถตอบโจทย์ชีวิตยุคดิจิตอลได้เกือบทุกกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง อาหารการกิน การออกกำลังกาย และสารพันสิ่งบันเทิง จนกล่าวได้ว่า สำหรับหลายๆ คน สมาร์ทโฟนได้กลายเป็นปัจจัยที่ 5 ของชีวิตที่ขาดไม่ได้ไปเสียแล้ว ทุกวันนี้ไม่ว่ามองไปทางไหน เด็ก ผู้ใหญ่ หรือแม้แต่คนชรา ต่างก็มีสมาร์ทโฟนใช้กันทั้งนั้น
แม้ว่าสมาร์ทโฟนจะมีข้อดีมากมาย และช่วยให้ชีวิตเราสะดวกสบายมากขึ้น แต่ในทางกลับกันก็ทำให้หลายคนหมกมุ่นกับการเล่นมือถือมากเกินไปจนละเลยความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง หลายครั้งเมื่อไปรับประทานข้าวกันในครอบครัวหรือกับเพื่อนในกลุ่ม ต่างคนต่างไม่พูดคุยกันและเอาแต่ก้มหน้าก้มตากดมือถือ ส่งผลให้เกิด “สังคมก้มหน้า” ที่ไม่มีใครสนใคร
ล่าสุด ผลสำรวจดัชนีความสัมพันธ์พรูเด็นเชียลประจำปี 2559 ที่จัดทำขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจในสถานะความสัมพันธ์ส่วนบุคคลทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ทั่วทวีปเอเชีย ชี้ให้เห็นผลสำรวจที่น่าตกใจ ว่า คนไทยมีปากเสียงกับคู่รักของตนเองบ่อยที่สุดในเอเชีย และสาเหตุหลักของการทะเลาะกันของคู่รัก ได้แก่ เรื่องเงิน (45%) เหล้าและบุหรี่ (35%) โดยประเด็นที่น่าตกใจคือการใช้เวลากับคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนมากเกินไป (32%) กลายมาเป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักของการทะเลาะกัน
นอกจากนี้ คนไทยกว่าครึ่ง (51%) ระบุว่าคู่รักของตนชอบใช้เวลากับสมาร์ทโฟนมากกว่าใช้เวลากับตน และพ่อแม่เกือบครึ่ง (42%) คิดว่าลูกของตนใช้เวลากับคอมพิวเตอร์มากเกินไป แต่เหมือนหลายคนรู้ตัวว่าทุกวันนี้เราเล่นมือถือกันมากเกินไป โดยผลสำรวจระบุว่าคนไทยส่วนใหญ่พร้อมจะลดการใช้เทคโนโลยีเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น ซึ่งคนไทยเกือบทั้งหมด (93%) ระบุว่าจะพิจารณาการงดใช้เทคโนโลยี 1 วัน เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับบุคคลอื่นๆ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น แม้ว่าสมาร์ทโฟนจะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังจนเหมือนเราย่อโลกทั้งใบมาอยู่ในมือ แต่อย่างไรก็ไม่สามารถสร้างความอุ่นใจเหมือนคนตรงหน้า พรูเด็นเชียลอยากให้ทุกคนใช้มือถืออย่างมีสติและรู้เท่าทันเทคโนโลยี เพื่อสร้างสมดุลในความสัมพันธ์ ทั้งในโลกเสมือนจริงและโลกความเป็นจริง