สื่อรัฐบาลเกาหลีเหนือ เคซีเอ็นเอ ออกแถลงการณ์ยกย่องนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ว่า เป็นผู้กำกับดูแลขั้นตอนเตรียมการทดสอบปล่อยขีปนาวุธด้วยตนเอง เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ที่ผ่านมา พร้อมระบุว่าขีปนาวุธดังกล่าวเป็นระบบอาวุธทางยุทธศาสตร์รุ่นใหม่สไตล์เกาหลี มีชื่อเรียกว่า “ปุกกุกซอง-2” มีพิสัยทำการระยะกลางถึงระยะไกล และการทดสอบครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ โดยขีปนาวุธที่ใช้เชื้อเพลิงแข็งทะยานขึ้นฟ้าไปที่ระดับความสูง 550 กิโลเมตร และมุ่งหน้าไปทางประเทศญี่ปุ่น ทำระยะทางได้ถึง 500 กิโลเมตร ก่อนตกลงในทะเลญี่ปุ่น หรือทางภาคตะวันออกของคาบสมุทรเกาหลี
แถลงการณ์ดังกล่าวของสื่อเกาหลีเหนือ ถือเป็นครั้งแรกที่ได้มีการกล่าวถึงชื่อขีปนาวุธรุ่น ปุกกุกซอง-2 หลังจากเมื่อเดือน ส.ค.ปีก่อน กองทัพเกาหลีเหนือได้แถลงข่าวประสบความสำเร็จในการทดสอบปล่อยจรวดจากเรือดำน้ำที่มีชื่อว่าปุก-กุกซอง-1 (หรือแปลว่าดาวเหนือ)
ขณะที่เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธในกองทัพเกาหลีใต้ ระบุว่า ขีปนาวุธรุ่นปุกกุกซอง-2 คาดว่าใช้เทคโนโลยีการจุดชนวนที่เรียกกันว่า “การปล่อยแบบเย็น” โดยตัวขีปนาวุธจะทะยานขึ้นจากฐานปล่อยด้วยแรงอัดแก๊ส ก่อนจะจุดชนวนอีกครั้งขณะลอยอยู่กลางอากาศ ซึ่งทำให้ยากต่อการตรวจจับพิกัดว่าขีปนาวุธถูกปล่อยออกจากจุดใด ส่วนนักวิชาการความมั่นคงสหรัฐฯมองว่า การใช้เชื้อเพลิงแข็งถือเป็นเรื่องน่ากังวลเพราะจะทำให้ใช้เวลาเตรียมการปล่อยสั้น ถือว่าเทคโนโลยีเกาหลีเหนือได้ก้าวหน้าไปอีกขั้น
วันเดียวกัน คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอสซี จะจัดประชุมด่วนตามคำขอของรัฐบาลสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ในวันที่ 14 ก.พ. กรณีเกาหลีเหนือประสบความสำเร็จทดสอบขีปนาวุธรุ่นใหม่ โดยทั้งนี้ยูเอ็นเอสซีได้ออกมติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือไปแล้ว 6 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา ที่เกาหลีเหนือทดสอบนิวเคลียร์ และมาตรการล่าสุดมีขึ้นเมื่อเดือน พ.ย. ปีก่อน คือจำกัดการส่งออกถ่านหินไปจีน หนึ่งในรายได้หลักของเกาหลีเหนือที่คิดเป็นมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
...
ส่วนนายโยชิฮิเดะ ซูกะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระบุว่า รัฐบาลได้เรียกร้องให้จีนดำเนินการต่อเกาหลีเหนือในฐานะที่จีนเป็นหนึ่งสมาชิกถาวรยูเอ็นเอสซี และญี่ปุ่นเองก็จะเรียกร้องอย่างต่อเนื่องให้เกาหลีเหนือหลีกเลี่ยงพฤติกรรมยั่วยุ.