2 นางแบบ "เพลย์บอย" บุกร้องกองปราบ หลังถูกนำรูปถ่ายแบบไปใช้ขึ้นปกซีดีลามกอนาจาร ยัน ไม่เคยเกี่ยวข้องกับการจัดทำและเผยแพร่เรื่องเสื่อมเสียศีลธรรมดังกล่าว ระบุ ถ่ายแบบเพื่อเป็นงานศิลปะเท่านั้น...
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 9 ก.พ. ที่กองปราบปราม น.ส.พัชรธร เกษโกศล หรือ แน๊ตตี้ อายุ 28 ปี น.ส.เอมินทร์ พงษ์รุจนิธิธร หรือ น้อยโหน่ง อายุ 30 ปี สองนางแบบสาวสังกัดเพลย์เมต ในเครือเพลย์บอย พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.วีระยุทธ ไชยสุระ รอง สว.(สอบสวน) กก.1บก.ป. เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ และนำหลักฐานเป็นซีดีลามกอนาจาร ที่ปรากฏรูปนางแบบทั้งสองบนปกไว้เป็นหลักฐาน หลังถูกนำรูปภาพในนิตยสารไปตัดต่อเป็นปกซีดีลามกให้ได้รับความเสื่อมเสีย น.ส.พัชรธร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้ถ่ายภาพแฟชั่นลงในนิตยสารเพลย์บอย ประเทศไทย (PLAYBOY THAILAND) ฉบับประจำเดือน มกราคม พ.ศ. 2559 โดยได้เผยแพร่ลงในคอลัมน์ Playboy Asian Model ซึ่งจะเป็นคอลัมน์ที่เสนอภาพของนางแบบสมัครเล่น หรือผู้ที่มิได้มีอาชีพเป็นนางแบบประจำ ทั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่งานในเชิงศิลปะ รวมทั้งยังได้มีการเผยแพร่ภาพต่างๆ ของตัวเอง ในช่องทางอื่น เช่น ทางเฟสบุ๊กและอินสตาแกรมส่วนตัว
ต่อมา เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้ทราบข่าวจากเพื่อนว่าได้พบเห็นแผ่นซีดีลามก โดยปรากฏรูปภาพของตนเองและของน้อยโหน่ง เพื่อนนางแบบสังกัดเดียวกัน พร้อมทั้งในปกซีดีดังกล่าวมีข้อความหยาบคายประกอบ ซึ่งภาพดังกล่าวเป็นภาพของข้าพเจ้าซึ่งได้เคยถ่ายภาพและเผยแพร่ผ่านนิตยสารเพลย์บอย และเมื่อตรวจสอบแล้ว พบว่าภายในแผ่นซีดีดังกล่าวเป็นภาพยนต์ลามกอนาจารแสดงการร่วมเพศของชายหญิง โดยที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับตนเองและนางแบบร่วมสังกัดแต่อย่างใด ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดและตนเองได้รับความเสียหาย สอดรับกับ น.ส.เอมินทร์ ที่เปิดเผยว่า ตนไม่ทราบว่า เจตนาว่าคนทำมีเจตนาอย่างไร แต่การที่ปรากฏภาพนางแบบเพลย์บอยอยู่ในปกซีดีลามกอนาจาร ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย จึงเดินทางมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐานและดำเนินคดี เนื่องจากการกระทำดังกล่าว โดยการนำรูปภาพของตนและเพื่อนนางแบบไปปรากฏบนปกซีดีลามกอนาจาร ทำให้ตนเองและเพื่อนนางแบบได้รับความเสียหาย ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถึงแม้ตนเองจะมีสังกัด แต่เราก็ไม่ได้ทำงานที่ส่อไปในทางแบบนั้น เราถ่ายแบบเพื่อเป็นงานศิลปะ
...
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการนำโลโก้สังกัดเพลย์บอยไปใช้ในปกเชิงโฆษณา ซึ่งการกระทำลักษณะนี้เป็นเรื่องที่เกินกว่าที่จะรับได้ หากมีผู้พบเห็นและนำไปพูดต่อตีความต่างๆ นานา ส่อไปในทางที่ไม่ดี ทำให้เกิดความเข้าใจผิด คิดว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับการจัดทำ และเผยแพร่เรื่องเสื่อมเสียศีลธรรมดังกล่าว ซึ่งข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นแบบนั้น เนื้อหาภายในซีดีไม่ได้เกี่ยวกับตนเองและเพื่อนนางแบบเลย เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำสองนางแบบสาวไว้เป็นหลักฐานการประกอบสำนวน ก่อนนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชา.