เค้นอย.เร่งออกใบรับรอง บิ๊กตู่เซ็นทีเดียว3ฉบับรวด นักรบไซเบอร์-พักรบ2วัน

“บิ๊กตู่” ทุบโต๊ะออกคำสั่ง คสช. 3 ฉบับรวด ผ่าปมปัญหางานค้างท่อ สั่ง รฟม.จ้างพิเศษบ.บีอีเอ็มเดินรถเชื่อมรถไฟฟ้าสายสีม่วง “บางใหญ่-เตาปูน” หั่นขั้นตอนขอใบรับรอง อย.พร้อมตั้งบอร์ด 19 อรหันต์ คุมเกมปฏิรูปประเทศ “ประยุทธ์” คุมทีมจัดคิวเรื่องเร่งด่วนใน 4 เดือนหลัง รธน.ประกาศใช้ นายกฯอวยพรปีใหม่ให้กำลังใจ ครม.ปั่นผลงาน วอนพวกป่วนบ้านเมืองหยุดเสียที ชิ่งหนีเผือกร้อนคฤหาสน์หรูน้องชาย ยกเป็นข้อกฎหมายเจ้าตัวต้องแจงเอง ผบ.ทบ.งัด ก.ม.ฟันกลุ่มต้านซิงเกิล เกตเวย์ปั้นข้อมูลเท็จ ยันไม่มีการจัดซื้อเครื่องถอดรหัส “นายกฯตู่” ลั่นต้องหยุดกลุ่มแฮกเกอร์ให้ได้ ย้ำถ้าผิดกฎหมายจับหมด “บิ๊กป้อม” แย้มมีอีกรวบนักรบไซเบอร์ ขออย่ากดดันให้เวลาเจ้าหน้าที่สอบสวน เครือข่ายพลเมืองเน็ตฯขุดคำสั่งไอซีทีแฉซ้ำสั่ง ทบ.จัดหาเครื่องสอดแนม

หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทยอยใช้อำนาจพิเศษแก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดหัวหน้า คสช.ได้ออกคำสั่งตามมาตรา 44 รวม 3 ฉบับ เพื่อแก้ปัญหาสำคัญที่คั่งค้าง ทั้งการเชื่อมต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีม่วง ความล่าช้าในการขอใบรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และตั้งคณะกรรมการ 19 คน ควบคุมการปฏิรูปประเทศ

“บิ๊กตู่” ถก คสช.ออก 3 คำสั่งด่วน ม.44

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 ธ.ค. ที่ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุม คสช.โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะรองหัวหน้า คสช. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯในฐานะรองหัวหน้า คสช. พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ.ในฐานะเลขาธิการ คสช. พร้อมสมาชิก คสช. อาทิ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการ กรธ.เข้าร่วมการประชุม โดยใช้เวลานาน 30 นาที

...

ทุบโต๊ะเชื่อมรถไฟฟ้า–ตั้งบอร์ดดันปฏิรูป

ต่อมาเวลา 14.10 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. กล่าวภายหลังการประชุม ครม.ว่า ก่อนการประชุม ครม. ได้ประชุม คสช.เพื่อออกคำสั่งในมาตรา 44 รวม 3 ฉบับ คือ 1.เร่งกำหนดมาตรฐาน คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข เกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนยาหลายพันรายการที่ค้างคา เพื่อประโยชน์ในการผลิตยาสมุนไพร คนไทยจะได้ซื้อยาถูกลง เพื่อการค้าและส่งออก 2.การดำเนินการส่วนเชื่อมต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีบางใหญ่-เตาปูน ช่วง 1 กิโลเมตร ให้ใช้ได้ในกลางปลายปี 2560 และ 3.การตั้งคณะกรรมการเตรียมการปฏิรูป ที่ต้องการสร้างความชัดเจนให้เกิดขึ้นในปี 2560 เพื่อรวมเรื่องที่ สนช. สปท.เสนอเข้ามากว่าร้อยเรื่อง และจะนำงานของ คสช. รัฐบาล และ กรธ. รวม 5 สาย มาปฏิรูปให้ชัดเจน สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติให้เป็นผลสัมฤทธิ์ในปี 2560 โดยคณะกรรมการดังกล่าวจะเริ่มทำหน้าที่ตั้งแต่เดือน ม.ค.เป็นต้นไป การใช้มาตรา 44 เคยบอกไปหลายครั้งแล้วใช้เพื่อประโยชน์ ไม่ได้ใช้รังแกใคร ไม่รู้ว่ากลัวอะไรหนักหนา หลายคนอยากให้รัฐบาลใช้มาตรา 44 มากขึ้นด้วยซ้ำไป คนที่ต้องการให้ยกเลิก คือคนที่ทำความผิด ถ้าไม่ผิดก็ไม่ได้ใช้

นายกฯนำทีม 19 คนตีกรอบ 4 เดือน

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงว่า คสช.ออกคำสั่งตามมาตรา 44 ดังกล่าว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการอนุญาตผลิตภัณฑ์สุขภาพ ที่ อย.ออกใบรับรองล่าช้า จึงให้ใช้ผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกมาช่วยตรวจสอบ และมีการแต่งตั้งคณะทำงานเตรียมการปฏิรูปประเทศ มีนายกฯเป็นประธาน รองนายกฯทุกคน รัฐมนตรี 2 คน ประธานและรองประธาน สนช.และ สปท.และข้าราชการอื่นรวม 19 คน เป็นกรรมการ เพื่อจัดลำดับความเร่งด่วนการปฏิรูป โดยต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จใน 4 เดือนหลังรัฐธรรมนูญประกาศใช้

รฟม.เด้งรับช้าสุดปลายปี 60 เดินรถ

พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า หัวหน้า คสช.ใช้มาตรา 44 ผ่าปมปัญหาเดินรถขาดช่วง 1 สถานี สถานีเตาปูน-บางซื่อ โดยให้ รฟม.ว่าจ้างบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีอีเอ็มผู้เดินรถรายเดิม (สายสีม่วง) เดินรถชั่วคราวว่า ได้สั่งให้ รฟม.เตรียมแผนเร่งเจรจาว่าจ้างเร็วที่สุด หากให้บีอีเอ็มเดินรถต่ออีก 1 สถานีจะครบตลอดเส้นทางพอดีเป็นวิธีที่ดีที่สุด วงเงินลงทุนติดตั้งอาณัติสัญญา 693 ล้านบาทและค่ารับจ้างเดินรถปีละ 52 ล้านบาท เป็นวงเงินเท่าเดิม และ รฟม.จะจัดเก็บค่าโดยสารเอง คาดจะเสนอผลการเจรจาให้บอดร์ด รฟม.วันที่ 11 ม.ค.60 และจะเสนอให้ ครม.อนุมัติเพื่อลงนามในสัญญาจ้างต่อไป จากนั้นอีก 6 เดือนวางระบบติดตั้งอาณัติสัญญาและทดลองเดินรถอีก 2 เดือน คาดว่าเปิดเดินรถได้ ส.ค.-ก.ย.60 ขณะนี้นายกฯเร่งให้เปิดเดินรถ 1 สถานีโดยเร็ว แต่ รฟม.ต้องดูกฎหมายให้รอบคอบด้วย

นายกฯให้กำลังใจ ครม.ลุยงาน

ขณะที่เวลา 10.00 น.ที่ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดสุดท้ายของปี 59 มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. เป็นประธาน ก่อนการประชุม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม เป็นตัวแทน ครม.กล่าวอวยพรให้นายกฯเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ โดยนายกฯได้กล่าวขอบคุณพร้อมอวยพรว่า ขอให้ทุกคนมีกำลังใจในการทำงาน ตนไม่สามารถขับเคลื่อนทุกอย่างไปด้วยตัวเอง ต้องอาศัยกำลังจากทุกคนอย่างเต็มขีดความสามารถ ระยะเวลาที่ยังเหลืออยู่ขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพให้แข็งแรง จะได้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ต้องยกกระทรวง ทบวง กรม พาข้าราชการมาอวยพร แต่ขอให้ทำงานตามหน้าที่ให้มีประสิทธิภาพนั้นคือสิ่งที่อยากได้เป็นของขวัญมากกว่า

ขนหน่อกล้วยน้ำว้ายักษ์แจก รมต.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุม ครม.นายกฯและบรรดารัฐมนตรี ต่างนำของขวัญปีใหม่มามอบให้แก่กัน โดยนายกฯนำหน่อกล้วยน้ำว้ายักษ์จาก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี จากสวนของ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ป.ป.ส.) มามอบให้ เพื่อสื่อว่าจะได้ทำงานได้ราบรื่น เหมือนปลอกกล้วยเข้าปาก พล.อ.ประวิตร นำชุดของขวัญ เป็นไดอารี่ ปากกา พวงกุญแจ ผ้าเช็ดตัว ร่ม พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกฯนำหนังสือ “คำสอนของพ่อ” มา นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯนำหนังสือ “ชีวิตของประเทศ” มา ส่วนรัฐมนตรีอื่นๆเป็นของขวัญ อาทิ พระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 9 แก้วไวน์ ข้าว กรอบรูป และสินค้าโอทอป เป็นต้น

วอนพวกป่วนเมืองหยุดเสียเถอะ

ต่อมาเวลา 14.10 น. พล.อ.ประยุทธ์แถลงภายหลังการประชุม ครม.ว่า ตามที่สื่อมวลชนสอบถามว่านายกฯ เป็นห่วงอะไรประเด็นใดบ้างเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองนั้น ตนห่วงประชาชนมากกว่า การเมืองก็คือการเมือง เป็นอย่างไรก็รู้อยู่ มีเห็นด้วยไม่เห็นด้วยบ้าง แต่ขอให้คิดถึงประเทศชาติเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็ตาม ขอให้คิดถึงประเทศ ชาติมาก่อนเสมอ โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง จะทำอะไรต้องให้ประชาชนมีความสุข ยิ่งช่วงปีใหม่ ใครที่คิดจะทำอะไรที่ไม่เกิดความสงบหรือวุ่นวาย อะไรต่างๆขอให้เลิกเสียเถอะ เพราะบ้านเมืองกำลังต้องการความสงบ

ชวน ปชช.เป็นหูเป็นตาช่วยรัฐ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ส่วนการป้องกันรับมือเหตุการณ์ช่วงปีใหม่นั้น คงไม่เฉพาะช่วงปีใหม่ แต่ช่วงปีใหม่ได้เข้มงวดกวดขันเน้นย้ำให้มากขึ้น คสช.ได้เตรียมพร้อมและสั่งการและเน้นย้ำไปทำอย่างไรให้เหตุการณ์บ้านเมืองสงบมากที่สุด โดยไม่ก่อให้เกิดความรุนแรงขึ้น ต้องขอความร่วมมือจากภาคประชาชนช่วยกันเฝ้าระวังแจ้งเตือน จะหวังจากเจ้าหน้าที่อย่างเดียว บางทีไม่ทันการณ์ ส่วนเรื่องวันหยุดราชการในช่วงปีใหม่ รัฐบาลประกาศให้หยุดตั้งแต่ 31 ธ.ค.59-3 ม.ค.60 รวม 4 วัน ไม่รู้ใครไปบอกว่าหยุดตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. ส่วนการอวยพรปีใหม่ของนายกฯ ความจริงได้อวยพรไปหลายรอบแล้ว วันศุกร์ที่จะถึงจะอวยพรผ่านรายการศาสตร์พระราชาฯอีกครั้ง

อ้อนอยากให้คนไทยแฮปปี้ไร้ขัดแย้ง

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การอวยพรอย่าไปคิดว่าสิ่งที่ตนและรัฐบาลจะทำอะไรให้ใครสักคน ไม่ได้ให้เฉพาะกรณีวันพิเศษ เช่น ต้องให้ในวันเกิดถึงจะรักกันหรือวันสำคัญ มันรักได้ทุกวัน ให้กันได้ทุกวัน ห่วงใยปรารถนาดีและไม่ต้องการให้ทุกคนลำบากเดือดร้อน อยากทำให้ประชาชนมีความสุข ปราศจากความขัดแย้ง ถ้าขัดแย้งก็แก้ไขที่ต้นทางให้ยุติโดยเร็ว ไม่ใช่ขยายความขัดแย้งไปเรื่อยๆ ปีใหม่ขอให้ได้รับพรจากอำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย บุญบารมีอันแผ่ไพศาลแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงปกป้องรักษาคุ้มครองให้คนไทย ปี 60 ถือเป็นปีแห่งมหามงคล ขอให้ทุกคนรักษาตัวให้ดี ให้มีชีวิตอยู่ร่วมกันในปีใหม่ และปีต่อๆไปตลอดชีพ

ใจดีมอบเสื้อโปโลดำให้สื่อทำเนียบฯ

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้มอบเสื้อโปโลสีดำเป็นของขวัญปีใหม่ให้ตัวแทนสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ที่สำนักนายกรัฐมนตรีสั่งทำพิเศษ ปักรูปธงชาติไทย และปักตัวเลข 4.0 ที่แขนเสื้อด้านขวา แขนเสื้อด้านซ้ายมีปักข้อความภาษาอังกฤษว่า Stronger together

ส่ง ส.ค.ส.สวัสดีปีใหม่แฟนคลับ

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ช่วงวันหยุดปีใหม่ นายกฯไม่ได้เดินทางไปเที่ยวที่ไหน แต่จะใช้เวลาอยู่กับครอบครัว เพราะถ้านายกฯเดินทางไปที่ไหน จะต้องมีเจ้าหน้าที่มาคอยรักษาความปลอดภัย จึงไม่อยากให้เจ้าหน้าที่ลำบาก

พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับบัตรอวยพรและ ส.ค.ส.ปีใหม่ ที่ประชาชนส่งให้นายกฯ ทางสำนักพิธีการและเลขานุการ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) ได้รวบรวมให้นายกฯ และนายกฯได้เซ็น ส.ค.ส.ตอบกลับไว้ให้หมดแล้ว รวมทั้งของเอกอัครราชทูตได้ส่งของที่ระลึกประจำชาติมาให้ นายกฯได้ส่งสมุดบันทึก ชุดของที่ระลึกให้กลับเพื่อแสดงน้ำใจ

“บิ๊กป้อม” แข็งยังคุม สตช.ตามเดิม

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ที่ประชุม ครม.ได้มีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี และการทำหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่างๆ หลังมีการปรับ ครม.ไป โดยรองนายกฯทุกคนยังคงกำกับดูแลงานตามเดิม เช่น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม คงกำกับดูแลหน่วยงานด้านความมั่นคง เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ กำกับดูแลหน่วยงานในสังกัด อาทิ กรมประชาสัมพันธ์ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) นายสุวิทย์ เมษิณทรีย์ รมต. ประจำสำนักนายกฯ กำกับดูแลหน่วยงานในสังกัด อาทิ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กองทุนหมู่บ้าน

ศูนย์ไซเบอร์บล็อกเข้าระบบไม่ได้

อีกเรื่อง ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.ฤทธี อินทราวุธ ผอ.ศูนย์ไซเบอร์กองทัพบก (ศซบ.ทบ.) กล่าวถึงกรณีที่มีหน่วยงานราชการถูกโจมตีทางไซเบอร์ว่า การโจมตีทางไซเบอร์หรือเว็บล่ม ที่เจาะระบบได้มีทั้งจริงและเท็จ เพื่อหวังสร้างกระแส โดยจะชักชวนเข้าร่วมและตกเป็นเครื่องมือการกระทำที่ละเมิดกฎหมายด้วยความคึกคะนอง โดยเฉพาะเยาวชน เพราะจะถูกดำเนินคดีทั้ง พ.ร.บ.คอมฯและกฎหมายมาตราอื่นๆ ทั้งนี้เป็นการโจมตีทั้งแบบ DDOS Attack เพื่อจะให้ Server ล่ม ทำให้ซอฟต์แวร์และข้อมูลอาจเสียหาย ปกติจะใช้อุปกรณ์ Firewall เป็นกำแพงป้องกันโดยตั้งกฎว่า IP ที่เข้าถึง Server อะไรผ่านไม่ได้จะถูกบล็อก ระบบยังทำงานปกติได้ ส่วนการโจมตีแบบเจาะระบบหรือแฮก ที่สร้างกระแสให้สังคมสับสนมีอยู่ 3 รูปแบบคือการโจมตี Path Traversal โจมตีผ่าน Port ของระบบโดยเฉพาะ Port 80 และ Port 443 เป็น Port เข้า-ออก Internet ถ้าเจาะเข้ามาได้ก็เอาอะไรมาฝังในระบบได้ ทำให้ผู้เจาะระบบนำไปใช้งานต่างๆ ได้ รวมถึงเข้าถึง Path ที่เก็บไฟล์ Application ที่เรียกดูข้อมูลต่างๆได้ แนวทางป้องกันคือ Port หรือ Service อะไรที่ไม่จำเป็นให้ปิดใช้งาน แต่ไม่ใช่ปิดหมดจนใครเข้าใช้งานไม่ได้ รวมถึงกำหนด Permission ในการเข้าถึง Path และการแก้ไขข้อมูล

จวกภัยร้ายกระทบความมั่นคงชาติ

ผอ.ศซบ.ทบ.กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีการโจมตีแบบ SQL Injection อาศัยช่องโหว่การเขียนโปรแกรมหรือเว็บเพจ ผู้โจมตีฝัง Script เข้าไปเรียกดูข้อมูลแสดงผลข้อมูลได้ แต่ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลจริงได้ ดังนั้นต้องตรวจสอบช่องโหว่ของ Source Code โปรแกรมและแก้ไขให้ปลอดภัย รวมถึงกำหนด Permission การเข้าถึงข้อมูลเพื่อป้องกันการแก้ไขหรือลบข้อมูล ส่วนการโจมตีแบบ Brute Force อาศัยการเดาสุ่มรหัสผ่านของผู้ใช้งาน ทั้งระดับ Admin จนถึงผู้ใช้งาน โดยใช้โปรแกรมเดาสุ่มรหัสผ่านอันนี้อันตราย ถ้าเจาะเข้าถึงข้อมูลจะยึดระบบได้หมด จึงต้องเข้มงวดให้ผู้ใช้งานกำหนดรหัสผ่านปลอดภัยสูงสุด การโจมตีทางไซเบอร์ ทั้ง DDOS Attack และการ Hack เจาะระบบต่อระบบสารสนเทศของหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและธุรกิจเอกชน ภัยคุกคามทางไซเบอร์ไม่เพียงเป็นภัยด้านความมั่นคงของชาติ ยังมีแนวโน้มจะเป็นภัยร้ายแรงต่อความมั่นคงของมนุษย์ทุกคนที่บริโภคข่าวสารสื่อออนไลน์ จึงจำเป็นต้องมีมาตรการทางกฎหมายมาป้องปราม คุ้มครอง และป้องกัน แต่สิ่งที่ตามมาคือภัยคุกคามด้านไซเบอร์ดังกล่าว ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ รวมถึงภัยจากข้อมูลข่าวสารต่างๆบนโลกไซเบอร์ที่มีต่อประชาชน

ผบ.ทบ.งัด ก.ม.ฟันปั่นข้อมูลเท็จ