ตร.นครพนม รวบ "นายฮ้อย" แฝงเป็นโจรลัก วัว-ควาย ขายตลาดนัด ซ้ำเติมชาวบ้าน ขณะที่ราคาข้าวตก ด้านจนท.สั่งจับตากลุ่มพ่อค้าหลังหายบ่อย สั่งเข้มป้องกันก่อเหตุซ้ำ

เมื่อวันที่ 24 พ.ย. พ.ต.ท.สนิท หงส์สุวรรณ สารวัตรใหญ่ สภ.พระซอง อ.นาแก จ.นครพนม สั่งการให้ ร.ต.ท.ศราวุฒิ อภัยกาวี รอง สวป.พระซอง ประสานงานร่วมกับ ร.ท.สุทัย พิมพ์โคตร หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ มทบ.210 นครพนม ร่วมกับ นายตัก พ่อชมพู อายุ 54 ปี กำนันตำบลนาเลียง อ.นาแก จ.นครพนม และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ทหาร และฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชน ท้องถิ่น เร่งสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายแก๊งลักขโมย โค กระบือชาวบ้าน ในพื้นที่ หลังก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านมาหลายครั้ง จนกระทั่งล่าสุด เมื่อคืนวันที่ 12 พฤศจิกายน 2559 แก๊งขโมย โคกระบือ ได้เข้าไปก่อเหตุ ขโมยวัว ของ นายสมศักดิ์ พ่อชมพู อายุ 42 ปี ลูกชายอดีตกำนัน ตำบลนาเลียง ซึ่งเลี้ยงไว้ในคอกข้างบ้านเลขที่ 159 หมู่ 9 บ้านนาสามัคคี ต.นาเลียง อ.นาแก จ.นครพนม หายไปทั้งหมด 3 ตัว มีวัวแม่พันธุ์ อายุ 7 ปี ลูกวัวเพศผู้ 1 ตัว อายุ 1 ปี และลูกวัวเพศผู้ อายุ 3 เดือน คิดเป็นเงินมูลค่ากว่า 2 แสนบาท

จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่สืบสวนหาเบาะแส พบหลักฐานเชื่อมโยงไปยังแก๊งลักขโมย โคกระบือ จึงได้รวบรวมหลักฐาน ขออนุมัติออกหมายจับ และศาลจังหวัดนครพนม ได้อนุมัติออกหมายจับ นายสมใจ หรือเจิม อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 203 หมู่ 1 ต.นาเลียง อ.นาแก จ.นครพนม ซึ่งมีอาชีพเป็นนายฮ้อย รับซื้อวัวควาย แต่แฝงเป็นโจรฉวยโอกาสตั้งแก๊งลักขโมย โคกระบือ ชาวบ้าน ไปขายตลาดนัดโคกระบือ ก่อนนำหมายศาลเข้าจับกุมได้ที่บ้านพัก พร้อมของกลางรถยนต์ กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีดำ ทะเบียน บช 1857 สกลนคร ซึ่งดัดแปลงเป็นรถบรรทุกโคกระบือ และลูกวัวเพศผู้ อายุ 1 ปี สีน้ำตาลอีก 1 ตัว โดยได้สืบสวนไปตรวจยึดได้หลังเกษตรกร ชาว จ.สกลนคร ซื้อไปจากตลาดนัดโคกระบือ ซึ่งผู้เสียหายยืนยันว่า เป็นวัว ที่ลักขโมยไปจริง ส่วนอีก 2 ตัวเชื่อว่า จะมีการส่งขายเข้าโรงฆ่าสัตว์เถื่อนในพื้นที่ อยู่ระหว่างการเร่งสอบสวนขยายผลติดตามผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดี

...

เบื้องต้น จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางผู้ต้องหาให้การปฏิเสธขอต่อสู้คดี แต่ทางตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากมีพยานหลักฐานชัดเจน ซึ่งได้แจ้งข้อกล่าวหา ลักทรัพย์ (วัว) ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคล หรือทรัพย์หรือโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเพิ่มมาตรการในการตรวจสอบดูแลป้องกันปราบปราม ตามกลุ่มเป้าหมาย และจุดรับซื้อตลาดนัดโคกระบือ ป้องกันก่อเหตุซ้ำอีก และฝากเตือนเกษตรกรเฝ้าระวังตรวจสอบวางมาตรการป้องกัน

โดย นายสมศักดิ์ พ่อชมพู อายุ 42 ปี ลูกชายอดีตกำนันตำบลนาเลียง ผู้เสียหาย กล่าวว่า ในช่วงเกิดเหตุแก๊งลักขโมยวัวควาย จะอาศัยจังหวะช่วงกลางดึก เจ้าของวัวนอนหลับ และมีคอกเลี้ยงห่างจากบ้านพัก ซึ่งต้องยอมรับว่าแก๊งเหล่านี้จะมีพื้นฐานความชำนาญเกี่ยวกับการขนย้ายวัวมาก เพราะมีอาชีพเป็นนายฮ้อย ทำให้มีความชำนาญใช้เวลารวดเร็วในการเคลื่อนย้าย อีกทั้งเป็นคนในพื้นที่ ซึ่งรู้ความเคลื่อนไหวของเจ้าของ เช่นเดียวกันกับวัวของตน ถ้าไม่ชำนาญยากที่จะลักขโมยได้ และจากการสอบถามหลังขโมยไปจะส่งขายยังตลาดโคกระบือ เพราะตรวจสอบยาก รวมถึงเข้าโรงชำแหละเถื่อน อย่างไรก็ตาม ฝากเจ้าหน้าที่บ้านเมืองช่วยเพิ่มมาตรการป้องกันปราบปราม เพราะเชื่อว่า ยังมีอีกหลายกลุ่มที่เป็นพ่อค้าโค กระบือ แต่แฝงเป็นโจร คอยซ้ำเติมชาวบ้านลักขโมยวัว ทั้งที่รายได้น้อย ราคาข้าวตก ต้องมาถูกลักขโมย โคกระบือ ที่เลี้ยงด้วยน้ำพักน้ำแรงอีก