นักเทควันโดเยาวชนไทยทำผลงานติด 1 ใน 6 ศึกชิงแชมป์โลก 2016 ที่แคนาดาจากกว่า 100 ประเทศ ล่าสุด “น้องมิ้นท์” หอบแชมป์โลกกลับมาแล้ว เร่งรักษาอาการบาดเจ็บหัวเข่าซ้ายด่วน หวังอนาคตอยากไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ญี่ปุ่น

ความเคลื่อนไหวทัพนักเทควันโดเยาวชนทีมชาติไทย ชุดลุยศึกชิงแชมป์โลก รายการ “2016 เวิลด์ จูเนียร์ เทควันโด แชมเปียนชิพ” ที่เมืองเบิร์นนาบี ประเทศแคนาดา หลังประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ในรอบ 10 ปี ด้วยการคว้ามาได้ 1 เหรียญทองจาก “น้องมิ้นท์” นภาพร จรณวัต จอมเตะสาวดาวรุ่งวัย 17 ปี, 1 เหรียญเงินจาก “เจ้าเฟรม” ศรัญ ตั้งฉัตรแก้ว และ 1 เหรียญทองแดงจาก “เจ้าโต” ยุทธยา คงกระพันธุ์ ภายใต้การคุมดูแลทีมของ ดร.สมคิด ปิ่นทอง เลขาธิการสมาคมฯ ในฐานะผู้จัดการทีมชาติ และ “โค้ชจอมเฮี้ยบ” เช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนไทยชาวเกาหลีใต้ ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา ณ สนามบินสุวรรณภูมิ นักกีฬาทั้งหมด 12 คน ได้เดินทางกลับมาถึงเมืองไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยเที่ยวบินอีอาร์ 067 โดยมีบรรดาญาติพี่น้องและแฟนคลับไปให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

ทั้งนี้ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากความสำเร็จของนักกีฬาไทยในครั้งนี้ ส่งผลให้คะแนนรวมของเราอยู่อันดับที่ 6 ของโลก เป็นรองเพียงแค่อันดับ 1 เกาหลีใต้, อันดับ 2 อิหร่าน, อันดับ 3 รัสเซีย, อันดับ 4 ตุรกี และอันดับ 5 ไต้หวัน จากนักกีฬาเข้าร่วมกว่า 100 ประเทศ ถือว่าผลงานดีกว่าเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ครั้งนั้นเราได้มา 2 เหรียญเงิน จากนี้ไปจะให้นักกีฬาทุกคนกลับไปพักผ่อน พร้อมจะมีการประชุมเพื่อสรุปผลการแข่งขันกับทีมงานสตาฟฟ์โค้ชว่า เด็กแต่ละคนมีการพัฒนาเป็นอย่างไร นักกีฬาคนไหนมีโอกาสขึ้นมาสู่รุ่นประชาชนทั่วไป รวมไปถึงข้อผิดพลาดต่างๆที่เกิดขึ้นว่ามีอะไรบ้าง เพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขต่อไปให้ดีในอนาคต ส่วนรุ่นน้ำหนัก 55 กก.ชาย “เจ้าเน” ทรงนิติ มีวงษ์ ที่มีอาการบาดเจ็บต้นขาขวา จนต้องเข้ารับการผ่าตัดเอาเลือดเสียออกมาอย่างเร่งด่วนนั้น เวลานี้อาการปลอดภัยดีขึ้นแล้ว และสามารถเดินทางกลับมาพร้อมทีม จากเดิมคิดว่าต้องนอนรอดูอาการอีก 5-7 วัน ที่แคนาดา แต่เมื่อทุกอย่างดีขึ้นแพทย์จึงอนุญาตให้กลับบ้านได้ ทั้งนี้ สมาคมจะคอยดูแลให้เป็นอย่างดี เนื่องจากทุกคนที่เดินทางไปมีประกันที่บริษัทเมืองไทย ประกันชีวิต จำกัด กันอยู่แล้ว

...

ขณะที่ “น้องมิ้นท์” นภาพร ได้กล่าวว่า รู้สึกอบอุ่นและดีใจมากที่สามารถเอาแชมป์โลกมาฝากแฟนกีฬาเทควันโดไทยได้ เพราะตั้งแต่พลาดหวังเมื่อ 2 ปีก่อน ก็รู้สึกเสียใจและแทบจะถอดใจไม่อยากเล่นต่อไปแล้ว เพราะมันเหนื่อยและเจ็บตัว ทั้งช่วงฝึกซ้อมและลงแข่งขัน แต่โชคดีที่ได้รับกำลังใจจากครอบครัว “จรณวัต” ตลอดจนทีมงานสตาฟฟ์โค้ชและเพื่อนร่วมทีมจนกัดฟันสู้มาถึงจุดนี้ได้ จากนี้ไปจะพยายามรักษาอาการบาดเจ็บหัวเข่าซ้ายให้ดีขึ้น เพื่อก้าวไปสู่ตัวแทนทีมชาติในประเภทประชาชน ส่วนจะได้ลงแข่งขันรายการอะไรหรือไม่นั้น ทุกอย่างคงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ “โค้ชเช” เพราะตัวเองก็คงทำหน้าที่ในส่วนของนักกีฬาด้วยการตั้งใจฟิตซ้อม และนำจุดบกพร่องต่างๆของตัวเองมาแก้ไขให้ดีขึ้น โดยเฉพาะเป้าหมายอีก 4 ปีข้างหน้า ส่วนตัวอยากมีโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตได้เดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ด้าน “โค้ชเช” ให้สัมภาษณ์ว่า นักกีฬาชุดนี้ขยันและตั้งใจฟิตซ้อมเป็นอย่างดี โดยเฉพาะนักเทควันโดชาย นอกเหนือจาก “เจ้าเฟรม” ศรัญ กับ “เจ้าโต” ยุทธยา ที่ได้เหรียญรางวัลมาแล้ว ในส่วนของรุ่น 59 กก. “เจ้าพีค” อินทัช รัตนาวังเจริญ และรุ่น 63 กก. “เจ้าทีม” นุชิต รักญาติ อดีตเหรียญทองแดงยุวชนโลกปี 2015 ที่เกาหลีใต้ ก็มีโอกาส แต่ประสบการณ์และความเก๋าเกมของทั้งสองคนยังน้อย ต้องให้เวลาเก็บเกี่ยวอีกพอสมควร ส่วนนักกีฬาหญิงน่าเสียดาย รุ่น 52 กก. “น้องฟ้า” วิภาวรรณ ศิริพรเพิ่มศักดิ์ ดีกรีเหรียญทองโคเรียโอเพ่นคนล่าสุด และนักกีฬายอดเยี่ยมรายการนี้ที่เกาหลีใต้ กับรุ่น 49 กก. “น้องเพชร” รัชนีกร สูนประหัต อดีตเหรียญทองแดงโคเรียโอเพ่น ที่มีอาการตื่นเต้นมากจนเกินไปจนทำให้ฟอร์มหลุดตกรอบไปแบบน่าผิดหวัง อย่างไร ก็ตาม นักกีฬาชุดนี้หลายคนมีแววที่จะได้รับโอกาสไปร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่ประเทศมาเลเซียปีหน้า แต่ต้องขอพิจารณาดูรายละเอียดแต่ละคนอีกครั้งหนึ่งถึงจะประกาศรายชื่ออย่างเป็นทางการได้.