เปิดใจทําผลงานเพื่อพ่อหลวง ฟันรางวัล1ล้านเหรียญสหรัฐฯโกยเงินรวมสูงสุด124ล้านบาท

“โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟมืออันดับ 2 ของโลกวัย 21 ปีของไทย สร้างประวัติศาสตร์วงการกีฬาไทยและเกียรติประวัติในวงการกอล์ฟโลกด้วยการคว้ารางวัล “นักกีฬาแห่งปี” ของสมาคมนักกอล์ฟอาชีพสตรี (LPGA) และแชมป์ Race to CME Globe ซึ่งเป็นการชิงแชมป์ตลอดฤดูกาลของแอลพีจีเอทัวร์ พร้อมเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 35 ล้านบาท หลังได้อันดับ 4 ร่วมในกอล์ฟ CME Group Tour Championship ซึ่งเป็นรายการปิดท้ายแอลพีจีเอทัวร์ปีนี้ ที่ทิบูรอน กอล์ฟคลับ เมืองเนเปิลส์ รัฐฟลอริดา สหรัฐฯ เมื่อวันอาทิตย์ที่ตรงกับเช้ามืดวันจันทร์ตามเวลาของไทย นอกจาก 2 รางวัลนี้แล้ว เอรียายังเป็นผู้ทำเงินรางวัลสะสมสูงสุดประจำปี และเมื่อรวมเงินโบนัสแล้ว เอรียากวาดเงินรางวัลปีนี้ไปรวมทั้งหมดถึง 124 ล้านบาท

ภายหลังจากที่เปิดหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ของ วงการกอล์ฟไทย ด้วยการเป็นนักกอล์ฟหญิงคนแรก ที่คว้าแชมป์ในแอลพีจีเอทัวร์ และยังเป็นนักกอล์ฟไทยคนแรก ที่คว้าแชมป์ระดับเมเจอร์ได้ ทำคะแนนสะสมนำหน้านักกอล์ฟทุกคนในทัวร์นี้ จนกลายเป็นเต็ง 1 ที่จะคว้ารางวัล “นักกีฬาแห่งปี” (Rolex Player of the Year) และแชมป์ Race to CME Globe ซึ่งเป็นการชิงแชมป์ตลอดทั้งปี ที่ปิดท้ายด้วยการแข่งขัน CME Group Tour Cham-pionship โดยมีเงินโบนัสสำหรับผู้คว้าแชมป์ Race to CME Globe ถึง 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 35 ล้านบาท การแข่งขันวันสุดท้ายที่ ทิบูรอนกอล์ฟคลับ เมืองเนเปิลส์ รัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 พ.ย.ตรงกับเวลาเช้ามืดวันจันทร์ที่ 21 พ.ย. ตามเวลาในประเทศไทย เอรียา จุฑานุกาล ซึ่งจะต้องไม่ถูกลิเดีย โค มือ 1 ของโลกจากนิวซีแลนด์ ที่เป็นคนเดียวซึ่งมีโอกาสแย่งรางวัล “นักกีฬาแห่งปี” จากเอรียาคว้าแชมป์รายการนี้ไป ทั้งคู่ออกสตาร์ตรอบสุดท้ายด้วยสกอร์ที่เท่ากันคือ 11 อันเดอร์ โดยมีชาร์ลีย์ ฮัลล์ ซึ่งยังไม่เคยได้แชมป์เลยตลอด 2 ปี เป็นผู้นำอยู่ด้วยสกอร์ 13 อันเดอร์

...

ผลการแข่งขันจบลงโดยชาร์ลีย์ ฮัลล์ เป็นผู้คว้าแชมป์ซึ่งเป็นแชมป์แรกของโปรสาวจากอังกฤษผู้นี้ด้วยสกอร์ 19 อันเดอร์ ในขณะที่เอรียา จุฑานุกาล จบในอันดับ 4 ร่วม ด้วยสกอร์ 14 อันเดอร์ ส่วนลิเดีย โค หล่นไปจบในอันดับ 10 ร่วม ด้วยสกอร์ 11 อันเดอร์ ซึ่งจากผลการแข่งขันที่ออกมา ทำให้ “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล มีคะแนนสะสมรวม 268 คะแนน ทิ้งห่าง ลิเดีย โค ซึ่งมีอยู่ 248 ห่างถึง 20 คะแนน คว้ารางวัล “นักกีฬาแห่งปี” (Rolex Player of the Year) ไปครองได้ และเอรียายังเป็นผู้ได้ตำแหน่งแชมป์ Race to CME Globe โดยมีคะแนนทั้งหมด 6,800 คะแนน ตามมาด้วยลิเดีย โค 5,050 คะแนน และอันดับ 3 บรู๊ค เฮนเดอร์สัน จากแคนาดา มืออันดับ 3 ของโลก 4,370 คะแนน ทำให้เอรียาคว้าเงินโบนัสจากตำแหน่งแชมป์นี้ถึง 1,000,000 เหรียญ (35 ล้านบาท) ส่วนลิเดีย โค ได้ไป 150,000 เหรียญ และบรู๊ค เฮนเดอร์สัน ได้ไป 100,000 เหรียญ

เอรียา จุฑานุกาล นับเป็นนักกอล์ฟเอเชียคนที่ 5 ที่คว้ารางวัล “นักกีฬาแห่งปี” ซึ่งเริ่มมอบครั้งแรกเมื่อปี 1966 โดย 4 คนก่อนหน้านี้คือ อายาโกะ โอคาโมโตะ (ญี่ปุ่น) ปี 1987 เจิ้งหย่าหนี (ไต้หวัน) ปี 2011 และ 2012 ปาร์คอินบี (เกาหลีใต้) 2013 และลิเดีย โค (2015) โดยลิเดียนั้นแม้จะถือสัญชาตินิวซีแลนด์ แต่ก็มีบิดามารดาเป็นชาวเกาหลี และลิเดีย โค ก็เกิดในเกาหลีใต้ สำหรับนักกอล์ฟที่คว้ารางวัลนักกีฬาแห่งปีย้อนหลังไปถึงปี 2000 ได้แก่ แคร์รี เว็บบ์ (ออสเตรเลีย) 2001-2005 แอนนิกา ซอเรนสแตม (สวีเดน) 2006-2009 ลอเรนา โอชัว (เม็กซิโก) 2010-2011 เจิ้งหย่าหนี 2012 สเตซี ลูอิส (สหรัฐฯ) 2013 ปาร์คอินบี 2014 สเตซี ลูอิส 2015 ลิเดีย โค และ 2016 เอรียา จุฑานุกาล

นอกเหนือจาก 2 รางวัลใหญ่นี้แล้ว “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล ยังเป็นผู้ทำเงินรางวัลสะสมประจำปีสูงสุด ด้วยยอดเงิน 2,550,928 เหรียญ ตามมาด้วยลิเดีย โค 2,492,994 เหรียญ และบรู๊ค เฮนเดอร์สัน 1,724,409 เหรียญ ซึ่งเมื่อรวมเงินโบนัสอีก 1 ล้าน เหรียญแล้ว ทำให้เอรียาสามารถทำเงินรางวัลจากการแข่งขันแอลพีจีเอทัวร์ปีนี้ถึง 3,550,928 เหรียญ (ราว 124 ล้านบาท) และเอรียายังทำสถิติเป็นผู้ทำเบอร์ดี้สูงสุดในฤดูกาลนี้ 469 เบอร์ดี้ (อันดับ 2 บรู๊ค เฮนเดอร์สัน 455 เบอร์ดี้) ซึ่งเป็นการทำลายสถิติเดิมที่สเตซี ลูอิส เคยเป็นผู้ทำไว้สูงสุด 451 เบอร์ดี้เมื่อปี 2014 นอกจากนี้ เอรียายังได้รับรางวัลอีก 2 รางวัล ซึ่งสมาคมนักกอล์ฟอาชีพสตรีได้ทำพิธีมอบไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา คือรางวัล Rolex First Time Winners in 2016 จากการเป็น 1 ใน 9 นักกอล์ฟที่คว้าแชมป์เป็นครั้งแรกประจำปีนี้ และยังได้รับรางวัล Heather Farr Perseverance Award จากการโหวตของเพื่อน นักกอล์ฟในทัวร์นี้ โดยเป็นรางวัลที่มอบให้ผู้ที่มีความเพียรพยายามต่อสู้ด้วยความทุ่มเทให้กับกีฬากอล์ฟ

เอรียา จุฑานุกาล กล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกดีใจและตื่นเต้นมากๆ ที่คว้ารางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี และโบนัส Race to CME Globe มาครองได้ ก่อนแข่งไม่ได้คิดว่าจะคว้ารางวัลนี้ได้ ไม่ได้คิดถึงเรื่องโบนัสสักเท่าไร ตอนนี้รู้สึกเหมือนฝันเป็นจริงที่ชื่อของตัวเองได้ปรากฏอยู่บนถ้วยรางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมเคียงข้างตำนานกอล์ฟมากมาย ยอมรับว่าก่อนแข่งรู้สึกตื่นเต้นมากๆ แทบจะทำอะไรไม่ถูก ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ต้องโทรศัพท์ไปปรึกษาโค้ชด้านจิตวิทยาเพื่อรวบรวมสมาธิก่อนแข่งหลายครั้ง เมื่อปีที่แล้วตนไม่ผ่านการตัดตัวถึง 10 รายการติดต่อกัน แต่เมื่อมองย้อนกลับไป ก็รู้สึกพอใจที่ต้องผ่านอุปสรรคตรงนั้น เพราะช่วยให้มีวันนี้ ปีนี้พยายามเปลี่ยนมุมมอง คิดบวกให้มากขึ้น และสนุกกับการเล่นให้มากขึ้น ทุกอย่างจึงออกมาดี หลังจบการแข่งขันรอบสอง ซึ่งลิเดีย โค ขึ้นไปนำและทิ้งห่างถึง 8 สโตรก ก็คิดว่าโคอาจจะกวาดทุกรางวัลในปีนี้ แต่พอจบรอบสามเก็บเพิ่มอีก 7 อันเดอร์ จนมาเสมอกับโค ก็เริ่มเล่นด้วยความมั่นใจ และคิดว่ามีโอกาสที่จะคว้ารางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมได้

“รู้สึกดีใจที่ทำให้คนไทยมีความสุขและภูมิใจไปกับความสำเร็จของตัวเองด้วย ยิ่งปีนี้ตั้งใจมากเป็นพิเศษ เพราะอยากถวายความสำเร็จแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงรู้สึกดีใจและภูมิใจมากๆ ต้องขอบคุณคุณแม่และพี่สาวที่คอยอยู่ข้างๆมาตลอด และขอบคุณชาวไทยทุกคนที่เป็นกำลังใจให้เสมอมา”

ผู้สื่อข่าวถามถึงสถิติการทำเบอร์ดี้สูงสุดในประวัติศาสตร์ของแอลพีจีเอทัวร์ “โปรเม” กล่าวว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่า ตนลงแข่งขันหลายรายการตลอดทั้งปี และไม่คิดว่ามาจากสไตล์การเล่นบุกอย่างที่บางคนมอง เพราะถ้าเล่นบุกจริงตนคงต้องพกไดรฟ์เวอร์ไปเกือบทุกทัวร์นาเมนต์แล้ว ปีหน้าจะพยายามใช้ไดรฟ์เวอร์ให้มากขึ้น สำหรับโบนัส 1 ล้านดอลลาร์ที่ได้มา ตอนนี้ยังไม่ได้คิดว่าจะเอาไปใช้ทำอะไร แต่สัปดาห์นี้มีแผนจะไปเที่ยวดิสนีย์เวิลด์กับครอบครัวเพื่อฉลองวันเกิดอายุครบ 21 ปี ในวันพุธที่ 23 พ.ย.ที่จะถึงนี้ ถึงตอนนั้นคงได้ใช้เงินบ้าง

...

เอรียา จุฑานุกาล เกิดเมื่อวันที่ 23 พ.ย.2538 (ค.ศ.1995) เริ่มเข้าสู่การเป็นนักกอล์ฟอาชีพเมื่อปี 2012 ภายหลังจากที่คว้ารางวัลนักกอล์ฟเยาวชนหญิงดีเด่นของสมาคมกอล์ฟเยาวชนสหรัฐฯ (AJGA) 2 ปีซ้อนในปี 2011 และ 2012 ในปีแรกของการเป็นนักกอล์ฟอาชีพในเลดีส์ยูโรเปียนทัวร์ เอรียาก็คว้าแชมป์ครั้งแรกจาก Lalla Meryem Cup ที่ประเทศโมร็อกโกเมื่อวันที่ 31 มี.ค. หลังจากนั้นเอรียาติดอันดับ 15 ของโลก ซึ่งเป็นอันดับดีที่สุดของนักกอล์ฟไทยทั้งชาย-หญิง ก่อนที่จะประสบอุบัติเหตุลื่นล้มจากแท่นทีออฟ ระหว่างฝึกซ้อมก่อนแข่งรายการ Wegmans LPGA Championship จนต้องเดินทางกลับประเทศไทยมาผ่าตัดไหล่ขวาที่เอ็นฉีกที่โรงพยาบาลกรุงเทพ และระหว่างพักรักษาตัวเพื่อจะกลับคืนสู่การแข่งขันอีกครั้ง อันดับโลกของเอรียาก็ตกไปอยู่ในอันดับ 235

ภายหลังฟื้นจากการรักษาอาการบาดเจ็บเอรียาผ่านการคัดเลือกเข้าไปเป็นสมาชิกในแอลพีจีเอทัวร์เต็มตัวในปี 2015 และแม้จะเริ่มต้นฤดูกาลด้วยดีจากการได้อันดับ 2 หลังเพลย์ออฟแพ้คิมเซยองจากเกาหลีใต้ใน Pure Silk Bahamas LPGA Classic ซึ่งเป็นรายการที่ 2 ของปี 2015 และได้อันดับ 3 จากรายการถัดมาคือ ISPS Handa Women’s Australian Open แต่ในรายการต่อๆ มา เอรียากลับตกรอบไม่ผ่านการตัดตัวถึง 12 รายการ โดยมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เป็นการตกรอบติดต่อกันถึง 10 รายการ และแม้ในรายการเปิดฤดูปี 2016 เอรียาก็ยังตกรอบไม่ผ่านการตัดตัวอีกครั้ง ก่อนที่มาเริ่มทำผลงานได้ดีขึ้นด้วยการคว้าอันดับ 4 ร่วมใน HSBC Women’s Champions และเกือบจะได้แชมป์กอลฟ์เมเจอร์ ANA Inspiration ด้วยการนำอยู่ถึง 3 สโตรก แต่ก็ไปพลาดใน 3 หลุมสุดท้าย จนได้แค่อันดับ 4 เท่านั้น ซึ่งยังคงเป็นฝันร้ายที่ตามหลอนเอรียาเสมือนว่าจะไม่สามารถคว้าแชมป์ได้ หลังจากเฉียดไปเฉียดมาหลายครั้งแล้ว

...

จนกระทั่งถึงการแข่งขัน Yokohama Tire LPGA Classic วันที่ 5-8 พ.ค.2016 เอรียา จุฑานุกาล ก็ปลดล็อกตัวเองสำเร็จ กลายเป็นนักกอล์ฟหญิงไทยคนแรกที่ได้แชมป์แอลพีจีเอทัวร์ และก็ตอกย้ำความสามารถของเธอด้วยการเป็นนักกอล์ฟคนแรกของโลกที่คว้าแชมป์แรกทัวร์นี้และติดต่อกันไปถึง 3 รายการ โดยได้แชมป์จาก King-smill Championship และ ShopRite LPGA Classic และตามมาด้วยการคว้าแชมป์ RICOH Women’s British Open ที่ประเทศอังกฤษเมื่อวันที่ 31 ก.ค. ทำให้เอรียาสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟคนแรกของไทยที่คว้าแชมป์ระดับเมเจอร์ได้

เอรียา จุฑานุกาล กลายเป็นความหวังของทัพนักกีฬาไทยในโอลิมปิก 2016 ที่ริโอ เด จาเนโร ซึ่งการแข่งขันในวันแรก เอรียาก็ขึ้นไปเป็นผู้นำ แต่ในวันที่สามเอรียาก็เกิดอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าซ้ายจนต้องจำใจถอนตัวจากการแข่งขัน พลาดโอกาสคว้าเหรียญทองไป แต่จากการที่รีบทำการรักษาจนฟื้นจากการบาดเจ็บหัวเข่าได้อย่างรวดเร็ว เอรียาก็ไปคว้าแชมป์ที่ 5 ของแอลพีจีเอทัวร์จาก Canadian Pacific Women’s Open ที่แคนาดา ซึ่งจากผลงานการคว้าทั้ง 5 แชมป์ในปีนี้ ทำให้คะแนนสะสมใน Race to CME Globe ของเอรียาขึ้นเป็นอันดับ 1 โดยมีลิเดีย โค เป็นอันดับ 2 ทำให้ในการแข่งขัน CME Group Tour Champion-ship ลิเดีย โค มีโอกาสเดียวที่จะแซงเอรียาได้คือต้องคว้าแชมป์รายการนี้ให้ได้เท่านั้น แต่ในที่สุดเอรียาซึ่งแม้จะได้เพียงอันดับ 4 ร่วมก็มีคะแนนสะสมเหนือกว่าทุกคนและได้ตำแหน่งแชมป์ประจำปีไปพร้อมเงินโบนัส 1 ล้านเหรียญไปในที่สุด

เอรียาจะไปตีโชว์ในงานที่ซานดรา กัล เพื่อนนักกอล์ฟรุ่นพี่ชาวอเมริกันจัดขึ้นที่เมืองซาราโซตา ในวันจันทร์ ก่อนจะเดินทางกลับไปยังเมืองออร์ลันโด พร้อมด้วยโมรียา จุฑานุกาล พี่สาวที่แข่งอยู่ในแอลพีจีเอทัวร์เช่นกัน และนางนฤมล ติวัฒนาสุข มารดา เพื่อไปดูแลบ้านที่ซื้อไว้ ก่อนจะเดินทางต่อไปยังลอสแอนเจลิสเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับอุปกรณ์แข่งขันของปีหน้าและจะเดินทางกลับถึงประเทศไทยในตอนดึกคืนวันศุกร์ที่ 2 ธ.ค.

...