จบลงไปแล้วสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกา โดยผลการเลือกตั้งเบื้องต้นที่ออกมาชี้ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ มหาเศรษฐีชาวนิวยอร์ก ตัวแทนพรรครีพับลิกัน เป็นผู้ชนะได้เป็นว่าที่ผู้นำคนที่ 45 ของแดนลุงแซม เอาชนะนางฮิลลารี คลินตัน จากพรรคเดโมแครตไปอย่างเหนือความคาดหมายชนิด หักปากกาเซียนแทบทุกสำนัก
หากผลการเลือกตั้งไม่มีการเปลี่ยนแปลง หรือมีจุดหักมุมใดๆ อีก ทรัมป์จะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 20 ม.ค. ปีหน้า ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่เขาจะเริ่มทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนในช่วงการหาเสียง
ไปดูกันว่าที่ผ่านมา ทรัมป์ ให้สัญญาว่าเขาจะทำอะไรบ้าง เพื่อทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ตามสโลแกนหาเสียงของเขา...
ด้านเศรษฐกิจและภาษี
นายทรัมป์ ให้คำมั่นว่าจะลดภาษี ‘ทุกภาคส่วน’ โดยเฉพาะผู้ใช้แรงงานและชาวอเมริกันผู้มีรายได้ปานกลาง เขาสัญญาด้วยว่า คนรวยก็ต้องจ่ายภาษีเช่นกันในส่วนที่ยุติธรรม แต่จะไม่มีใครต้องจ่ายภาษีมากมายจนทำลายงาน หรือทำลายความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐฯ เขายังรับประกันด้วยว่า จะทำให้อัตราภาษีธุรกิจของสหรัฐฯ อยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันได้มากขึ้นเพื่อรักษางานในอเมริกา และจะลดค่าใช้จ่ายในการดูแลบุตร โดยอนุญาตให้ครอบครัวหักค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรโดยเฉลี่ยของพวกเขาออกจากภาษีที่ต้องจ่ายได้ รวมทั้งพ่อแม่ที่อยู่บ้านเลี้ยงดูลูกโดยไม่ได้ทำงานด้วย
...
ทรัมป์เคยกล่าวว่า เขาจะแก้ไขและอัพเดตกฎหมายภาษีเงินได้ส่วนบุคคลและนิติบุคคล รวมทั้งยกเลิกภาษีการเสียชีวิต เขายังวางแผนจะสร้างงานใหม่ให้แก่ชาวอเมริกันถึง 25 ล้านตำแหน่งภายในระยะเวลา 10 ปี ด้วยการเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) และปฏิรูปนโยบายด้วยแผนภาษีสนับสนุนการเติบโต (pro-growth tax plan) ของเขา
ด้านโครงสร้างพื้นฐาน
ทรัมป์บอกระหว่างการหาเสียงว่า เขาจะเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานที่กำลังง่อนแง่นของอเมริกาให้กลายเป็น โอกาสทองสำหรับการเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจ และเพิ่มผลผลิตให้เร็วยิ่งขึ้น เขายังต้องการสนับสนุนการลงทุนในด้านการคมนาคม และน้ำสะอาด, การพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าให้ทันสมัยและไว้วางใจได้, การโทรคมนาคม, โครงสร้างการรักษาความปลอดภัย และโครงสร้างพื้นฐานในประเทศที่จำเป็นอื่นๆ
มหาเศรษฐีผู้นี้ยังต้องการสร้างงานใหม่หลายพันตำแหน่งในภาคการก่อสร้าง, การผลิตเหล็ก และภาคส่วนอื่นๆ เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ และทำให้เหล็กอเมริกันที่ผลิตโดยแรงงานชาวอเมริกันกลายเป็นกระดูกสันหลังของชาติ
ด้านความมั่นคงของชาติและกองทัพ
ทรัมป์ ต้องการยกเลิกมาตรการตัดลดงบประมาณอัตโนมัติหรือ ‘ซีเควสเตอร์’ ในส่วนกลาโหม และออกงบประมาณใหม่เพื่อสร้างกองทัพอเมริกันที่กำลังจะสูญสิ้นขึ้นมาใหม่ ด้วยการเพิ่มขนาดกองทัพเป็นมีทหารประจำการ 540,000 นาย, มีเรือรบในสังกัดกองทัพเรือ 350 ลำ, จัดหาอากาศยานรบให้กองทัพอากาศ 1,200 ลำ เพิ่มขนาดนาวิกโยธินสหรัฐฯ เป็น 36 กอง และลงทุนในเรื่องระบบขีปนาวุธป้องกัน เพื่อให้สอดรับกับภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือและอิหร่าน
ทรัมป์สัญญาด้วยว่า จะสังคายนาด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของสหรัฐฯ ใหม่ โดยจะทบทวนการป้องกันทางไซเบอร์ของสหรัฐฯ และจุดอ่อนทั้งหมด ซึ่งเรื่องนี้จะจัดการโดย ทีมตรวจสอบไซเบอร์ ซึ่งรวมบุคลากรจากกองทัพ, หน่วยงานกฎหมาย และภาคเอกชน เขายังต้องการให้จัดตั้งทีมปฏิบัติการเฉพาะกิจทั่วประเทศ เพื่อร่วมมือในการตอบโต้ภัยคุกคามทางไซเบอร์ด้วย
ด้านผู้อพยพ
ทรัมป์บอกว่า เขาจะสร้างระบบควบคุมการอพยพย้ายถิ่นใหม่ เพื่อเพิ่มค่าจ้างและรับประกันว่าตำแหน่งงานที่เปิดว่างจะเป็นของชาวอเมริกันก่อน เขาตั้งใจจะให้ความสำคัญในด้านงาน, ค่าจ้าง และความมั่นคงแก่ชาวอเมริกันเป็นอันดับแรก และระบุด้วยว่า เขาต้องการปกป้องสวัสดิภาพของเศรษฐกิจ ด้วยการกำหนดขอบเขตการจ้างแรงงานต่างด้าวที่ไม่ได้รับการควบคุม
...
ส่วนหนึ่งของแผนดังกล่าวคือ การเลือกผู้อพยพโดยดูจากโอกาสที่พวกเขาจะประสบความสำเร็จในสหรัฐฯ, ความสามารถในการพึ่งพาตัวเองในด้านการเงินของพวกเขา, ตรวจสอบผู้ยื่นคำร้องขอลี้ภัยว่าพวกเขาสนับสนุนคุณค่า, สถาบัน และชาวอเมริกัน ขณะที่ระงับการเข้าเมืองของผู้อพยพจากภูมิภาคที่ส่งออกผู้ก่อการร้าย เป็นการชั่วคราว
ทรัมป์ยังตั้งใจจะสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐฯ กับเม็กซิโก ในพื้นที่ทางใต้ของประเทศด้วย โดยจะให้รัฐบาลเม็กซิโกออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด และจะจัดตั้งกระบวนการคัดคนใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ก่อการร้ายเดินทางเข้าสหรัฐฯ
ด้านสาธารณสุข
ทรัมป์ประกาศกร้าวจะยกเลิกมาตรการประกันสุขภาพ ‘โอบามาแคร์’ ของประธานาธิบดี บารัค โอบามา และแทนที่ด้วยระบบบัญชีออมทรัพย์สุขภาพ (Health Savings Accounts), สร้างระบบสาธารณสุขที่อนุญาตให้ผู้คนสามารถซื้อประกันสุขภาพข้ามเส้นแบ่งระหว่างรัฐได้ เขายังจะเพิ่มความยืดหยุ่นในแต่ละรัฐถึงขีดสุด เพื่อให้ผู้นำท้องถิ่นสามารถออกแบบโครงการรักษาพยาบาลที่เหมาะสมแก่พลเมืองผู้มีรายได้ต่ำในท้องถิ่นของพวกเขา
...
ด้านนโยบายต่างประเทศ
ทรัมป์เน้นย้ำเรื่องการกำจัดกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอซิส) อย่างมากในนโยบายต่างประเทศของเขา โดยจะร่วมมือกับพันธมิตรอาหรับและตะวันออกกลาง เขาต้องการให้มีปฏิบัติการทางทหารร่วมอันแข็งกร้าว, ร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อตัดงบประมาณของกลุ่มไอซิส, ขยายการแบ่งปันข้อมูลข่าวกรอง และทำสงครามไซเบอร์เพื่อขัดขวางการเกณฑ์คนและโฆษณาชวนเชื่อ
โดยรวมแล้ว ทรัมป์ต้องการรักษาความสงบสุขด้วยกำลัง เขายังต้องการผูกมิตรกับรัสเซีย, ยุติการอุดหนุนการส่งออกผิดกฎหมายของจีน และเพิ่มทหารสหรัฐฯ ในทะเลจีนใต้และจีนตะวันออก เพื่อคานอำนาจจีนด้วย
ด้านการศึกษา
ทรัมป์บอกว่า เขาจะทำงานร่วมกับสภาคองเกรสในแผนปฏิรูป เพื่อรับประกันว่า มหาวิทยาลัยต่างๆ ลดหนี้และค่าใช้จ่ายให้นักศึกษา แลกกับการพักการจ่ายภาษีของรัฐบาลกลาง เขายังต้องการให้ผู้คนพัฒนาความสามารถทางสายอาชีพหรือทักษะได้ง่ายขึ้น ผ่านการศึกษาอาชีวะและเทคนิค นอกจากนี้ เขายังอยากแก้กฎหมายภาษีให้พ่อแม่ที่ทำงาน สามารถหักค่าเลี้ยงดูบุตรออกจากภาษีเงินได้ของพวกเขา โดยหักได้สูงสุด 4 คน.
...