พรรครีพับลิกัน ยังคงครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาของสหรัฐอเมริกาเหมือนเดิม หลังจากเดโมแครตไม่สามารถตีตื้นขึ้นมาได้ในการเลือกตั้งแห่งชาติเมื่อวันอังคาร...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า วันเลือกตั้งแห่งชาติ (National Election Day) ประจำปี 2016 ของสหรัฐฯ ถือเป็นช่วงเวลาของพรรครีพับลิกันอย่างแท้จริง โดยไม่เพียงตัวแทนของพรรคอย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ มหาเศรษฐีฝีปากกล้า จะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างพลิกความคาดหมายเหนือคู่แข่งจากเดโมแครตอย่างนาง ฮิลลารี คลินตัน นักการเมืองประสบการณ์สูงแล้ว รีพับลิกันยังสามารถรักษาเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาไว้ได้อีกด้วย
ในวันเลือกตั้งแห่งชาติเมื่อ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา มีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา 34 ที่นั่งจากทั้งหมด 100 ที่นั่ง แต่เดโมแครตกลับได้เพิ่มเพียง 1 ที่นั่งเดียวจากที่มาอยู่ ด้วยชัยชนะของ แทมมี่ ดักเวิร์ธ หรือ ลัดดา ดักเวิร์ธ นักการเมืองอเมริกันเชื้อสายไทย ที่รัฐอิลลินอยส์ ชิงตำแหน่งนาย มาร์ก เคิร์ก ที่พยายามจะป้องกันตำแห่งเป็นสมัยที่ 2 ส่วนที่รัฐเนวาดา นางคอร์เตซ มาสโต สามารถรักษาตำแหน่งส.ว.ให้พรรคเดโมแครตได้สำเร็จ โดยเอาชนะนาย โจ แฮค และกลายเป็นส.ว.เชื้อสายละตินอเมริกันคนแรกในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ
...
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือไปจากทั้ง 2 รัฐ รีพับลิกันสามารถรักษาเก้าอี้สำคัญได้หมด ทั้งที่รัฐ อินเดียนา, นอร์ท แคโรไลนา, วิสคอนซัน, ฟลอริดา และรัฐแอริโซนา ซึ่งนายจอห์น แมคเคน ครองตำแหน่งเป็นสมัยที่ 6
นอกจากนี้ เดโมแครตยังล้มเหลวในการลดช่องว่างในสภาผู้แทนราษฎร หรือสภาล่าง โดยคว้าเพิ่มได้อีกเพียง 5 ที่นั่งเท่านั้น โดยที่สร้างความฮือฮาคือนาง อิลฮาน โอมาร์ คว้าชัยชนะที่รัฐมินนิโซตา กลายเป็นส.ส.ชาวอเมริกันเชื้อสายโซมาเลียคนแรกของประเทศ ส่วนนาย พอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎร สังกัดรีพับลิกัน สามารถรักษาเก้าอี้ที่รัฐวิสคอนซินเอาไว้ได้
สรุป ผลอย่างไม่เป็นทางการตอนนี้รีพับลิกันครองเก้าอี้วุฒิสภาอยู่ 51 ต่อ 47 ที่นั่ง และมีเก้าอี้สภาผู้แทนราษฎรอยู่ในมือ 238 ที่นั่ง ต่อ 193 ที่นั่งของฝั่งเดโมแครต
ทั้งนี้ การที่รีพับลิกันครองเสียงข้างมากในสภาปกครองสูงสุดของสหรัฐฯ ทั้ง 2 สภา ทำให้นายทรัมป์สามารถนำนโยบายของตัวเองออกเป็นกฎหมายได้ แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะทำได้ง่ายดายหรือไม่ เนื่องจากแกนนำคนสำคัญของรีพับลิกันหลายคน ไม่สนับสนุนนายทรัมป์
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง