อินโดฯ ทำไทยใช้ ไปได้ 7 คน รีวิว โตโยต้า เซียนต้า

รถยนต์อเนกประสงค์แบบ 7 ที่นั่ง กำลังระบาดหนักโดยได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เฉพาะกลุ่มผู้ใช้รถในประเทศไทยนั้น คนที่ชอบรถเล็กจุผู้โดยสารมากกว่ารถซีดานเล็กเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ จากรูปแบบและความสามารถในการขับใช้งาน ความประหยัดกับพื้นที่ใช้สอย ด้วยตำแหน่งเบาะที่นั่งที่มากกว่ารถเก๋งขนาดเล็ก รวมถึงบานประตูแบบเลื่อนที่เข้า-ออกจากห้องโดยสารได้สะดวกกว่าประตูแบบปกติ บริษัท Toyota Motor Thailand ได้ทำการเปิดตัวรถอเนกประสงค์ขนาดกะทัดรัดแบบ 7 ที่นั่งรุ่น Sienta ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ประกอบในประเทศอินโดนีเซีย ตามโครงการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศไทยกับประเทศอินโดนีเซีย เนื่องจากทั้งสองประเทศนั้นเป็นรากฐานการสำคัญในการผลิตรถยนต์ของบริษัท Toyota ในกลุ่มประเทศอาเซียน

Toyota Sienta ปรากฏตัวเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2559 ด้วยรูปทรงแบบ Compact Multi-Purpose Vehicle โดยใช้การออกแบบเบาะผู้โดยสารให้มีถึง 3 แถว รวม 7 ที่นั่ง ถึงแม้จะมีขนาดที่เล็ก แต่การดีไซน์ให้เบาะสามารถพับได้หลากหลายรูปแบบทำให้ Toyota Sienta สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้รถยนต์ของทั้งสองประเทศได้เป็นอย่างดี ความอเนกประสงค์ของห้องโดยสารกับกลไกบานประตูหลังแบบไฟฟ้าช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน รวมถึงพื้นที่เก็บสัมภาระที่เพิ่มมากยิ่งขึ้นเมื่อทำการพับเบาะแถวที่ 2 และ 3 ทำให้ Toyota Sienta เป็นรถครอบครัวที่จุสัมภาระได้มากกว่ารถ Toyota Yaris หรือ Toyota Vios ประตูหลังแบบไฟฟ้ายังเข้ามาอำนวยความสะดวกในการขึ้น-ลงจากรถได้เหนือกว่ารถยนต์ซีดาน รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ในรุ่น 1.5V ที่เติมเต็มความสามารถในการขับใช้งานในชีวิตประจำวันของคนเมือง

เมื่อมองดูรูปลักษณ์ของ All New Sienta สำหรับการพบเห็นเป็นครั้งแรก ทำให้รู้สึกได้ถึงความแตกต่างจากรถยนต์ของ Toyota ที่ผลิตในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาที่คล้ายกับรถ MINI MPV ของฝั่งยุโรป พลาสติกสีดำเป็นชิ้นงานแบบใหม่ที่ถูกนำมาประดับประดาบริเวณขอบของสปอยเลอร์หน้า เสาหน้าหรือเสา A รวมถึงพลาสติกกันกระแทกที่ด้านล่างของประตูบานหลัง ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟหรี่กลางวันหรือ Daytime Running Lights แยกส่วนจากกรอบไฟหน้า กระจังหน้าพลาสติกสีดำกรุด้วยชิ้นงานสีเงิน ฝากระโปรงหน้าเทลาดมากกว่ารถทั่วไปเพื่อเพิ่มทัศนวิสัยมุมมองของคนขับ แนวคิดนำเอาทรงของรองเท้ามาทำเป็นหน้าตาของ Toyota Sienta ทำให้รถรุ่นนี้แตกต่างไปจากพี่น้องร่วมสายพันธุ์สามห่วงอย่างชัดเจน เสาหน้ามีองศาของความลาดเอียงสอดรับกับรูปแบบ MINI MPV รถ Toyota Sienta มีมิติตัวถังใกล้เคียงกับรถเล็กทั่วไปแต่มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง เกิดจากการออกแบบที่มีส่วนช่วยให้ Sienta เป็นรถเล็กที่จุผู้โดยสาร (รวมคนขับ) มากถึง 7 คน

มิติตัวถังของ Toyota Sienta มีขนาดความกว้าง 1,695 มิลลิเมตร ยาว 4,235 มิลลิเมตรสัดส่วนความสูงอยู่ที่ 1,695 มิลลิเมตร ส่วนมิติภายในห้องโดยสารมีขนาดความกว้าง 1,460 มิลลิเมตร ยาว 2,535 มิลลิเมตร และสูงถึง 1,280 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ วัดจากดุมล้อหน้าไปจนถึงดุมล้อหลัง 2,750 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อคู่หน้า 1,465 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อคู่หลัง 1,470 มิลลิเมตร ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 170 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงมีความจุรวมทั้งสิ้น 42 ลิตร

สำหรับล้อและยาง Toyota Sienta ใส่ล้ออะลูมินัมอัลลอยด์ขอบ 16 นิ้ว พร้อมยาง Bridgestone Turanza ER33 ไซส์ 195/50R16 ทั้งสี่ล้อ ความแปลกใหม่ของรูปลักษณ์อยู่ตรงชุดไฟหน้าที่ออกแบบได้อย่างทันสมัยเข้ากับกระจังหน้าที่ดูคล้ายกับรถยนต์ฝรั่งเศสยี่ห้อ Citroen รุ่น DS3 ด้านข้างของตัวถังออกแนวเรียบๆ บานประตูหน้าของคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าเปิดออกด้วยมุมที่กว้างมากเป็นพิเศษ

Toyota Sienta รุ่น 1.5V ใช้บานประตูหลังแบบสไลด์ไฟฟ้า ด้วยงานดีไซน์ที่เข้มข้น ทำให้ประตูไฟฟ้าบานหลังช่วยเพิ่มความอเนกประสงค์สำหรับการเข้าหรือออกจากห้องโดยสาร ผู้สูงอายุ หรือคนแก่ ไม่จำเป็นต้องยกตัวเข้าไปในห้องโดยสารเหมือนรถยนต์แบบอื่น บานประตูหลังพร้อมตำแหน่งการติดตั้งเบาะแถวที่ 2 ซึ่งใช้การออกแบบให้เบาะมีระดับที่พอดีไม่สูงหรือต่ำมากจนเกินไป ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุ หรือคนชรา สามารถเข้า-ออกจากห้องโดยสารทางด้านหลังใน Toyota Sienta ได้ง่ายกว่ารถเก๋งเล็กทั่วไป ในส่วนของกระจกบังลมรอบห้องโดยสารก็ยังมีขนาดที่ใหญ่ เพื่อเพิ่มเติมมุมมองจากภายในรวมถึงยังช่วยทำให้รู้สึกถึงความโปร่งโล่ง ความสวยงามของไฟท้ายแบบใหม่ที่ใช้หลอดไฟท้ายผสมระหว่างหลอด LED กับหลอดไฟแบบปกติ ไฟท้ายที่สวยงามแปลกตาของ Toyota Sienta ยังมีชิ้นงานพลาสติกสีดำตกแต่งในลักษณะเดียวกับด้านหน้า ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยมือ โดยมีการออกแบบให้ฝาท้ายสามารถเปิดออกได้ด้วยมุมยกที่กว้างมากยิ่งขึ้นสำหรับการบรรจุสัมภาระเข้าไปเก็บยังส่วนท้ายของตัวรถ

ห้องโดยสารแบบ 7 ที่นั่งของ Sienta ปรับเปลี่ยน พับเก็บ หรือกางออกเบาะโดยสารตอนหลังได้หลากหลาย แต่ก็ต้องทำใจกับพลาสติกที่ใช้ตกแต่งภายในโดยเฉพาะพลาสติกแผงประตู งานประกอบที่เป็นรองของมันนั้นขึ้นตรงกับราคาค่าตัว หากอยากได้ MINI MPV ที่มีภายในหรูเต็มเหนี่ยวก็ต้องควักกันถึง 2.2 ล้านบาท สำหรับการครอบครอง BMW series 2 active tourer ค่าตัว 825,000 บาทของ Toyota Sienta รุ่น 1.5V มีชิ้นงานตกแต่งภายในแค่พออาศัยไม่ได้หรูหรามีระดับเหมือนรถหรูจากยุโรป

เบาะหนังดำสลับส้มเย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีส้ม แดชบอร์ดแบบสองชั้นหล่อขึ้นรูปด้วยพลาสติก การออกแบบที่วางแก้วน้ำกับช่องเก็บของในตำแหน่งผู้โดยสารตอนหน้าทำออกมาได้ดีมีรูปทรงที่ทันสมัยโดยเฉพาะช่องเก็บของแบบมีฝาปิดที่มีให้ใส่ของกระจุกกระจิกมากถึง 2 ช่องทั้งด้านบนและด้านล่าง ช่องแอร์ตรงมุมของแดชบอร์ดหุ้มด้วยพลาสติกสีเงินยกระดับความหรูขึ้นมาอีกนิด แผงประตูที่หุ้มด้วยพลาสติกด้อยกว่ารถ Toyota ที่ผลิตในประเทศไทยแบบเห็นๆ แต่ยังดีที่มีชิ้นงานกำมะหยี่สีส้มบุรองเอาไว้เพื่อให้สัมผัสที่นิ่มนวลยามจับยึดเพื่อเปิดประตู

พวงมาลัยไฟฟ้าทรงสามก้านมีสวิตช์มัลติฟังก์ชั่นมาให้ใช้งานเหมือนเดิม พวงมาลัยหุ้มด้วยหนังแท้สีดำเย็บตะเข็บด้วยด้ายสีส้ม ปรับได้แค่สองทิศทางคือ ขึ้นและลง แต่ปรับระยะไกล-ใกล้ไม่ได้

จอแสดงผลกลางขนาด 7 นิ้ว ไม่มีระบบนำทางด้วยดาวเทียมแต่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งการเชื่อมต่อและการเล่นเพลงจาก CD/USB/AUX จอแสดงผลส่วนกลางสั่งงานด้วยระบบสัมผัสที่หน้าจอพร้อมแอพพลิเคชั่นรองรับการใช้งานอีกเพียบสำหรับคนที่ชอบของแนวๆ Toyota Sienta ติดตั้งระบบถุงลมนิรภัยบริเวณหัวเข่า ซึ่งเป็นอุปกรณ์ในระบบความปลอดภัยที่ดี และได้มาตรฐานของรถเล็กที่จำหน่ายในกลุ่มประเทศอาเซียน

มาตรวัดออกแบบให้มีลักษณะที่มีรูปทรงยาวกว่ามาตรวัดทั่วไป แต่ตำแหน่งของมาตรวัดมักจะถูกบดบังมุมมองโดยพวงมาลัย ไม่ว่าจะปรับสูง-ต่ำ หรือขยับเบาะเดินหน้าถอยหลัง พวงมาลัยก็ยังคงบังมาตรวัดอยู่ดี มาตรวัดแบบเรืองแสงมีจอ MID multi information display คอยแจ้งข้อมูลการทำงานของระบบต่างๆ เช่น ตัวเลขความเร็วรถแบบดิจิตอล แจ้งเตือนตำแหน่งของการเปิด-ปิดบานประตูรอบคัน คำนวนน้ำมันในถังเชื้อเพลิงต่อระยะทางที่สามารถวิ่งไปถึง ทริปมิเตอร์และอุณหภูมิภายนอก จอแสดงผลแบบ MID ของ Sienta ยังมีการแสดงผลการขับขี่แบบประหยัด เพื่อทำให้คนขับสามารถปรับระดับการใช้คันเร่งเพื่อลดอัตราสิ้นเปลือง

ชุดควบคุมอุณหภูมิแบบดิจิตอลก็ยังออกแบบให้ใช้งานได้ง่าย ทั้งปุ่มหมุนเพิ่มหรือลดความเย็น สวิชท์ควบคุมทิศทางของระบบปรับอากาศ ช่องแอร์ที่ด้านหลังสำหรับผู้โดยสารตอนหลังและจอมอนิเตอร์สำหรับการดูหนังระหว่างเดินทาง ช่องแอร์ของผู้โดยสารตอนหลังใช้งานได้ดี ช่วยกระจายความเย็นในวันที่มีอากาศร้อน และเหมาะสมกับการใช้งานในประเทศไทย

Toyota Sienta วางเครื่องยนต์ตัวเล็กขนาด 1.5 ลิตร รหัส 2NR-FE ปริมาตรความจุ 1,496 ซีซี เป็นเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 วาว์ลต่อสูบ ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาร์ป DOHC Dual VVT-i ความกว้างกระบอกสูบ 72.5 มิลลิเมตร ช่วงชัก 90.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 11.5:1 จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอีเล็กทรอนิกส์ EFI เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ให้กำลัง 79 กิโลวัตต์ หรือ 108 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 140 นิวตันเมตร หรือ 14 กิโลกรัม/เมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT แบบล็อกอัพปรับให้มีอัตราทดมากถึง 7 สปีด กลไกการทำงานของเกียร์ออโต้ลูกนี้สามารถผลักคันเกียร์ไปที่ตำแหน่ง +/- เพื่อชิฟเกียร์เองได้ โดยมีชื่อเรียกว่า Sport Sequential Shift เครื่องยนต์ 2NR-FE รองรับเชื้อเพลิงเบนซิน E20 ส่วนระบบส่งกำลังที่ใช้เกียร์อัตโนมัติแบบสายพานพูเล่ย์ CVT มีอัตราทดเกียร์เดินหน้า 2.480-0.396 อัตราทดเกียร์ถอยหลัง 2.604-1.680 สำหรับลักษณะการวางเครื่องยนต์ + ระบบขับเคลื่อนของ Toyota Sienta เป็นแบบเครื่องยนต์วางตามขวางด้านหน้าขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หน้า ระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช็กอัพและเหล็กกันโคลง ส่วนระบบกันสะเทือนหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีม ระบบเบรกหน้า-หลังแบบดิสเบรก ระบบบังคับเลี้ยวใช้พวงมาลัยไฟฟ้าแรคแอนพีเนียน PAS รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.7 เมตร

Toyota Sienta คันทดสอบรุ่น 1.5V ราคา 8.25 แสนบาทนั้นเป็นรถมินิเอมพีวีที่มีการออกแบบมาสำหรับขับใช้งานในเมืองที่ย่านความเร็วต่ำ ความสามารถในการบรรทุกคนและสัมภาระที่เหนือกว่ารถเก๋งเล็ก ทำให้เกิดความอเนกประสงค์ในแบบที่ควรจะเป็น ราคา 8 แสนนิดๆ ของรถรุ่นนี้ อาจดูแพงไปนิดเมื่อเทียบกับสมรรถนะของการขับเคลื่อน แต่เมื่อมองไปที่ความอเนกประสงค์ของบานประตูหลังแบบสไลด์ไฟฟ้า พร้อมรูปแบบของการพับเบาะที่หลากหลาย ทำให้ราคาของมันสมน้ำสมเนื้อกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ค่าครองชีพที่สูงขึ้นส่งผลให้รถเล็กราคาถูกหายากขึ้นทุกวัน

Sienta นั้น มีกำลังแรงฉุดลาก หรือแรงบิดแค่ 140 นิวตันเมตร ทำให้การออกตัวมีความเชื่องช้าอยู่บ้างเมื่อเครื่องยนต์ถูกนำมาติดตั้งระบบส่งกำลังแบบ CVT แลกคืนด้วยความเนียนของการเปลี่ยนอัตราทดในเกียร์แบบสายพานพูเล่ย์ ที่เน้นความลื่นไหลไร้รอยต่อทำให้ขับได้สบายเนื้อสบายตัวไม่มีอาการกระตุกกระชาก พวงมาลัยไฟฟ้าถูกปรับมาให้รักษาความเที่ยงตรง แต่ก็ยังคงออกอาการขืนๆ อยู่บ้าง และต้องคอยแต่งพวงมาลัยนิดๆ หน่อยๆ เมื่อขับที่ความเร็วเดินทางบนไฮเวย์ สัดส่วนของความสูง 1,695 มิลลิเมตร ไม่เหมาะกับการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง เนื่องจากรูปแบบของมันเป็นรถมินิเอมพีวีบ้านๆ ที่เน้นบรรทุกคนมากกว่าจะเอามาใช้ขับเร็วๆ ระดับความเร็ว 110-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คือตัวเลขความเร็วที่เหมาะสม และทำให้คุณสามารถควบคุมมันได้ดั่งใจนึกเมื่อขับออกทางไกล สำหรับการขับใช้งานในเมือง ท่านั่งที่ค่อนข้างสูงทำให้มองเห็นข้างหน้าได้ไกลพอสมควร แต่มุมมองด้านข้างนั้นมีจุดอับที่ต้องใช้ความระมัดระวัง เมื่อต้องการจะเปลี่ยนช่องทาง หรือแม้แต่การกลับรถ

อัตราเร่งแซงของเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ต้องใช้การกะระยะให้ดี คุณต้องไม่ทำตัวเป็นพวกใจเร็วด่วนได้ โดยเฉพาะเมื่อขับเจ้า Sienta แล้วต้องการจะขับแซงรถช้า ควรมองให้ไกลเข้าไว้เพราะอัตราเร่งแบบรถจ่ายกับข้าวของมันแค่พออาศัย ไม่ได้แรงจนกระชากแซงขาดด้วยกำลังของเครื่องยนต์ เกียร์ออโตแบบ CVT 7 สปีด สามารถล็อกคาเกียร์ได้เมื่อใช้การผลักคันเกียร์ไปที่ตำแหน่ง +/- ซึ่งออกแบบมาสำหรับเส้นทางขึ้น-ลงภูเขา หรือทางที่มีความคดเคี้ยวอุดมไปด้วยโค้ง ด้วยความเร็วที่เหมาะสมกับสภาพของช่วงล่าง และระบบเบรกคุณจะใช้งานมันด้วยความสบายใจ ระบบรองรับเมื่อขับคนเดียวออกแนวแข็งอยู่เหมือนกัน เมื่อใส่ผู้โดยสารจนเต็มคันพร้อมสัมภาระ เจ้า Sienta ถึงแม้จะมีแรงบิดระดับเด็กอนุบาล แต่เมื่อขับไปไกลมากขึ้นเรื่อยๆ คุณจะเริ่มคุ้นเคยกับแรงบิดที่ได้รับจากเครื่องยนต์ และทำให้สามารถกะระยะแซงที่ขึ้นตรงกับความปลอดภัยได้ดีขึ้น