นายกฯ สั่งใช้มาตรการแก้ปัญหาราคาข้าวทุกจังหวัด ขอบคุณปชช.-ภาคเอกชน ร่วมมือบรรเทาความเดือดร้อน ลุยแก้ปัญหาข้าวโพดทั้งระบบ ยันไม่ทิ้งทุกภาค ขอสื่อช่วยแจงงานรัฐ ลั่นไม่ให้ทุกอย่างถอยหลัง
เมื่อวันที่ 8 พ.ย.59 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงมาตรการช่วยเหลือปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ว่า วันนี้ตนได้เพิ่มเติม ให้ชัดเจนมากขึ้น โดยต้องทำให้ครบทุกจังหวัด เพื่อให้การช่วยเหลือทั่วถึงทั้งข้าวหอมมะลิ ข้าวขาวหอมปทุม ซึ่งเดิมมี 23 จังหวัด ตรงนี้ได้แจ้งในที่ประชุม นบข.แล้ว ทั้งนี้มาตรการช่วยเหลือชาวนาทั้งระบบ รัฐบาลได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง แต่ชาวนามีจำนวนมาก หากกลุ่มไหนที่รวมกลุ่มแล้ว และกลุ่มไหนที่รัฐสามารถเข้าช่วยเหลือได้โดยทันที ก็จะทำให้การแก้ปัญหาเร็วขึ้น ความเดือดร้อนน้อยลง ซึ่งวันนี้ได้สั่งการให้กระทรวงการคลังพิจารณาเรื่องหนี้สินชาวนาว่าจะทำอย่างไร ต้องมีเรื่องกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้อง รวมถึงเสถียรภาพการเงินการคลังด้วย เพราะเราจะใช้เงินในลักษณะการแก้ปัญหาปลายเหตุ หรือบรรเทาหนี้สินที่มีจำนวนมากในคราวเดียวนั้นตนทำไม่ได้ จะทำให้อย่างอื่นวุ่นวายไปด้วย แต่ก็เห็นใจพี่น้องชาวนาทุกคน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้สิ่งที่น่ายินดีคือ ได้เกิดความร่วมมือมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคประชาชน ภาคธุรกิจเอกชน ซึ่งวันนี้กระทรวงอุตสาหกรรมได้รายงานว่ามีการรับซื้อข้าวขาวเพิ่มเติมมากว่า 600 ตัน โดยบริษัทต่างๆ ได้ช่วยกัน ถือเป็นความร่วมมือแก้ปัญหาบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวนา ตรงนี้หากสามารถทำได้อย่างยั่งยืนก็จะดีจะได้สอดคล้อง กับเรื่องของสหกรณ์ ที่จะผลิตและสีข้าวกันเองและต้องรวมกลุ่มกันให้ได้ ซึ่งก็ได้มากพอสมควรในการสีข้าวเอง อีกส่วนก็นำไปสีที่โรงสี และอีกส่วนนำไปส่งออก ซึ่งรวมแล้วมีด้วยกันสามส่วน หากจะขายข้าวกันแบบทุกวันนี้ คงไม่เพียงพอ เพราะได้ไม่ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ เว้นแต่จะทำให้เข้มแข็งขึ้นได้ ขณะเดียวกันสหกรณ์ที่มีกว่า 3 พันแห่ง ต้องเข้มแข็งให้มากกว่านี้ ที่ผ่านมามีปัญหาต้องเข้าไปฟื้นฟู ซึ่งเราได้ตรวจสอบมาตลอด ถ้าเราสามารถสร้างความเข้มแข็งในการสีข้าวเองได้ ก็จะเป็นโรงสีของสหกรณ์การเกษตร บวกกับโรงสีภาคเอกชน นำไปสู่การบริโภคในประเทศ และส่งออกต่างประเทศ กลไกมีเยอะรัฐบาลพยายามทำทุกอย่าง
...
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงมาตรการแก้ไขปัญหาราคาข้าวโพด ว่า ในที่ประชุม ครม.ได้หารือถึงแนวทางแก้ไขปัญหา ซึ่งกำลังหามาตรการที่เหมาะสม โดยสัปดาห์หน้าจะนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.อีกครั้ง เพราะต้องพูดถึงเรื่องโควตาต่างๆ ด้วย ยืนยันว่าไม่ได้ถึงส่วนใดส่วนหนึ่ง ซึ่งราคาข้าวโพดที่ตกต่ำมีผลต่อผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ด้วย ต้องดูให้ครบทุกมาตรการทุกปัจจัย ทั้งภายในและภายนอก ประเด็นสำคัญคือได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่ง จากทุกภาคส่วน ซึ่งในเวลานี้ตนถือว่าเป็นเวลาที่สำคัญ ฝากสื่อช่วยสร้างความเข้าใจที่ตรงกับสิ่งที่รัฐบาลพูดและทำอยู่ ตนไม่อยากให้ทุกอย่างถอยหลังไปอีก
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้เกษตรแปลงใหญ่เกิดล้านกว่าไร่ ซึ่งไม่ใช่ง่ายๆ เพราะที่ผ่านมาเป็นพื้นที่ เครือข่ายโครงสร้างเดิมๆ ทั้งหมด เราก็จูงเขาออกมาตรงนี้ ให้เขาเข้มแข็งเป็นสหกรณ์ รัฐบาลจะได้ไปทุ่มเททรัพยากรให้ ส่วนที่เหลือหากยังไม่รวมกลุ่มต้องรวมให้ได้ รัฐบาลจะได้ไปช่วยเหลือ ถ้ารัฐบาลปูพรมไปง่ายนิดเดียว จ่ายเงินอย่างเดียว ไปซื้อรถไถแจก อย่างที่หลายคนบอก แจกทุกหมู่บ้าน มันแจกได้ไหม ใครจะดูแล ใครจะรักษา และต้องไปสร้างระบบอีก เราก็ทำให้ถ้าเป็นสหกรณ์หรือเป็นกลุ่มที่มีขนาดใหญ่เพียงพอ ทุกคนต้องการทั้งโรงสีต่างๆ รัฐบาลก็คิดทั้งหมด แต่ถ้าไม่มีงบประมาณเพียงพอจะทำได้หรือไม่ ต้องคิดแบบนี้ถึงจะช่วยตนทำความเข้าใจและแก้ไขได้ทุกปัญหา สื่อเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาประเทศ ปฏิรูปประเทศ ถ้าประชาชนไม่เข้าใจนโยบายรัฐบาลโดยเข้าใจแต่เพียงบางส่วน มันบกพร่องตรงนี้ตรงโน้นก็เดินหน้าไม่ได้ ท่านต้องชักจูงคนให้เข้ามาสู่ในระบบการรวมกลุ่ม การปรับเปลี่ยนการปลูกพืช ไม่ได้หมายความว่าจะเลิกไปเลย ตรงไหนที่ปลูกแล้วเสียหายก็อย่าไปปลูก ให้ไปปลูกอย่างอื่นแทน รัฐบาลจะได้ไปดูแลตลาดให้ได้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ทุกอย่างเริ่มจากปลายทาง แล้วมาดูต้นทางว่าจะผลิตแค่ไหน ถ้าผลิตมากเกินไปราคามันก็ตก ก็ต้องเกาะกันอยู่แบบนี้หรอ แล้วเมื่อไรจะดีขึ้น ไม่สงสารพี่น้องชาวนาชาวไร่หรือ วิธีการคือต้องช่วยให้เขาเข้มแข็งด้วยตนเอง รัฐบาลนี้ต้องการแบบนี้ พระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานว่าต้องให้ไปตกปลา ดีกว่าให้ปลา วันนี้เราให้ปลาตลอด แล้วมันก็หมด ไม่แข็งแรง หาปลาไม่เป็น ดังนั้นวันนี้ให้นำมาปรับใช้ โลกเขาก็นำไปใช้แล้ว เราไม่ใช้เอง มันอยู่ที่ความเข้าใจหลายๆ เรื่อง เราก็ต้องเป็นหนี้เรื่องปลูกข้าว ลดพื้นที่ ปรับเปลี่ยนพื้นที่ การตลาด การสร้างความเข้มแข็ง สีเอง การที่เกษตรกรจะมีรายได้ประจำวัน โดยคัดข้าวส่วนหนึ่งมาสีขายเอง มีเครื่องสีเล็กๆ ประจำหมู่บ้าน อันนี้ขายเพื่อกินอยู่เป็นวันๆ ไป พอเพียง อย่างที่ตนดูตัวอย่างต่างประเทศบางประเทศเรือจับปลาขึ้นมาบนฝั่ง ไม่ได้ส่งพ่อค้าคนกลางหมด ส่วนหนึ่งเขานำไปกินที่บ้าน ส่วนสองคัดขึ้นกระบะมีคนรองรับ ปลาดีๆ มาขาย ก็ได้เงินกลับบ้าน ไม่ใช่ส่งคนกลางหมด ดังนั้น ต้องแก้ด้วยความร่วมมือก่อน การจะไปชำระหนี้ให้ทั้งหมดเป็นไปได้หรือไม่ มันมหาศาล หนี้ชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน หนี้เกษตรกรทั้งหมดทุกประเภท หนี้ครู ข้าราชการ มีหนี้กันทั้งนั้น ถามว่ารัฐบาลมีเงินหรือยัง ก็ต้องดูโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ไทยแลนด์ 4.0 การลงทุนต่างๆ และทั้งหมดจะนำมาสู่ต้นทางคือประชาชน รัฐบาลคิดแบบนี้มาหมด