กกท. เตรียมจัดงานวันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี 2559 รวมถึงวันคล้ายวันสถาปนา กกท. ครบรอบปีที่ 52 พร้อมกันในวันที่ 16 ธ.ค.นี้ พร้อมมอบเงินรางวันให้ทัพนักกีฬาเอเชียนบีชเกมส์ ครั้งที่ 5 กว่า 40 ล้านบาท...
วันที่ 4 พ.ย. 59 การกีฬาแห่งประเทศไทย เตรียมการจัดงานวันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี 2559 และงาน วันคล้ายวันสถาปนา กกท. ครบรอบ ปีที่ 52 พร้อมกันในวันที่ 16 ธันวาคมนี้ ที่อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก โดยช่วงเช้าเป็นงานวันคล้ายวันสถาปนา กกท. ครบรอบปีที่ 52 จากนั้นช่วงบ่าย เป็นการจัดงานประกาศเกียรติคุณนักกีฬาดีเด่น เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี 2559 มีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ ที สปอร์ต ประกอบด้วย 2 กิจกรรมหลัก การประกาศและมอบรางวัลด้านกีฬาดีเด่น 37 รางวัล จาก 10 ประเภท และการมอบเงินรางวัลจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติให้นักกีฬาทีมชาติไทย ชุดเอเชียนบีชเกมส์ ครั้งที่ 5 ที่เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม เป็นเงิน 39,850,000 บาท
นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นประธานในการประชุมคณะอนุกรรมการจัดงานวันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี 2559 ครั้งที่ 2/2559 และคณะกรรมการจัดงานวันคล้ายวันสถาปนา กกท. ครบรอบปีที่ 52 ครั้งที่ 4/2559 ที่ห้องประชุมชั้น 5 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา กกท. เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2559
ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการจัดงานวันคล้ายวันสถาปนา กกท. ครบรอบปีที่ 52 และการจัดงานประกาศเกียรติคุณนักกีฬาดีเด่น เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี 2559 ในวันที่ 16 ธันวาคม 2559 ที่อินดอร์สเตเดียม สนามกีฬาหัวหมาก
งานในช่วงเช้าจะเป็นงานวันคล้ายวันสถาปนา กกท. ครบรอบปีที่ 52 เริ่มตั้งแต่เวลา 08.00 น. คณะผู้บริหาร กกท. พนักงาน และผู้ช่วยปฏิบัติงาน กกท. ร่วมกันยืนตรงเคารพธงชาติร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และยืนสงบนิ่งแสดงความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช, เวลา 08.19 น. พิธีสักการะพระพุทธรูปประจำ กกท. พระพรหม และพระภูมิชัยมงคล บริเวณหอพระและสักการะรูปหล่อหลวงสุขุมนัยประดิษฐ์ ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา
...
จากนั้นจะเป็นพิธีสงฆ์ และพิธีมอบเครื่องราช อิสริยาภรณ์แก่พนักงาน กกท., นักกีฬา และผู้บำเพ็ญคุณประโยชน์ต่อการกีฬา พร้อมทั้งมอบเข็มวิริยะอุทิศ เกียรติบัตรแก่พนักงาน กกท. ที่ปฏิบัติงานครบ 30 ปี, 25 ปี และ 15 ปี รวมทั้งรางวัลพนักงานและผู้ช่วยปฏิบัติงานที่มีผลงานดีเด่น ประจำปี 2559
ในภาคบ่ายจะเป็นการจัดงานประกาศเกียรติคุณนักกีฬาดีเด่น เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี 2559 เริ่มตั้งแต่เวลา 14.00 น.เป็นต้นไป และมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ ที สปอร์ต และฟรีทีวี ประกอบด้วย 2 กิจกรรมหลัก ได้แก่ การประกาศและมอบรางวัลด้านกีฬาดีเด่น จำนวน 37 รางวัล จาก 10 ประเภท และการมอบเงินรางวัลจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติให้กับนักกีฬาทีมชาติไทย ชุดเอเชียนบีชเกมส์ ครั้งที่ 5 ที่เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังรับทราบรายงานความคืบหน้าการจัดการแข่งขันกีฬา “วันกีฬาแห่งชาติ” ในระดับเยาวชน (อายุไม่เกิน 15 ปี) จำนวน 9 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย กรีฑา (ระดับอนุบาล) กำหนดแข่งขันในวันที่ 16 ธันวาคม 2559 ที่ สนามยิงธนู กกท., ว่ายน้ำ (รุ่นอายุ 6 ปี, 7-8 ปี, 9-10 ปี, 11-12 ปี) แข่งขันวันที่ 10 ธันวาคม 2559 ที่สระว่ายน้ำ กกท.
เทเบิลเทนนิส (รุ่น 12 ปี ชาย-หญิง) แข่งขันวันที่ 10-11 ธันวาคม 2559 ที่ศูนย์ฝึกกีฬาในร่ม, แบดมินตัน (รุ่น 12-14 ปี ประเภทชายเดี่ยว, หญิงเดี่ยว, ชายคู่, หญิงคู่ และคู่ผสม) ที่ศูนย์ฝึกกีฬาในร่ม (ยังไม่ระบุวันแข่ง), ฟุตบอล 5 คน รุ่น 12 ปี แข่งขันวันที่ 3-4 และ 10-11 ธันวาคม 2559 ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา, วอลเลย์บอล ชาย-หญิง 12 ทีม แข่งขันวันที่ 9-15 ธันวาคม 2559 ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา, บาสเกตบอล รุ่น 14-15 ปี ชาย/หญิง 12 ทีม แข่งขันวันที่ 6-15 ธันวาคม 2559, ตะกร้อ รุ่น 12 ปี ชาย 12 ทีม ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา (ยังไม่ระบุวันแข่ง) และเทควันโด (รุ่น 7-8, 9-10, 11-12 ปี ชาย/หญิง) แข่งขันวันที่ 10-11 ธันวาคม 2559 ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา
เยาวชนที่สนใจสมัครเข้าร่วมแข่งขันสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายธุรกิจและสิทธิประโยชน์ และฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬา กกท.
สำหรับการแข่งขันกีฬาเอเชียนบีชเกมส์ ครั้งที่ 5 ที่เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ทัพนักกีฬาไทยทำได้ 36 เหรียญทอง 24 เหรียญเงิน 30 เหรียญทองแดง ซึ่งตามระเบียบกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ให้เหรียญทอง 200,000 บาท เหรียญเงิน 100,000 บาท และเหรียญทองแดง 50,000 บาท จากผลงานดังกล่าว นักกีฬาได้รับเงินรางวัลจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เป็นเงิน 26,600,000 บาท ผู้ฝึกสอน 5,270,000 บาท (ประเภทบุคคลทั่วไป และประเภททีม ที่มีนักกีฬาไม่เกิน 6 คน ได้รับเงินรางวัลในอัตราร้อยละ 20 ของเงินรางวัลที่นักกีฬาได้รับ, ประเภททีมที่มีนักกีฬาตั้งแต่ 7 คนขึ้นไป ได้รับเงินรางวัลในอัตราร้อยละ 10 ของเงินรางวัลที่นักกีฬาได้รับ) และสมาคมกีฬา 7,980,000 บาท (ได้รับเงินรางวัลในอัตราร้อยละ 30 ของเงินรางวัลทั้งหมดที่นักกีฬาได้รับ ทั้งนี้ ไม่เกินวงเงิน 6,000,000 บาท) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 39,850,000 บาท