ไม่เพียงพสกนิกรคนไทยที่ตกอยู่ในห้วงแห่งความโศกเศร้า แต่ทั่วโลกทั้งผองต่างร่วมแสดงความอาลัยกับการสูญเสียของประเทศไทยในครั้งนี้

ล่าสุด นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก เปิดเผยว่า วันที่ 28 ต.ค. เวลา 10.00 น. ตามเวลาในประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ 21.00 น. ตามเวลาในไทย

ที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (ยูเอ็น) จะประชุมเพื่อสดุดีและถวายพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นำโดยประธานยูเอ็นและ ตามด้วยผู้แทนประเทศต่างๆขึ้นกล่าวสดุดี

ถือเป็นโอกาสพิเศษที่มีขึ้นไม่บ่อยนัก ชนิดบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์โลก

องค์กรนานาชาติระดับสูงสุดแซ่ซ้องสรรเสริญ พระเกียรติคุณขจรไกล

อีกทางหนึ่ง สำนักพระราชวังแจ้งกำหนดการ วันที่ 29 ต.ค.นี้เป็นต้นไป จะเปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง

โดยหน่วยงานต่างๆได้เตรียมความพร้อมดูแลประชาชนที่คาดว่าจะมากันเนืองแน่น

ในจุดหมายเดียวกัน ตามที่หัวใจนำทาง

เช่นเดียวกับจังหวะประเทศไทย แม้จะชะลอการขับเคลื่อนในห้วงเวลาพิเศษ

แต่ถึงจุดนี้ก็เริ่มมีการขยับขับเคลื่อนตามหน้าที่แต่ละฝ่าย

โดยเฉพาะหน้าที่ของรัฐบาล ในโจทย์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ล่าสุด ครม.อนุมัติงบฯ 1.8 หมื่นล้านบาทโครงการยกระดับหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ตามแนวทางประชารัฐปีงบฯ 2560

อัดฉีดกระตุ้นการใช้จ่ายภาคประชาชน นอกจากแผนการลงทุนภาครัฐในโครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่จ่อคิวเดินหน้า

เร่งฟื้นเศรษฐกิจภาพรวม

ในปัจจัยต่างๆทั้งสถานการณ์เศรษฐกิจโลก เงื่อนไขรัฐบาลทหารกับการค้าขาย ลงทุน มีผลต่อภาวะการส่งออก ต้องพยุงด้วยภาคการท่องเที่ยว การลงทุนในประเทศ และการใช้จ่ายภาคประชาชน

...

ถือเป็นช่วงที่ “รัฐบาลอำนาจพิเศษ” ต้องแก้โจทย์ทุกทาง

แต่ล่าสุดมีสัญญาณดี ถึงแม้จะอยู่ในช่วงชะลอการขับเคลื่อน ทั้งกรณีนายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธปท.มองว่า ตลาดเงิน ตลาดทุนมีเสถียรภาพได้เร็ว

สะท้อนพื้นฐานที่เข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจไทย

นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศมีความมั่นใจต่อโครงสร้างเศรษฐกิจและปัจจัยพื้นฐานของไทยที่มีความเข้มแข็ง เชื่อว่าระบบเศรษฐกิจไทยจะยังสามารถทำหน้าที่ต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผู้ว่าฯแบงก์ชาติกระตุ้น “ความมั่นใจ”

ขณะที่นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ออกมาย้ำ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจในขณะนี้ยังอยู่ในภาวะปกติ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

สศช.ยังคงประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2559 ไว้เท่าเดิมที่ 3.3-3.5 เปอร์เซ็นต์

2 หน่วยงานเศรษฐกิจยืนยันตรงกัน “เศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง”

สอดรับตัวเลขการส่งออกที่กระเตื้องขึ้นตามที่ น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร รอง ผอ.สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผย ตัวเลขการส่งออกสินค้าไทยเดือน ก.ย.ที่ผ่านมามีมูลค่า 1.94 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่าสูงสุดในรอบ 23 เดือน และมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่ม

ขยับตัวเลขประมาณการการส่งออกทั้งปีอาจเป็นบวกเล็กน้อย

ไม่ถึงขั้นติดลบรุนแรงอย่างที่ประเมินก่อนหน้านี้

ยังไม่รวมสัญญาณดี ทั้งเรื่องธนาคารโลกปรับอันดับประเทศน่าทำธุรกิจของไทยอยู่ในอันดับที่ 46 จาก 190 ประเทศทั่วโลก ดีขึ้นจากอันดับที่ 49 ในปีก่อน

กระนั้นก็ดี ในโจทย์ที่ต้องแก้ควบคู่ ทั้งปัญหาราคาผลผลิตการเกษตรตกต่ำ ผลกระทบจากภาวะภัยแล้งและอุทกภัย

ผลพวงการจัดระเบียบทัวร์ศูนย์เหรียญ สะเทือนภาคการท่องเที่ยว

รวมทั้งปัญหาปากท้อง การใช้จ่ายภาคประชาชน เร่งการลงทุนภาครัฐ

ภารกิจหลักของ “ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกฯ แม่ทัพเศรษฐกิจรัฐบาลอำนาจพิเศษ น่าจะรับสัญญาณจาก “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช.มาแล้ว

เร่งกระตุกความมั่นใจ ออกมาตรการกระตุ้นการฟื้นตัว

ประคองเศรษฐกิจให้ผ่านพ้นห้วงสถานการณ์เปลี่ยนผ่าน.

ทีมข่าวการเมือง