เปิดตัว 2 เด็กหญิงยุวเกษตรกร ครั้งหนึ่งเข้าเฝ้าฯ ถวายงาน “ในหลวง รัชกาลที่ 9” ทรงปลูกต้นมะม่วงน้ำดอกไม้เมื่อ 35 ปีก่อน ที่กลุ่มเกษตรกรทำไร่อ่าวน้อยในนิคมสร้างตนเอง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปีติมิรู้ลืม นำหลักเศรษฐกิจพอเพียงเลี้ยงชีพ

เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 59 ผู้สื่อข่าว จ.ประจวบคีรีขันธ์ ติดตามค้นหาเด็กหญิง 2 คน ที่ปรากฏในภาพ ขณะ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงปลูกต้นมะม่วงน้ำดอกไม้ ที่กลุ่มเกษตรกรทำไร่อ่าวน้อยในนิคมสร้างตนเอง ปัจจุบัน เป็นสหกรณ์การเกษตรโรงสีข้าวพระราชทานอ่าวน้อย จำกัด เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินมอบเครื่องยนต์และอุปกรณ์สำหรับสีข้าวกำลังการผลิตขนาด 16 เกวียนเครื่องยนต์ ขนาด 3 สูบ 45 แรงม้า และทรงเปิดเดินเครื่องยนต์โรงสีพระราชทานเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2524 ปัจจุบันคือ นางมาเรียม หลวงพิมล อายุ 55 ปี ชาวบ้านหมู่ 14 ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ และ นางอารุณี วันหวัง อายุ 51 ปี ชาวบ้านหมู่ 10 ต.อ่าวน้อย ชาวไทยมุสลิม ประกอบอาชีพเลี้ยงวัวนม และรถบรรทุกสิบล้อขนส่ง

...

นางมาเรียม เปิดเผยว่า ในวันนั้นยังเป็นเด็กนักเรียนยุวเกษตร มีเพื่อนมาด้วยกัน 30 คน เจ้าหน้าที่สอบถามว่าใครมีความพร้อมในการเข้าเฝ้าฯ บ้าง ซึ่งมีแต่คนตื่นเต้นและไม่กล้า ในขณะที่ตนเองแต่งตัวเรียบร้อยจึงอาสา ทั้งตกใจและดีใจ ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้เข้าเฝ้าฯ โดยเจ้าหน้าที่บอกรายละเอียดว่าคอยถวายต้นมะม่วงน้ำดอกไม้ และส่งพลั่วให้พระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงใช้เวลาปลูกเพียง 5 นาที และทุกครั้งที่ผ่านต้นมะม่วงต้นนี้ จะรู้สึกดีใจ ภูมิใจ และนึกถึงวันที่ได้เข้าเฝ้าฯ ถวายงาน อีกทั้ง ชาวบ้านใน ต.อ่าวน้อย ทุกคนช่วยกันดูแลอย่างดี ผ่านมา 35 ปี ทุกครั้งที่นึกถึงพระองค์ก็จะมองที่ภาพถ่ายขณะเข้าเฝ้าฯ ที่อยู่ในบ้าน และไม่มีใครรู้ว่าเด็กหญิงที่อยู่ในภาพเป็นตนเอง เพราะไม่เคยประกาศให้ใครรับรู้ เพียงแต่เก็บความรู้สึกไว้ในใจ

ทั้งนี้ หลังจากทราบข่าวการสวรรคต รู้สึกเหมือนตัวชา เสียใจมาก นอนไม่หลับทั้งคืน และมองพระบรมฉายาลักษณ์ตลอดเวลา พร้อมกันนี้ ได้นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชีวิตตั้งแต่มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ มีความตั้งใจ และมุมานะที่จะดำเนินตามแนวทางและคำสอนของพระองค์ คือ ประกอบอาชีพเลี้ยงวัวนม ตั้งแต่ปี 2530 ซึ่งเป็นอาชีพที่พระองค์ทรงพระราชทานให้แก่ชาวบ้าน ส่งผลให้ชาวบ้านใน ต.อ่าวน้อย หันมาปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้ และเลี้ยงวัวนม เป็นจำนวนมาก

ทางด้าน นางอารุณี เด็กหญิงอีกคนกล่าวว่า วันที่ได้รับเลือกเข้าเฝ้าฯ รู้สึกตกใจและไม่มั่นใจว่าจะทำหน้าที่ได้ แต่มีเจ้าหน้าที่คอยบอกลำดับขั้นตอน เมื่อพระองค์ประทับรู้สึกตื่นเต้นมาก อยากมองพระพักตร์หลายๆ ครั้งแต่ก็ไม่กล้า ได้โอกาสมองเพียงครั้งเดียว ซึ่งในชีวิตไม่เคยเห็นในระยะใกล้ชิดขนาดนี้ รู้สึกมือสั่นและเย็นไปทั้งตัว เพียงแค่ 5 นาที แต่รู้สึกเหมือนว่านานมาก และถือเป็นความโชคดีที่สุด ทุกวันนี้เมื่อผ่านต้นมะม่วงต้นนี้ ก็จะปลื้มใจว่าครั้งหนึ่งได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในการถวายงาน ณ ที่แห่งนี้ ต้นไม้ทรงปลูกเจริญเติบโตแผ่กิ่งก้านสาขา ทุกปีออกดอกและผลจำนวนมาก ทุกวันนี้ ยังคงระลึกถึงวันที่พระองค์เสด็จฯ มาเยี่ยมชาวบ้าน พระราชทานโรงสี และทรงปลูกต้นมะม่วง ความรู้สึกที่มีต่อพระมหากษัตริย์เป็นความรัก และได้น้อมนำคำสอนของพระองค์มาดำเนินชีวิต.