"วิษณุ" แจงมติศาล รธน. ให้ 2 สภา เปิดช่องเลือกนายกฯ รับเป็นไปได้มีนายกฯ คนนอกอยู่ยาว ระบุยึดทรัพย์โกงข้าว ไม่มีจ่าย ไม่ติดคุก โยน กห.ดูปมลูก "บิ๊กติ๊ก"
เมื่อเวันที่ 29 ก.ย. 59 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญ มีมติให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ปรับแก้เนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อให้สอดคล้องกับผลการออกเสียงประชาชามติและคำถามพ่วงว่า สิ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งคือ การหานายกฯ เริ่มจากประชุม 2 สภาฯ เลือกนายกฯ ตามบัญชีที่พรรคการเมืองเสนอ พรรคละ 3 คน โดยต้องได้คะแนน 376 ถ้าได้ก็ได้ ถ้าไม่ได้ 376 เสียงต้องประชุมกันจนกว่าจะได้ ถ้าเบื่อแล้วจะเอาคนนอกบัญชี ต้องให้ที่ประชุมรัฐสภารวมกันเข้าชื่อให้ได้ 376 คน เสนอขอเอาคนนอก แล้วต้องใช้เสียง 2 ใน 3 ของที่ประชุมรัฐสภา คือ 501 คน ในการโหวตผ่านญัติดังกล่าว จากนั้นถึงจะสามารถเลือกคนนอกเป็นนายกฯ ได้ โดยให้ ส.ส.เป็นผู้เสนอชื่อ ส.ว.มีเพียงสิทธิในการร่วมโหวตเท่านั้น โดยใช้เสียง 376 เสียง ในการเลือกนายกฯ อีกประเด็นคือ เรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านแล้วเห็นว่าถ้อยคำยังไม่ชัด จึงให้ กรธ.แก้ไขให้ชัดเจน เป็นการตัดไฟแต่ต้นลม นั่นคือประเด็นวาระเริ่มแรก เมื่อ กรธ.ใช้คำว่า “วาระเริ่มแรกนับตั้งแต่มีการได้สมาชิกรัฐสภา” จะชวนให้เกิดความเข้าใจไปว่าเฉพาะหนแรกหนเดียว แต่เมื่อเจตนารมณ์ของประชามติหมายถึงกี่หนก็ได้ แต่ให้อยู่ใน 5 ปี จึงให้ไปแก้ถ้อยคำให้ชัดเจนเป็นว่าเลือกนายกฯ กี่หนก็ได้ใน 5 ปี เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด
เมื่อถามว่า กลไกดังกล่าวจะทำให้ได้นายกฯ คนนอก และอยู่ยาวถึง 8 ปี หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็เป็นไปได้ หากอึดและทน รวมถึงเจตนาเป็นอย่างนั้น เพราะนี่คือประชามติไม่รู้จะพูดอย่างไร อีกทั้งดูน้ำใจ ส.ส. และดูเหตุการณ์ว่าบุคคลนั้นมีความป็อปปูลาร์ ถึงขนาดว่าเลือกกี่ครั้งก็ได้กลับเข้ามาอีก ถ้าถึงขนาดนั้นประเทศไทยก็คงต้องยอม เมื่อถามว่า หมายความว่า ส.ว.จะเป็นตัวแปรที่ทำให้ได้นายกฯ คนนอกง่ายขึ้น นายวิษณุ กล่าวว่า ประชามติต้องการให้เป็นตัวแปรตามที่มีคำถามพ่วง
...
นายวิษณุ กล่าวถึงกรณีการใช้คำสั่งปกครองดำเนินการยึดทรัพย์ ในคดีโครงการรับจำนำข้าว หากว่าผู้ที่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย ไม่สามารถนำเงินมาจ่ายได้ว่า ไม่มีก็คือไม่มี แต่มีระยะเวลา 10 ปี นับตั้งแต่รู้ว่าจะต้องไปดำเนินการยึด และหากบุคคลดังกล่าวกลายเป็นบุคคลล้มละลาย ก็แปลว่าไม่มีอะไรจะให้ยึดเพราะคำว่าล้มละลายหมายความว่าไม่มีทรัพย์สินอะไรเหลืออยู่อีก และเรื่องนี้ไม่สามารถติดคุกแทนการชดใช้ได้ เพราะเรื่องนี้เป็นคดีแพ่ง ให้ติดคุกทางอาญาแทนกันไม่ได้
นอกจากนี้ นายวิษณุ ยังกล่าวถึงกรณีบุตร พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม ใช้บ้านพักในค่ายทหารประกอบธุรกิจ เป็นการกระทำผิดกฎระเบียบกระทรวงกลาโหมหรือไม่ ว่า ตามระเบียบสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการพักอาศัย ในอาคารที่พักอาศัยของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2555 ระบุว่าไม่ให้นำเอาบ้านพักไปใช้ในทางธุรกิจ คำนี้แปลว่าอะไรตนเองไม่ทราบ ต้องไปถามกระทรวงกลาโหมว่าผิดหรือไม่ แล้วจะมีบทลงโทษอย่างไร เรื่องนี้ไม่ได้ผิดกฎหมาย แต่เป็นเรื่องภายในกระทรวง เป็นการตรวจสอบทางวินัย แต่บุตร พล.อ.ปรีชา ไม่ได้เป็นข้าราชการ ไม่สามารถลงโทษทางวินัยได้ ส่วนจะสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้หรือไม่ เพราะ พล.อ.ปรีชา จะเกษียณอายุราชการแล้ว ตนไม่แน่ใจว่าสามารถตรวจสอบได้หรือไม่ ตนถึงบอกว่า อย่างนี้เป็นความผิดหรือไม่ ไม่ทราบ เพราะไม่รู้เจตนารมณ์ของเขาว่าเอาบ้านไปทำธุรกิจแปลว่าอะไร ส่วนถ้าทำผิดแล้วจะสามารถลงโทษอะไรได้ก็ไม่ทราบเหมือนกัน