กลางเจ้าพระยา-บาดเจ็บ51 ไปร่วมงานรําลึกครูผู้ล่วงลับ ส่วนใหญ่ไม่ได้สวมเสื้อชูชีพ
สุดสลด เรือบรรทุกชาวมุสลิมไปงานบุญล่มแม่น้ำเจ้าพระยาเมืองกรุงเก่า จมน้ำดับ 13 ราย บาดเจ็บระนาว 51 คน เป็นเรือนำเที่ยว 2 ชั้นออกเดินทางจาก จ.นนทบุรี ไปร่วมงาน “โฮ้ล” ประเพณีรำลึกถึงครูผู้ล่วงลับของศาสนาอิสลาม ขากลับเจอเรือบรรทุกทรายแล่นสวนทางมา เลยหักหลบไปพุ่งชนเสาเข็มพนังกั้นน้ำหน้าวัดสนามไชยอย่างจังจนเรือค่อยๆจมลง ผู้โดยสารนับร้อยคนแตกตื่นตกใจ บางคนต้องกระโดดหนีตายออกมาจากเรือ บางส่วนหนีออกมาไม่ทันติดอยู่ชั้นล่างในลำเรือจมน้ำดับทุรน
เหตุเรือบรรทุกชาวมุสลิมไปร่วมพิธีบุญล่มแม่น้ำเจ้าพระยาเสียชีวิตจำนวนมาก เปิดเผยเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 18 ก.ย. พ.ต.ต.ธนัท แสงอรุณ สารวัตร (สอบสวน) สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเหตุเรือบรรทุกนักท่องเที่ยวล่มในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าน้ำหน้าวัดสนามไชย หมู่ 10 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วพร้อมด้วยนายเรวัต ประสงค์ รอง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สุรพงษ์ ธรรมพิทักษ์ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา นำกำลังตำรวจ ประสานหน่วยกู้ภัย เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ ไปให้ความช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุพบเรือนำเที่ยวขนาดใหญ่ 2 ชั้น ความยาว 30 เมตร กว้าง 8 เมตร อยู่ในลักษณะเอียง หัวเรือพุ่งชนเสาเข็มพนังกั้นน้ำ สภาพเรือจมอยู่ในน้ำครึ่งลำ ห้องโดยสารชั้นล่างจมอยู่ในน้ำทั้งหมด เหลือเพียงห้องโดยสารชั้นบนที่อยู่เหนือน้ำ มีผู้โดยสารนับร้อยคนอยู่ในอาการตื่นตระหนกหวีดร้องด้วยความตกใจกลัว หลายคนร่วงตกลงไปในน้ำพยายามตะเกียกตะกายว่ายกลับเข้าฝั่ง เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องโยนห่วงชูชีพไปช่วยเหลือ บางคนจมน้ำหายไป ต้องใช้เจ็ตสกีและเรือลำเล็กลงไปช่วยกันค้นหากันจ้าละหวั่น มีผู้บาดเจ็บจมน้ำหมดสติหลายคนรีบช่วยเหลือขึ้นฝั่งให้หน่วยกู้ชีพปฐมพยาบาลก่อนลำเลียงส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา จากนั้นหน่วยกู้ภัยลงงมค้นหาในห้องโดยสารชั้นล่างของลำเรือ พบผู้โดยสารจมน้ำติดอยู่ภายในจำนวนมาก
...
สอบถามนายอรรณพ กุฎีพันธ์ อายุ 50 ปี บ้านอยู่ย่านดอนเมือง กรุงเทพมหานคร เผยว่า วันนี้เป็นงานโฮ้ล หรืองานประเพณี พิธีรำลึกถึงครูผู้ล่วงลับของศาสนาอิสลาม จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่มัสยิดตะเกี่ยโยคิน ต.คลองตะเคียน อ.พระนคร– ศรีอยุธยา ออกเดินทางจาก จ.นนทบุรี ล่องตามแม่น้ำเจ้าพระยาไปแวะรับคนที่ท่าน้ำมัสยิดภูเขาทอง ต.ภูเขาทอง อ.พระนครศรีอยุธยา ไปส่งที่มัสยิดตะเกี่ยโยคิน มีผู้โดยสารบนเรือประมาณ 150 คน หลังเสร็จพิธีอยู่ระหว่างเดินทางกลับถึงจุดเกิดเหตุเรือแล่นชนเสาเข็มดังโครม ทุกคนตกใจส่งเสียงหวีดร้องแล้วหัวเรือค่อยๆจมลง ทุกคนต่างหนีตายกระโดดน้ำหนีเอาชีวิตรอด ตนยืนอยู่ชั้นบนของเรือหนีออกมาก่อนจึงรอดชีวิต
ด้านนายวิรัช ชัยศิริกุล อายุ 68 ปี คนขับเรือ อยู่บ้านเลขที่ 1/1 หมู่ 7 ต.บางไทร อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ให้การว่า เป็นพนักงานขับเรือของบริษัทสมบัติมงคลชัย (ทับทิม) จำกัด นำคณะชาวมุสลิมกว่า 150 คนอยู่บนเรือและมีเรือลำอื่นอีกกว่า 10 ลำล่องตามกันมา หลังเสร็จพิธีที่มัสยิดตะเกี่ยโยคิน แวะส่งผู้โดยสารส่วนหนึ่งลงที่ท่าน้ำมัสยิดภูเขาทอง จากนั้นจะมุ่งหน้าไปส่งผู้โดยสารอีกจุดที่ท่าน้ำโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ก่อนจะเดินทางกลับ จ.นนทบุรี
คนขับเรือลำเกิดเหตุให้การต่อไปว่า หลังเรือออกจากท่าน้ำภูเขาทอง มุ่งหน้าไปท่าน้ำ รพ.พระนครศรีอยุธยา ขณะนั้นมีผู้โดยสารบนเรือร่วม 100 คน กระจายกันอยู่ทั้งชั้นบนและชั้นล่างของลำเรือ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุบริเวณหน้าวัดสนามไชย มีเรือบรรทุกทรายแล่นสวนมา จึงหักหลบไปทางฝั่งขวาบริเวณหน้าวัด หัวเรือพุ่งเข้าชนเสาเข็มพนังกั้นน้ำอย่างจัง จนเรือเสียหลักเอียงและค่อยๆ จมลง สร้างความแตกตื่นตกใจให้ผู้โดยสารบนเรือส่วนใหญ่ไม่ได้สวมใส่เสื้อชูชีพ มีบางคนพลัดตกเรือ ผู้โดยสารที่อยู่ชั้นล่างต้องรีบกระโดดหนีออกจากเรือที่ค่อยๆ จมลง มีหลายคนที่หนีออกมาไม่ทันติดอยู่ใต้น้ำในลำเรือจำนวนมาก
สำหรับเหตุการณ์เรือล่มครั้งนี้พบผู้เสียชีวิตแล้ว 13 คน เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 7 คน ประกอบด้วย เด็กชายไม่ทราบชื่ออายุ 2-3 ขวบ ผู้หญิงไม่ทราบชื่ออายุ 25-30 ปี นายประเสริฐ ขันธรักษ์ อายุ 45 ปี น.ส.นูลีบ บุญรักษ์ อายุ 16 ปี นายนิ่ม รัมมะเอ็จ อายุ 25 ปี นางวันนี เมาะเซ็ง อายุ 40 ปี และนางระติฉัตร เปลี่ยนพืช อายุ 20 ปี และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา 6 คนคือ นางเตือนใจ ขันธมะ นางวาสนา แจ่มคง นางละมัย ตราต่างแสง นายเสน่ห์ แจ่มคง น.ส.ชญาภา มหาครุฑ และหญิงไทยไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 30 ปี ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีทั้งหมด 51 คน
ด้านนายศรศักดิ์ แสนสมบัติ อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวถึงเหตุเรือโดยสารนักท่องเที่ยวล่มแม่น้ำเจ้าพระยาที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากกระแสน้ำที่เชี่ยวแรงและคนขับเรือบังคับเรือไม่ได้จึงกระแทกเข้ากับตลิ่งเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ล่าสุด นำคนเจ็บส่งไปยังโรงพยาบาลและนำเรือเครนเข้าดึงเรือลำที่เกิดเหตุขึ้น เชื่อว่ายังมีผู้โดยสารติดอยู่อีกจำนวนหนึ่ง อย่างไร ก็ตาม สันนิษฐานเบื้องต้นว่าอุปกรณ์ช่วยชีวิตบนเรือลำอาจจะไม่เพียงพอกับจำนวนของผู้โดยสาร
ต่อมาเวลา 21.00 น. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม นพ.พิทยา ไพบูลย์ศิริ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดินทางไปเยี่ยมคนเจ็บที่รักษาตัวอยู่ รพ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมมอบกระเช้าเครื่องดื่มบำรุงกำลังและพูดคุยปลอบขวัญ นายอาคมเผยว่า ผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์เรือล่มทั้งหมด 51 คน เป็นชาย 16 คน และหญิง 35 คน ในจำนวนนี้มีอาการสาหัส 2 คน เป็นเด็กชายอายุ 6-7 ขวบ และเด็กชายวัย 4 เดือน มีอาการสำลักน้ำ
รมว.คมนาคม เผยต่อไปว่า หลังได้รับรายงานว่ามีอุบัติเหตุเรือล่มก็รีบเดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุ ประสานให้ทีมกู้ภัยและอาสาสมัครที่ช่วยกันค้นหาผู้จมน้ำสูญหายและติดอยู่ในเรือให้ช่วยค้นหาจนกว่าจะพบผู้สูญหายทั้งหมด ขณะเดียวกัน สั่งการกรมเจ้าท่าวางมาตรการป้องกันเหตุเรือล่ม เบื้องต้นตั้งสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ไว้ 4 ประเด็นคือ เกิดจากกระแสน้ำไหลเชี่ยวแรงทำให้บังคับเรือไม่อยู่ ผู้ประกอบการบรรทุกผู้โดยสารเกินกำหนด คนขับเรือประมาท และคนขับเรือหรือผู้ประกอบการไม่จัดเตรียมเสื้อชูชีพให้ผู้โดยสารบนเรือ ทำให้เกิดเหตุสลดใจมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ต่อไปกรมเจ้าท่าต้องเข้มงวดตรวจสอบเรือโดยสารลำอื่นๆว่าปฏิบัติตามกฎข้อบังคับหรือไม่ ขณะเดียวกันได้แจ้งเจ้าของเรือเร่งเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เนื่องจากทราบว่าเรือมีประกันภัย
...
ขณะที่ นพ.พิทยา ไพบูลย์ศิริ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เผยว่า กำชับทีมแพทย์ช่วยเหลือรักษาผู้บาดเจ็บที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอย่างเต็มที่ ในจำนวน 51 คน มีอาการน่าห่วงคือเด็กชายวัย 4 เดือน สั่งระดมทีมแพทย์เร่งเยียวยารักษาอย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมจากจุดเกิดเหตุเมื่อเวลา 22.30 น. ทีมกู้ภัยยังคงปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุเรือล่มอย่างต่อเนื่อง หลังจากมีผู้โดยสารบนเรือแจ้งว่า ญาติของตัวเองสูญหายไป 10 คน แต่ยังไม่พบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม การปฏิบัติงานของทีมกู้ภัยเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยว และมีฝนตกโปรยปรายลงมาเป็นช่วงๆ คาดว่าผู้ที่สูญหายอาจพลัดตกจากเรือแล้วถูกกระแสน้ำพัดร่างไป หรือยังมีบางคนที่ยังติดอยู่ในห้องโดยสารเรือที่จมอยู่ใต้น้ำ