(ภาพบางส่วนจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง)
อัยการจังหวัดตราด สั่งไม่ฟ้องเจ้าของท่าเรือเฟอร์รี่เกาะช้าง ด้านอุทยานฯ ปิดประกาศต้องทำการรื้อถอนใน 25 ก.ย. - 25 ต.ค. 59 หากพ้น 30 วัน จนท.จะเข้าดำเนินการเอง และผู้ประกอบการต้องชดใช้ค่าใช้จ่าย
วันที่ 7 ก.ย. 59 ความคืบหน้าภายหลังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง มีการตรวจยึดจับกุมท่าเทียบเรือเฟอร์รี่เกาะช้าง ไปเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 58 พร้อมกับเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.บรรเจิด กระจ่างแสง สว.สส.สภ.เกาะช้าง จ.ตราด ตาม ปจว.ข้อ 1 คดีอาญาที่ 138/2558 ต่อมาตำรวจ สภ.เกาะช้าง ส่งสำนวนฟ้องไปยังสำนักงานอัยการจังหวัดตราด ล่าสุด สำนักงานอัยการจังหวัดตราด มีเอกสารแจ้งไปที่ สภ.เกาะช้าง ที่ อส 0042 (ตร) /1897 ลงวันที่ 3 ส.ค. 59 เรื่อง แจ้งคำสั่งไม่ฟ้อง เรียน ผกก.สภ.เกาะช้าง อ้างถึงสำนวนการสอบสวนคดีอาญาที่ 138/2559 ระหว่าง อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง โดย นายอัตนัย สุวรรณ์ ผู้เสียหาย กับบริษัท เกาะช้างอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โดย นายพิศูจน์ รัตนวงศ์ ผู้ต้องหาที่ 1 กับพวกรวม 2 คน ข้อหาเข้าไปดำเนินกิจการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์ในเขตอุทยานฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งทางตำรวจทำสำนวนสั่งฟ้องมายังสำนักงานอัยการจังหวัดตราด
...
ทั้งนี้ อัยการจังหวัดตราด แจ้งเป็นเอกสารกลับมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า สืบสวนข้อเท็จจริงแล้วมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง พร้อมกับให้ตำรวจ สภ.เกาะช้าง แจ้งต่อผู้ร้องทุกข์และผู้ต้องหาทราบตามมาตรา 146 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งหลังจากที่ทางอัยการจังหวัดตราด มีคำสั่งไม่ฟ้องออกมาแล้ว เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 59 ทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้สนธิกำลังนำหนังสือประกาศให้รื้อถอนไปปิดที่ท่าเรือเฟอร์รี่ดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันท่าเรือเฟอร์รี่ดังกล่าวก็ยังวิ่งให้บริการระหว่างฝั่งและเกาะช้าง
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 59 นายชุมพร ขาวผ่อง เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ตำรวจ ทหาร ตชด.ที่ 116 กว่า 20 นาย นำป้ายประกาศของ นายวีระ ขุนไชยรักษ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ไปติดภายในบริเวณท่าเรือเฟอร์รี่ของบริษัท เกาะช้างอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด พื้นที่อ่าวสับปะรด หมู่ 3 ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง ติดประกาศในช่วงที่ต้องทำการรื้อถอน เป็นคำสั่งที่ 154/2559 ลงวันที่ 11 ส.ค. 59 เป็นข้อความคำสั่ง เรื่องแต่งตั้งพนักงาน-เจ้าหน้าที่ในการดำเนินการทำลายเข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างช่วงปลายสะพานสำหรับยานพาหนะขึ้น-ลงเรือของท่าเรือเฟอร์รี่เกาะช้าง ให้พ้นไปจากอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง เริ่มนับตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 59 เป็นต้นไป
สำหรับส่วนที่ติดประกาศต้องทำการรื้อถอน คือช่วงปลายของตัวสะพานที่ก่อสร้างยื่นไปในทะเลสำหรับให้ยานพาหนะขึ้น-ลงเรือ ประกอบด้วยสะพาน คอนกรีตเสริมเหล็ก (คสล.) กว้างประมาณ 7 เมตร ยาวประมาณ 20 เมตร และโครงเหล็กที่ติดตั้งไฮดรอลิกช่วงปลายสะพาน-สะพาน คสล. กว้างประมาณ 2 เมตร ยาวประมาณ 12 เมตร ให้พ้นไปจากพื้นที่อุทยานฯ ภายใน 30 วัน เริ่มนับตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. - 25 ต.ค.59 หากพ้นกำหนด ทางพนักงาน เจ้าหน้าที่ จะเข้าทำการรื้อถอนเอง แต่ผู้ประกอบการจะต้องชดใช้ค่าใช้จ่ายในรื้อถอนให้แก่ทางกรมอุทยานฯ จำนวน 470,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยตามความเป็นจริง
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวพยายามจะติดต่อสอบถามข้อมูลการดำเนินการขั้นตอนต่อจากนี้จากผู้บริหารท่าเรือเฟอร์รี่ และจากเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็ได้รับคำตอบเพียงสั้นๆ ว่า ขอให้เป็นไปตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมาย.