ญาติติดใจ ตับแตกเลือดออก ทำให้ตาย

ที่ดินจ.พังงา ดีเอสไอแจง เหตุปมหัวใจ

พล.ต.ต.พรชัย สุธีรคุณ ผบก.สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตร. ระบุสาเหตุ การตายของ “ธวัชชัย อนุกูล” ผู้ต้องหาคดีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ออกโฉนดที่ดินในอุทยานแห่งชาติสิรินาถ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ผูกคอตายระหว่างถูกดีเอสไอควบคุมตัวว่า “เลือดออกในช่องท้อง ตับแตก ถูกของแข็งไม่มีคมกระแทก ร่วมกับขาดอากาศหายใจจากการผูกคอ” ญาติคนตายลั่นยอมไม่ได้ เชื่อเป็นการตายผิดธรรมชาติ ถูกจับในคดีนี้เลยมีค่าตัวสูง ขณะที่ดีเอสไอแถลงโต้ไม่จำเป็นต้องทำร้ายผู้ต้องหา อาการตับแตกเกิดจากการปฐมพยาบาลปั๊มหัวใจช่วยชีวิต เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดหน้าห้องขัง เลขาฯ ป.ป.ช.ยันเดินหน้าสอบต่อเพื่อหาคนของรัฐที่เข้าร่วมกระทำผิด

จากกรณีนายธวัชชัย อนุกูล อายุ 66 ปี อดีตเจ้าหน้าที่พนักงานที่ดินพังงา สาขาท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ผู้ต้องหาในคดีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบออกโฉนดที่ดินบริเวณหาดลายัน อุทยานแห่งชาติสิรินาถ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต รวมทั้งที่ดินอีกหลายแห่งใน จ.ภูเก็ต จ.พังงา และ จ.สุราษฎร์ธานี ใช้ถุงเท้า ผูกคอขณะถูกควบคุมตัวในห้องขัง ชั้น 6 อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก่อนเจ้าหน้าที่ควบคุมผู้ต้องหาจะนำตัวส่งไปรักษาต่อที่ รพ.มงกุฎวัฒนะและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ท่ามกลางความเคลือบแคลงใจของญาติผู้เสียชีวิตรวมทั้งผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย

ความคืบหน้า ที่ห้องแถลงข่าวชั้น 1 สำนักงานกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 31 ส.ค. พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.ศูนย์บริหารคดีพิเศษ ในฐานะโฆษกและรองโฆษก ดีเอสไอ แถลงข่าวกรณีการตายของนายธวัชชัย อนุกูล ระหว่างถูกควบคุมตัวในห้องขังชั้น 6 อาคารดีเอสไอ เมื่อกลางดึกวันที่ 30 ส.ค. โดย พ.ต.อ.ทรงศักดิ์กล่าวว่า ขณะนี้ดีเอสไอยังไม่ได้รับผลชันสูตรพลิกศพนายธวัชชัยจากสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตร. เนื่องจากตามขั้นตอนพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ท้องที่เกิดเหตุจะนำผลชันสูตรศพ พร้อมสำนวนคดีมาแจ้งกับดีเอสไอตามขั้นตอน ส่วนที่สื่อมวลชนสอบถามถึงผลชันสูตร ที่ระบุสาเหตุการตายเกิดจากตับแตกและเลือดออกในช่องท้อง ร่วมกับการขาดอากาศหายใจจากการถูกผูกคอ เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุดังกล่าวอาจเกิดระหว่างการปฐมพยาบาล ที่มีพยาบาล 3คนพร้อมเตียงคนไข้จาก รพ.มงกุฎวัฒนะ มาปั๊มหัวใจภายในห้องขัง ชั้น 6 ประมาณ 15 นาที จากนั้นจึงรีบนำตัวไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาล โดยปั๊มหัวใจนาน 45 นาทีหลังจากนั้นจึงใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจไฟฟ้าต่ออีก 1 ชั่วโมง กระทั่งนายธวัชชัยเสียชีวิต

“ขอชี้แจงว่าตั้งแต่ดีเอสไอจับกุมนายธวัชชัยมา มีญาติมาคอยนั่งฟังขณะเจ้าหน้าที่สอบปากคำตลอด ผู้ตายยังได้เซ็นเอกสารต่างๆรวมทั้งพอใจในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ หลังจากพบผู้ต้องหาผูกคอตายในห้องขังเจ้าหน้าที่รีบแจ้งให้ญาติตามไปดูอาการที่ รพ.มงกุฎแจ้งวัฒนะด้วย ยืนยันว่าผู้ตายใช้ถุงเท้าของตัวเอง 2 ข้าง มาผูกต่อกันและใช้แขวนกับบานพับประตู หลังรับตัวนายธวัชชัยมาเจ้าหน้าที่ควบคุมผู้ต้องหานำเสื้อและกางเกงขายาวสีขาวที่ใช้สำหรับผู้ต้องขังมาให้เปลี่ยนแทนชุดเก่า ระหว่างนั้นในห้องขังมีอากาศหนาว ผู้ตายร้องขอถุงเท้ามาใส่เพราะนอนไม่หลับ เจ้าหน้าที่จึงนำถุงเท้าของผู้ตายมามอบให้ ส่วนประเด็นการฆ่าตัดตอน ขณะนี้อธิบดีดีเอสไอสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว นอกจากนี้ ทางพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เจ้าของคดีสามารถสอบสวนได้หากพบหลักฐานข้อพิรุธการตายครั้งนี้และดีเอสไอยินดีให้ความร่วมมือทุกกรณี ส่วนเจ้าหน้าที่ควบคุมผู้ต้องหา 3 นายที่ปฏิบัติหน้าที่ขณะเกิดเหตุจะถูกลงโทษหรือไม่ อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง” พ.ต.อ.ทรงศักดิ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าวเจ้าหน้าที่นำภาพถุงเท้าสีเทาของนายธวัชชัยที่ใช้ผูกคอเสียชีวิตมาเผยแพร่ให้สื่อมวลชนตรวจสอบด้วย

ขณะที่ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งได้ประสานข้อมูลแพทย์ รพ.มงกุฎวัฒนะ เกี่ยวกับวิธีการปั๊มหัวใจ ที่อาจเกิดข้อผิดพลาดไปกดทับส่งผลให้เลือดออกในช่องท้องและตับแตก ตามข้อเท็จจริงบางกรณีการปั๊มหัวใจผิดวิธีอาจทำให้ซี่โครงหักได้เช่นกัน ต้องเข้าใจเจตนาความหวังดีของผู้ปฐมพยาบาลด้วย นอกจากนี้แพทย์ระบุด้วยว่าไม่พบรอยช้ำ บาดแผลในศพแต่อย่างใด

พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล ผบ.สำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอ กล่าวว่า ไม่มีเหตุผลต้องทำร้ายร่างกายนายธวัชชัยหลังตกอยู่ในการควบคุมตัว รวมทั้งไม่พบเหตุการณ์ผิดปกติแต่อย่างใด อยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าห้องขังเพื่อดูว่ามีผู้ใดเดินผ่านเข้า-ออกในช่วงเกิดเหตุ แต่ในส่วนของคดีต้องดำเนินการตามขั้นตอน หลังจากนี้จะเป็นหน้าที่ของตำรวจพิสูจน์หาข้อเท็จจริง

“สำหรับคดีที่นายธวัชชัย อนุกูล มีส่วนเกี่ยวข้องกับอุทยานฯสิรินาถ จ.ภูเก็ต คือการออกโฉนดที่ดินเลขที่ 20777 โดยไม่ชอบ เนื้อที่กว่า 7 ไร่ บริเวณหมู่ 4 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ตั้งอยู่ใกล้กับหน่วยพิทักษ์ป่าลายัน ภายในเขตอุทยานฯ สิรินาถ ที่ดินดังกล่าวในอดีตเป็นทะเลมาก่อน ส่วนสภาพปัจจุบันเป็นที่ราบริมทะเลตามแนวชายหาดอ่าวเลพังและหาดลายัน มูลค่าประมาณ 490 ล้านบาท มีเจ้าหน้าที่รัฐและเอกชนเกี่ยวข้องรวม 6 คน ที่ผ่านมาดีเอสไอ เรียกผู้ต้องหานายอานุภาพ เวชวนิชสนอง นายไพศาล เวชวนิชสนอง นายศรีเทพ เพชรกอ มารับทราบข้อกล่าวหาและดีเอสไอรับเป็น 1 ใน 10 คดีพิเศษ ที่มีการบุกรุกอุทยานฯสิรินาถแล้ว” พ.ต.ท.ประวุธกล่าว

ก่อนหน้านี้ ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตร.เวลา 13.00 น. นายชัยณรงค์ อนุกูล อายุ 63 ปี อดีตพนักงานธนาคารผู้เป็นน้องชาย เดินทางมารับศพนายธวัชชัย ผู้เสียชีวิต หลัง พล.ต.ต.พรชัย สุธีรคุณ ผบก.สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตร.เป็นแพทย์ผู้ตรวจศพด้วยตนเอง โดยผลชันสูตรที่ระบุในใบแจ้งตาย เลขที่ 04018/02559 เกิดจากเลือดออกในช่องท้อง ตับแตก ถูกของแข็งไม่มีคมกระแทก ร่วมกับขาดอากาศหายใจจากการผูกคอ

นายชัยณรงค์กล่าวว่า ตนและพี่ชายไม่ค่อยเจอกันจะมีโทรศัพท์คุยเป็นบางครั้ง กระทั่งวันที่ 29 ส.ค.หลังผู้ตายถูกจับกุม เจ้าหน้าที่ดีเอสไอเรียกตนเองไปสอบปากคำในฐานะพยาน มีเจ้าหน้าที่ 2 คน และอัยการ 1 คน ร่วมสอบปากคำ พบนายธวัชชัยยังพูดคุยยิ้มแย้มปกติ ไม่มีอาการวิตกกังวล ระบุจะให้การในชั้นศาลเท่านั้น ปกติพี่ชายเป็นคนร่าเริง ไม่มีอาการป่วยซึมเศร้า ไม่มีคู่สมรสและบุตร กระทั่งเวลาประมาณ 03.10 น. วันที่ 30 ส.ค. มีเจ้าหน้าที่โทรศัพท์มาแจ้งว่านายธวัชชัยผูกคอในห้องควบคุมของดีเอสไอ เมื่อตนเดินทางมาถึง รพ.มงกุฎวัฒนะ เวลาประมาณ 03.50 น. พี่ชายยังไม่เสียชีวิตและแพทย์ใช้เครื่องช่วยหายใจพยายามปั๊มหัวใจช่วยชีวิตแต่ไม่สำเร็จ โดยเจ้าหน้าที่ดีเอสไอบอกว่าผู้ตายใช้เชือกจากชายเสื้อผูกคอ แต่พิจารณาจากบาดแผลที่ลำคอพบรอยแดงขนาดเล็กมากเกือบมองไม่เห็น อาจเป็นรอยที่เกิดจากเชือกหรือลวดก็เป็นได้

“หลังเกิดเหตุดีเอสไอออกมาแถลงข่าวพี่ชายผมใช้ถุงเท้าผูกคอตัวเอง ไม่ตรงกับตอนแรกที่แจ้งว่าใช้เชือกผูกคอ และถุงเท้าที่พี่ชายผมใส่เป็นแบบสั้นถึงแค่ตาตุ่ม ไม่น่ามีความยาวถึงขนาดใช้ผูกคอได้และบาดแผลไม่น่าจะบางเล็กจนเหมือนเชือกหรือลวด ทำให้เกิดข้อสงสัย ส่วนผลชันสูตรที่ระบุว่าเลือดออกในช่องท้องและตับแตก ขอยืนยันว่านายธวัชชัยเป็นคนสุขภาพดีออกกำลังกายเป็นประจำ วันที่ผมไปให้ปากคำในฐานะพยานยังพบผู้ตายอยู่ในอาการปกติ ไม่พูดถึงอาการป่วยหรือบาดเจ็บใดๆ การเสียชีวิตครั้งนี้น่าจะเป็นการตายผิดธรรมชาติ การถูกจับในคดีนี้ทำให้พี่ชายมีค่าตัวสูง เพราะมีผู้เกี่ยวข้องหลายราย ทำให้น่าสงสัย จึงอยากร้องขอความเป็นธรรมเพราะพี่ชายตายแบบนี้ยอมไม่ได้ เตรียมปรึกษากับญาติๆหลังงานศพว่าจะไปร้องขอความเป็นธรรมกับหน่วยงานใด นำศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบางหลวง อ.เมืองปทุมธานี สวด 1 คืน และเผาศพวันที่ 1 ก.ย. ทันที” นายชัยณรงค์กล่าว

วันเดียวกันนายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีนี้ว่า นายธวัชชัยเป็นผู้ถูกกล่าวหาที่มีคดีอยู่ระหว่างการไต่สวนของ ป.ป.ช. กรณีออกเอกสารสิทธิที่ดิน จ.ภูเก็ต และพังงา โดยมิชอบ หลังทราบข่าวการเสียชีวิต สั่งการให้เจ้าหน้าที่รวบรวมคดีทั้งหมดที่นายธวัชชัยถูกร้องเรียน เพื่อพิจารณาว่ามีคดีที่ ป.ป.ช.ส่งฟ้องหรืออยู่ระหว่างการพิจารณาไต่สวนกี่เรื่อง ขณะนี้มีคดีที่ ป.ป.ช.เตรียมประสานงานดีเอสไอส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณาสั่งฟ้องหลายคดี แต่คงไม่กระทบต่อการไต่สวนคดีของ ป.ป.ช. เพราะแม้นายธวัชชัยจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ ป.ป.ช.ต้องไต่สวนต่อเพราะอาจมีเจ้าหน้าที่ของรัฐรายอื่นร่วมกระทำผิด การเสียชีวิตของนายธวัชชัยคงไม่ทำให้การไต่สวนคดีของ ป.ป.ช.สะดุด ยังสามารถไต่สวนหาข้อเท็จจริงต่อไปได้