พยานโผล่เอาผิดขโมยแมวคนอื่น เจ้าตัวยังปฏิเสธ

ตำรวจ สน.สุทธิสาร รวบหนุ่มจีนอ้างเป็นสถาปนิกอิสระ หลังมีพฤติกรรมต้องสงสัย เข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์ใช้เชือกไนลอนผูกคอแมวจนอยู่ในสภาพนอนหมดสติ ในช่วงเวลากลางค่ำคืน สอบสวนยังให้การปฏิเสธ อ้างเป็นคนรักแมว ต้องการนำแมวจรจัดที่ได้รับบาดเจ็บมารักษา เบื้องต้นทำได้เพียงแจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน รอสอบสวนขยายผลหาความชัดเจน

รวบหนุ่มจีน เข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์ เปิดเผยเมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 27 ส.ค. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.สุทธิสาร ร่วมกันจับกุมตัวนายหนิง หลิว อายุ 34 ปี ชาวจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1646/2559 ลงวันที่ 27 ส.ค.2559 ข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน พร้อมของกลางกระเป๋าหนังสีดำ เชือกไนลอนสีน้ำเงินทำเป็นบ่วง 1 เส้น สายสลิงทำเป็นบ่วง 1 เส้น และอาหารแมว 1 ถุง จับกุมได้ที่บริเวณกลางซอยอินทามระ 47 แขวงและเขตดินแดง กทม.จากการตรวจค้นบ้านเลขที่ 395/2 ซอยอินทามระ 47 ซึ่งเป็นบ้านพักของผู้ต้องหาพบแมวเพศเมียสีดำอายุประมาณ 6-7 เดือน ถูกล่ามคอด้วยสายสลิงไว้ในห้องน้ำ มีบาดแผลถลอกที่ขาซ้าย เจ้าหน้าที่จึงนำมาดูแลที่ สน.สุทธิสาร

สอบสวนผู้ต้องหาผ่านล่ามให้การอ้างว่า ตนพักอาศัยในประเทศไทยมาแล้ว 1 ปี เป็นคนรักแมว ตนมักจะชอบเดินหาแมวที่ได้รับบาดเจ็บละแวกใกล้เคียงกับที่พักอาศัย เพื่อนำตัวมารักษา ส่วนภาพถ่ายและคลิปวีดิโอของแมวที่ได้รับบาดเจ็บในโทรศัพท์มือถือของตนทั้งหมดได้เสียชีวิตแล้ว จึงนำซากแมวที่เสียชีวิตไปโยนทิ้ง

ช่วงสายวันเดียวกันหลังทราบข่าวการจับกุมผู้ต้องหา นางสุนันทา นำเจริญวุฒิ อายุ 56 ปี ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.ท.วัชรพล วชิรกุลฑล รอง สว. (สอบสวน) สน.สุทธิสาร ว่า ตนเปิดร้านขายของชำและพักอาศัยอยู่ภายในซอยอินทามระ 51 เลี้ยงแมวไว้ในบ้านทั้งหมดจำนวน 11 ตัว โดยก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น.ของวันที่ 19 ส.ค. ตนพบชายชาวต่างชาติ ผิวขาว ผมยาว สูงใหญ่ ใช้เชือกไนลอนผูกคอแมว จนแมวอยู่ในสภาพนอนหมดสติลากผ่านหน้าบ้านตน แต่เหตุการณ์ ในครั้งนั้นตนไม่ได้เอะใจแต่อย่างใด เนื่องจากคิดว่าเป็นเจ้าของ จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 23 ส.ค. เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันมาบอกว่าแมวไทย สีขาวน้ำตาล ชื่อ “เจ้านิ่ม” อายุ 5 ปี ที่ตนเลี้ยงไว้ถูกชายลักษณะ ดังกล่าวจับยัดใส่กระเป๋าหนังสีดำหลบหนีไป จึงขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด ทำให้แน่ใจว่าเป็นคนคนเดียวกันกับที่ตนเห็นลากแมว จึงตัดสินใจเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน

...

ด้านนายอิทธิพล ไตรสิกขา อายุ 22 ปี ผู้เสียหายอีกราย เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 14 ส.ค. ตนได้เดินทางกลับมาถึงที่พักภายในทวีสุขแมนชั่น ซอยอินทามระ 51 ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงและเขตดินแดง กทม.พบแมวจรจัดสีดำ จำได้ว่าอาศัยอยู่ใต้แมนชั่นเป็นประจำมีบาดแผลลักษณะคล้ายถูกของมีคมบาดที่บริเวณกลางหลังและรอยถูกกรีดที่ขาจนเป็นแผลฉกรรจ์ ตนจึงนำตัวส่ง รพ.สัตว์เกษตร เพื่อทำการรักษาอาการ ก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งประสานเรื่องไปยัง WATCHDOG THAILAND ( W.D.T.) ซึ่งเป็นองค์กรช่วยเหลือสัตว์ให้ช่วยประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนิน คดีตามกฎหมาย

ต่อมาตนพยายามหาข้อมูลด้วยตัวเอง เพื่อช่วยออกตามหาตัวคนร้าย จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. พบชายชาวต่างชาติ สูงประมาณ 170 เซนติเมตร มัดผม ใส่แว่น เดินถือกระเป๋าหนังสีดำ มีท่าทางพิรุธอยู่ภายในซอยอินทามระ 47 แขวงและเขตดินแดง กทม. จึงประสานให้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.สุทธิสาร ตรวจสอบพร้อมทั้งขอเข้าตรวจค้นสิ่งของที่บรรจุอยู่ภายในกระเป๋า จนพบของกลางประกอบด้วยเชือกไนลอนมัดเป็นบ่วง ลวดสลิง อาหารแมว และรูปภาพขณะทารุณกรรมเป็นจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สน.สุทธิสาร และจากการสอบถามชาวบ้านทราบว่าเคยเห็นว่ามีการนำแมวจำนวน 4 ตัวมาแขวนไว้ที่นอกระเบียงบ้านด้วย

ช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน สพ.ญ.ภัทรนันท์ สัจจารมย์ สัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลสัตว์บ้านสัตว์เลี้ยงรามอินทรา 109 แพทย์อาสาฯ WATCHDOG THAILAND ( W.D.T.) และนายพีระบุญ เจริญวัย เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร WATCHDOG THAILAND (W.D.T.) เดินทางมารับตัวแมวที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือออกมาได้ ก่อนนำไปรักษาต่อที่ โรงพยาบาลสัตว์บ้านสัตว์เลี้ยงรามอินทรา 109

ต่อมาช่วงเย็นวันเดียวกัน พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 ได้เดินทางมาแถลงผลการจับกุมและดำเนินคดีกับผู้ต้องหา โดยเปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาอ้างว่า ประกอบอาชีพสถาปนิกอิสระ ส่วนการทารุณกรรมสัตว์ยังให้การปฏิเสธ อ้างเป็นคนรักแมว เมื่อพบแมวจรจัดต้องการเพียงจะนำมาดูแลรักษา เบื้องต้นทำได้เพียงแจ้งข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน เนื่องจากมีพยานยืนยันชัดเจนในประเด็นนี้ ส่วนพฤติกรรมการทารุณกรรมสัตว์ยังไม่มีพยานยืนยันชัดเจน ประเด็นการพบภาพแมวในโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหาเป็นจำนวนมาก ตรวจสอบมีภาพที่เข้าข่ายการทารุณกรรมสัตว์แค่ 3-4 ภาพ ซึ่งก็ยังไม่ชัดเจนเช่นกันว่าเป็นการทารุณกรรมสัตว์หรือไม่ ซึ่งตรงนี้จะนำมาเป็นพยานหลักฐานคงไม่ได้ เบื้องต้นต้องขอเวลาในการขยายผลสอบปากคำผู้ต้องหาอย่างละเอียดในอีกหลายประเด็นที่ยังเป็นที่สงสัย โดยวันที่ 29 ส.ค.จะนำตัวผู้ต้องหาส่งศาลอาญารัชดาฯผัดฟ้องฝากขัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการแถลงข่าวมีประชาชนและจ้าหน้าที่อาสาสมัคร WATCHDOG THAILAND (W.D.T.) มาร่วมสังเกตการณ์เป็นจำนวนมาก เนื่องจากต้องการทราบความคืบหน้าการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยทุกคนยังคลางแคลงใจกับพฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้