สนช.มีมติ 185 เสียง งดออกเสียง 3 รับหลักการร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย-อาวุธทำลายล้างสูง "วิษณุ" แจงต้องเขียนเพราะก.ม.ไม่ครอบคลุม ระบุเหตุที่ใช้เพื่อรองรับมาตรฐานสากล
เมื่อวันที่ 19 ส.ค.59 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยมี นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช. เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ. .... โดยมี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ชี้แจงหลักการและเหตุผลว่า ปัจจุบันประเทศไทยได้มี พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนการก่อการร้าย พ.ศ. 2556 ขึ้นใช้บังคับเพื่อกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนการเงินแก่การก่อการร้าย แต่มาตรการดังกล่าวไม่ครอบคลุมถึงการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนการเงินแก่การแพร่ขยายอาวุธ ที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ซึ่งต้องใช้มาตรการในลักษณะเดียวกัน เนื่องจากว่า ทั้ง 2 เรื่อง มีวัตถุประสงค์ร่วมกันในการดำเนินการเพื่อรองรับมาตรฐานสากล ตามที่คณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงิน ดังนั้น เพื่อความเป็นเอกภาพของกฎหมาย จึงจำเป็นต้องตรา พ.ร.บ.นี้
หลังจากนั้น สมาชิกฯ สนช. ได้ลงมติรับหลักการพ.ร.บ.ดังกล่าว 185 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญจำนวน 17 คน กำหนดระยะเวลาแปรญัตติ 15 วัน และให้มีระยะทำงาน 60 วัน