"สายลม อาดี" พ่ายกำปั้นชาวฝรั่งเศส ชวดเหรียญทองแดงริโอเกมส์ ด้านครอบครัวเปิดบ้านให้คนดูทีวี ส่งกำลังใจไปพร้อมกัน พ่อเผยหลังแข่งจบ แพ้แบบค้านสายตาคนไทยทั้งประเทศ

เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 14 ส.ค. 59 ที่บ้านเลขที่ 68 หมู่ 8 บ้านหนองรูแข้ ต.ภูเหล็ก อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของ สายลม อาดี นักกีฬามวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทยในรุ่น 69 กก. ซึ่งมีกำหนดเข้าทำการแข่งขันมวลสากลสมัครเล่น ในกีฬาโอลิมปิก 2016 หรือ ริโอเกมส์ ที่ประเทศบราซิล รุ่น เวลเตอร์เวท รุ่น 69 กก. กับนักชกจากประเทศฝรั่งเศส ซูไลมานี่ ซิสโซโก้ ท่ามกลางคนในชุมชนที่มาร่วมส่งกำลังแรงใจให้กับ สายลม แน่นบริเวณลานหน้าบ้านพัก ซึ่งครอบครัวของสายลม ติดตั้งโทรทัศน์ขนาดใหญ่ไว้หน้าบ้าน รวมทั้งการจัดอาหาร เครื่องดื่มและเก้าอี้จำนวนมากให้ชาวบ้านรวมถึงแฟนมวยที่มาร่วมส่งกำลังใจกว่า 200 คน โดยมี นายสวา อาดี และ นางคำปั่น อาดี พ่อและแม่ของสายลม ให้การต้อนรับท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่น

เริ่มการแข่งขันในยกแรก สายลมในชุดน้ำเงิน ดักจังหวะต่อย 1-2 พร้อมกับปล่อยหมัดขวาตรงใส่คู่ต่อสู้อย่างต่อเนื่อง ครบยกกรรมการให้สายลม ชนะไปด้วย คะแนนไม่เป็นเอกฉันท์ 2:1 เข้าสู่ยกที่ 2 สายลม ยังคงดักจังหวะชกพร้อมกับปล่อยหมัดขวาใส่ใบหน้าคู่ต่อสู้อย่างต่อเนื่อง แต่นักชกชาวฝรั่งเศส ก็ยังคงดักจังหวะสวนหมัดใส่สายลม เช่นกัน ทำให้ยกนี้ต่างผลัดกันรุกและรับอย่างสนุก ครบยกกรรมการให้นักชกจากฝรั่งเศส ชนะไปด้วยคะแนนที่ไม่เป็นเอกฉันท์ 2:1 มาถึงยกที่ 3 ยกสุดท้ายชี้ชะตาของนักชกทั้ง 2 ซึ่งสายลม เดินหน้าเต็มกำลังเพื่อดักจังหวะต่อยด้วยหมัดขวา ขณะที่ ซิสโซโก้ ก็อาศัยจังหวะดักต่อยสายลม เช่นกัน แต่สายลม ก็ยังคงปล่อยจังหวะหมัด 1-2 สลับกับจังหวะคลุกวงใน ครบยกต่างฝ่ายต่างมั่นใจว่าจะชนะ ซึ่งขึ้นอยู่กับกรรมการกลางของการแข่งขันครั้งนี้ว่าจะพิจารณาชี้ขาดอย่างไร ก่อนที่กรรมการจะให้นักชกจากฝรั่งเศส ชนะไปด้วยคะแนนไม่เป็นเอกฉันท์ 2:1 ท่ามกลางความเสียใจของชาวขอนแก่น และคนไทยทั้งประเทศอย่างมาก

...

นายสวา พ่อของสายลม กล่าวว่า เสียใจกับผลการตัดสิน ซึ่งถือว่าค้านสายตาคนไทยทั้งประเทศอย่างมาก สายลม ปล่อยจังหวะสลับกับต่อย 1-2 เข้าเป้า แต่ผลการตัดสินใจออกมาอย่างนี้เราก็ต้องยอมรับ แต่ก็ค้านสายตาจริงๆ พูดอะไรไม่ออก เพราะการตัดสินของกรรมการถือเป็นที่สุด ถือว่า สายลม ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว และยังคงให้กำลังใจลูกต่อไป

“ยกที่ 2 เราแพ้ ผมก็ทำใจแล้วว่าเราต้องแพ้ในยกที่ 3 ด้วย เพราะกรรมการตัดสินค้านสายตามาก จากที่ดูจะรู้ว่าสายลม และทุกคนก็มั่นใจว่าเราจะชนะเพราะครบยกที่ 3 เราก็มั่นใจว่าเราจะเข้ารอบรองชนะเลิศและคว้าเหรียญทองแดงมาแล้ว แต่เมื่อผลการตัดสินออกมาอย่างนี้ก็ค้านสายตา ผมเองก็เสียใจ ส่วนอีก 4 ปีข้างหน้า สายลม จะรับใช้ชาติต่อไปหรือไม่นั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย และลูกชาย ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ผมเองก็ขอขอบคุณคนไทยทั้งประเทศและผู้ให้การสนับสนุน ที่ร่วมให้กำลังใจและส่งกำลังแรงใจให้กับสายลม ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในครั้งนี้” นายสวา กล่าว.