ผู้เสียหาย 3 ราย แจ้งความ บก.ปอศ. ให้ดำเนินคดีสาวใหญ่เจ้าของเพจดัง หลอกให้ซื้อทองคำโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 ก่อนชิ่งหนี มูลค่าความเสียหายกว่าล้านบาท
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 4 ส.ค. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้มีผู้เสียหายจำนวน 3 ราย เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.พุฑฒิพงศ์ มุสิกูล รอง ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชชญ์ ผกก.5.บก.ปอศ. เพื่อแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ น.ส.ดลพร อ่อนมิ อายุ 39 ปี โดยอ้างว่าเป็นผู้หลอกให้หลงเชื่อโดยการเชิญชวนผ่านเฟซบุ๊ก และแฟนเพจ ขายทองคำโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 ก่อนฉ้อโกงเงินไปและไม่สามารถติดต่อได้ มูลค่าความเสียหายกว่าล้านบาท
โดย น.ส. เอ (นามสมมติ) อายุ 27 ปี อาชีพพนักงานบริษัท ที่สูญเสียเงินไป 17,990 บาท เป็น 1 ในผู้เสียหาย ได้เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่ตนจะซื้อทอง ได้มีรุ่นน้องที่สนิทกันชักชวนให้ซื้อทองคำโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 โดยสั่งซื้อผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งมีแฟนเพจด้วย ตนจึงได้เข้าไปติดต่อในเฟซบุ๊กเพื่อที่จะซื้อทองคำ น้ำหนัก 1 บาท และกลุ่มแฟนเพจได้โพสต์รูปพร้อมข้อความ โชว์ทองคำ ว่าได้รับของจริงหลังจากที่ได้สั่งซื้อไป ตนจึงตัดสินใจซื้อทองและโอนเงินเข้าบัญชีของ น.ส.ดลพร ธนาคารกสิกรไทย ในวันที่ 16 พ.ค. ที่ผ่านมา เป็นจำนวนเงิน 17,990 บาท หลังจากนั้นตนได้ติดตามเฟซบุ๊กของ น.ส.ดลพร มาตลอด พบว่า น.ส.ดลพร มีการซื้อบ้านใหม่ในจังหวัดเชียงใหม่ ซื้อรถยนต์คันใหม่ ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม ซึ่งตนได้ติดตามดูอย่างเงียบๆ
...
น.ส. เอ (นามสมมติ) เผยต่อว่า ในการซื้อทองนั้น วันที่ตนจะได้รับทองคือ วันที่ 22 มิ.ย. แต่ทาง น.ส.ดลพร บอกว่ามีการดีเลย์ ช้าออกไปและจะได้รับในเดือน ก.ย. ซึ่งตนเริ่มสงสัยว่าจะถูกหลอก และไม่สามารถติดต่อ น.ส.ดลพรได้ หากจะขอเงินคืนจะถูกหัก 50% และถูกนำไปประจานในเพจ และจะมีแฟนเพจเข้ามารุมด่าว่า จึงได้ตั้งกรุ๊ปในไลน์ รวมตัวของผู้เสียหายซึ่งมีทั้งหมดประมาน 30 คน ก่อนเข้าแจ้งความ และยังทราบว่ามี 1 ในผู้เสียหาย สูญเสียเงินไปกว่า 400,000 บาท และได้มีการเดินทางไปยังบ้านของ น.ส.ดลพร แต่ไม่พบตัว พบเพียงน้องสาวกับแม่เท่านั้น และทางน้องสาวได้บอกว่า พี่สาวขึ้นไปขายคอนโดและรถยนต์ที่เชียงใหม่ จะได้เงินคืนแน่นอนภายใน 2-3 วันนี้ ส่วนตนยังโชคดีที่ยังไม่เคยได้รับทองที่ซื้อ ถ้าหากเคยได้รับมาแล้ว ตนคิดว่าจะต้องมีการสั่งซื้ออีกหลายครั้งแน่นอน ทั้งนี้ยังมีผู้เสียหายที่อยู่ต่างจังหวัด จะทยอยเดินทางเข้ามาแจ้งความพร้อมทั้งให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างเต็มที่
พ.ต.อ.ทัศน์ภูมิ เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งความแจ้งผู้เสียหายแล้วก็จะติดตามผู้กระทำความผิดมาดำเนินการต่อไป ซึ่งเป็นการเข้าข่ายผิด พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 ซึ่งหลังจากที่ทราบข้อมูลเบื้องต้นเข้าค่ายความผิดมาตราที่ 4, 5 และ 12 และจะประสานงานกับสมาคมผู้ค้าทองว่า การเปิดให้ค้าทองแบบนี้จะทำได้หรือไม่ ถ้าทำไม่ได้ก็จะส่งเรื่องไปที่ ปปง. เพื่อจะตรวจสอบเส้นทางการเงินและทรัพย์สินของ น.ส.ดลพร หากพบว่าผิดจริงจะให้ทางปปง.ดำเนินการตามกฎหมายการฟอกเงินต่อไป.