บี บางปะกง น้องรัก

พี่เขียนถึงอีกครั้ง เพราะยังคาใจไม่จบกับเกมคู่บิ๊กแมตช์ ระหว่าง เมืองทอง กับ บุรีรัมย์ ที่ผ่านมากับกรณีการลงโทษปรับทั้งกองเชียร์กิเลนผยอง และ ดีโอโก หลุยส์ ซานโต ของบุรีรัมย์ ส่วนนี้พี่เห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะแสดงอาการไม่เหมาะสมกันทั้งคู่

แต่มีคำถามต้องถามต่อถึงมาตรฐานการลงโทษ เพราะในเกมวันนั้นยังมีเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นอีก ได้แก่ กองเชียร์ส่งเสียงที่ไม่เหมาะใส่ “เจ้าอุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน ดังสนั่นสนามตลอดเกือบทั้งเกมล่ะ

มีเพียงแค่ข่าวว่าจะเอาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาปาก มาถอดคำพูดจากปากของ “เจ้าอุ้ม” มันตลกอะ แบบนี้เข้าข่าย “สองมาตรฐาน” อ๊ะป่าว ทั้งนี้ทั้งนั้นพี่อยากเห็นคำว่า “แฟร์” มันเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมจริงๆกับทุกทีม กับทุกเหตุการณ์

รวมไปถึงกรณีของ “ดีโอโก หลุยส์ ซานโต” ที่ไปแสดงอาการมองดูเหมือนชก “ทริสตอง โด” ที่ริมสนามเข้าด้วย ทำไมจึงไม่มีการดำเนินการอะไร ทั้งที่เหตุการณ์นี้เกิดใกล้กับ “แมตช์คอม” ซะด้วย

ผิดต้องลงโทษทั้งหมดสิ จะได้เข็ด

เอ้า...ขอวนมาเข้าเรื่องของ “ทีมชาติไทย” หน่อย เพราะระยะนี้มีข่าวมาอย่างต่อเนื่องว่าจะมีการเปลี่ยนตัวโค้ช ทั้งในรายของ “โค้ชโย่ง” วรวุฒิ ศรีมะฆะ กับ “โค้ชหนุ่ย” เฉลิมวุฒิ สง่าพล

พี่เห็นด้วยนะกับคำพูดของท่านนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่กล่าวไว้ทำนองว่า ตนมีอำนาจเต็มในการบริหารจัดการ ถ้าเห็นว่าสิ่งที่ทำไปนั้นจะเกิดประโยชน์สูงสุด

ถูกต้องครับ...แต่คงต้อง “ขอติง” เอาไว้ว่า ถ้าจะให้เกิดประโยชน์สูงสุด จะต้องไม่มีอคติหรือใบสั่งใดๆ จากผู้มีบารมีนอกสมาคมที่พก “แค้นฝังลึก” อยู่เต็มตัวมาเป็นผู้กดรีโมต เพราะหากมี มันจะทำให้การตัดสินใจผิดพลาดได้

...

เฉพาะอย่างยิ่งในรายของ “โค้ชโย่ง” อย่างที่ “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล ประธานฝ่าย

เทคนิค กล่าวไว้ว่า ยังไม่มีอะไรเสียหายเกิดขึ้น พี่พูดต่อให้อีกนิด แถมออกงานแรกก็พาทีมไปซิวแชมป์มาจากประเทศมาเลเซียมาอย่างสวยหรูซะด้วย

แล้ว...เอาเหตุผลอะไรไปเปลี่ยน (สงสัยอะ)

พี่ไม่ได้ว่า “โค้ชต่างชาติ” เก่งสู้ “โค้ชไทย” ไม่ได้นะ แต่สำหรับทีมชาติไทยเคยผ่านการใช้โค้ชต่างชาติมาแล้วมากมาย และกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ “ล้มเหลว”

ทั้งนี้น่าจะเป็นเพราะวัฒนธรรมไทย วิถีแบบไทยๆ ยังไม่เหมาะกับโค้ชต่างชาติ ที่นอกจากจะสื่อสารกันยากมากแล้ว ความเคารพและการทุ่มเทของเหล่านักเตะ พี่มองดูแล้วที่ผ่านมาพวกเขาทุ่มเทให้กับโค้ชร่วมชาติของเขาเองมากกว่า

ดูตัวอย่างในรายของ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง นั่นปะไร

พูดถึง “ซิโก้” ที่ได้ยินเขาร่ำลือกันมาตลอดว่าเป็นเป้าหมายใหญ่ในการจะถูกเปลี่ยนแต่ต้น ดีแต่ว่ากระแสของ “ซิโก้” แรงจัด การเปลี่ยนแปลงจึงยังไม่เกิดขึ้นในตอนนี้ แต่อนาคตมีความ “เป็นไปได้”

ยังไงก็ขอฝากไปถึง “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล ประธานฝ่ายเทคนิคด้วยละกัน อย่าลืมที่เคยกล่าวไว้ทำนองว่า ถ้าเปลี่ยนโค้ชโย่ง ตนจะไปด้วยนะ อย่าให้เสียชื่อ “โค้ชเฮง” ที่เป็นคนพูดคำไหน คำนั้นละกัน

ที่สำคัญ...ตอนนี้อยู่ระหว่างกระแสน่าจะเกิด “โย่ง ขนมกรุบ” กับ “หนุ่ย ขนมกรุบ” พี่เกรงจะมี “เฮง ขนมกรุบ” ตามไปกะเขาด้วย สำหรับ“ซิโก้” นั้นขอแสดงความห่วงใยล่วงหน้าให้เตรียมตัวเตรียมใจไว้ด้วยเด้อน้องรัก

“ซิโก้ ขนมกรุบ” 555.

“ไว เด่นชัย”

บี บางปะกง