อดีตทนายวัย 68 ปี มีโรคประจำตัวเป็นความดัน วูบขณะขับเบนซ์ ไถลเฉี่ยวชนเก๋งอีกคัน จนกระเด็นขึ้นเกาะกลางถนนย่านรามอินทรา ส่วนรถตัวเองปีนขึ้นบาทวิถีหน้าปั๊มตรงป้ายบอกราคาน้ำมัน ก่อนแน่นิ่ง เสียชีวิต...
เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 26 ก.ค. ร.ต.อ.สุเรวัช บังคมเนตร รองสว. (สอบสวน) สน.บางเขน รับแจ้งเหตุรถยนต์ชนกันและมีผู้เสียชีวิต บริเวณหน้าสถานบริการน้ำมันเอสโซ่ สาขารามอินทรา กม.4.5 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. จึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุอยู่บนบาทวิถี หน้าปั๊มน้ำมันดังกล่าว บริเวณเสาป้ายบอกราคาน้ำมัน พบรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ รุ่นอี 280 สีทอง ทะเบียน ฐฉ 5577 กรุงเทพมหานคร สภาพพุ่งชนกับเสาบอกราคาน้ำมัน ด้านขวาของตัวรถมีรอยเฉี่ยวชนเป็นทางยาว และยางล้อหน้าข้างขวาแตก บริเวณพื้นบาทวิถีฝั่งประตูคนขับ พบศพนายสุขเกษม โพธิ์จันทจินดา อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 ซ.13 ถ.เสรี 4 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. เป็นคณะกรรมการสภาทนายความ นอนหงายอยู่บนพื้น ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบบาดแผล
ใกล้กันพบรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีเทา หมายเลขทะเบียน ญน4425 กรุงเทพมหานคร ถูกเฉี่ยวชนบริเวณด้านข้างซ้ายของตัวรถโดยมีนายเอกฉัตร ศุตราเอก อายุ 30 ปี เป็นผู้ขับขี่ จอดรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในปั๊มน้ำมัน จากการสอบสวนนายเอกฉัตร ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังขับรถกลับบ้าน เมื่อมาถึงบริเวณปากซอยรามอินทรา 41 รถเบนซ์คันดังกล่าวขับอยู่เลนซ้ายสุด และตัวรถเกิดเปลี่ยนเลนกะทันหัน ไปเฉี่ยวชนกับรถของตนที่วิ่งมาเลนกลางตามปกติ จนรถเกิดเสียหลักพุ่งขึ้นเกาะกลางถนน ส่วนรถเบนซ์ปีนขึ้นบาทวิถีไปชนกับป้ายบอกราคาน้ำมันของปั้มเอสโซ่แล้วนิ่งไป ต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงนำตัวคนขับออกมาจากรถ ซึ่งขณะนั้นยังหายใจอยู่แต่ไม่มีการตอบสนองใดๆ จากผู้บาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงพยายามช่วยเหลือแต่ไม่สำเร็จ คนขับเสียชีวิตในเวลาต่อมา
...
ด้านลูกสาวของผู้เสียชีวิต เดินทางมายังที่เกิดเหตุ พร้อมให้การว่า ผู้ตายมีโรคประจำตัวเป็นความดัน เบาหวาน อดีตผู้ตายเคยเป็นทนายความและเกษียนอายุ ออกมาเป็นคณะกรรมการสภาทนายความอยู่ที่สำนักงานสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ถ.พหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. ก่อนเกิดเหตุผู้ตายกำลังเดินทางกลับบ้าน โดยออกจากสำนักงานสภาทนายความตามปกติ แต่ผิดสังเกตว่าวันนี้ถึงบ้านช้า กระทั่งมีเจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว ทั้งนี้ที่ผ่านมาพ่อไม่เคยแสดงอาการวูบหรืออาการผิดปกติใดๆ มาก่อน
ร.ต.อ.สุเรวัช กล่าวว่า จากการสอบสวนลูกผู้ตายทราบว่ามีโรคประจำตัวอยู่แล้ว จึงคาดว่าน่าจะเกิดอาการวูบไปขณะขับรถ อย่างไรก็ตามต้องสอบสวนพยานและกล้องวงจรปิดอีกครั้ง ก่อนส่งศพชันสูตรต่อเนื่องที่นิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป.