ทัพนักกีฬาไทย กำหนดเชิญธงไตรรงค์ในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 4 ส.ค.นี้ "บิ๊กต้อม" ธนา ไชยประสิทธิ์ เผย สภาพอากาศ กลางวันร้อน 30 องศาฯ กลางคืนเย็น 16-17 องศาฯ ด้านเรือพายและวินด์เซิร์ฟ เหงื่อตกกว่าจะแพ็กอุปกรณ์แข่งขึ้นเครื่องบินไปบราซิล แถมยังถูกปรับอีกบาน เพราะจำนวนสัมภาระเกินกว่าที่กำหนด...

วันที่ 26 ก.ค. 59 ความเคลื่อนไหวนักกีฬาทีมชาติไทยชุดเข้าร่วมมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2016 ระหว่างวันที่ 5-21 ส.ค.นี้ ที่นครริโอ เด จาเนโร ประเทศบราซิล ล่าสุดเมื่อดึกวันที่ 25 ก.ค. ที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ นักกีฬาทีมชาติไทย ซึ่งประกอบด้วย ยิงเป้าบิน "ณี" สุธิยา จิวเฉลิมมิตร, ยิงปืน นภิส ต่อตั้งพานิช, อัฐพล เอื้ออารี, ธันยพร พฤกษากร, พิมพ์อร คล้ายสุบรรณ, วินด์เซิร์ฟ ศิริพร แก้วดวงงาม, ณัฐพล โพธิ์นพรัตน, จักรยาน จุฑาธิป มณีพันธุ์, เรือพาย พุทธรักษา นีกรี, จารุวัฒน์ แสนสุข ออกเดินทางด้วยสายการบินเอมิเรตส์ อีเค 385 เพื่อเดินทางไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ที่นครริโอ เด จาเนโร ประเทศบราซิลแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กว่าที่นักกีฬาจะเช็กอินขึ้นเครื่องได้กินเวลากว่า 2 ชั่วโมง เนื่องจากสัมภาระและอุปกรณ์แข่งขันนั้น เกินกว่าที่สายการบินกำหนดไว้ ให้สามารถโหลดลงใต้เครื่องได้เพียงคนละ 2 ใบ โดยในรายของ "น้องณี" มีกระเป๋าเดินทาง 2 ใบ และกระเป๋าปืนอีก 1 ใบ จำเป็นต้องจ่ายเงินเพิ่ม 175 เหรียญสหรัฐฯ เช่นเดียวกับนักกีฬายิงปืนทุกคนที่มีกระเป๋าปืน และกระเป๋ากระสุนเกินรวม 7 ใบ เป็นเงิน 1,225 เหรียญสหรัฐฯ ด้านวินด์เซิร์ฟ มีปัญหาหนัก เมื่อไม่อนุญาตให้โหลดกระเป๋าใส่เสาเรือ 2 ชิ้น และบูมเรือ 2 อัน หรือที่จับเข้าช่องกระเป๋าขนาดใหญ่ เนื่องจากมีขนาดเกินกำหนด จึงต้องเสียเวลานำอุปกรณ์ออกมาแพ็กใหม่ และต้องโหลดลงเครื่องปกติ ซึ่งทีมตัดสินใจไม่นำบูมเรือไป 1 ชิ้น และต้องจ่ายค่าสัมภาระเกินอีก 3 ชิ้น รวม 525 เหรียญสหรัฐฯ และเรือพายก็มีขนาดถุงใส่ไม้พายเกินกว่าขนาดที่กำหนด ต้องแยกชิ้นไม้พายออกมาแพ็กกันใหม่ รวมเป็น 3 ชิ้น ทำให้จ่ายค่าสัมภาระเพิ่มอีก 525 เหรียญสหรัฐฯรวมทั้งสิ้น 2,450 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 85,000 บาท อย่างไรก็ตาม สมาคมกีฬาสามารถนำบิลดังกล่าวมาเบิกจ่ายกับคณะกรรมการโอลิมปิกฯต่อไป

...

"ณี" สุธิยากล่าวว่า เรื่องเป้าหมายไม่ได้คาดหวังมาก ขอแข่งขันกับตนเองให้ดีที่สุดเท่านั้น ขณะที่ "ป้าแพท" พุทธรักษา วัย 44 ปี ที่ไปแข่งโอลิมปิกเป็นสมัย 4 กล่าวว่า แม้ตนจะอายุมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เมื่อได้ฝึกซ้อมและแข่งขันอย่างต่อเนื่อง ก็ทำให้รู้สึกว่ายังสามารถเล่นได้อีกนาน ยังมีความคึกคัก และแน่นอนว่าโอลิมปิกครั้งนี้ ยังไม่ใช่ครั้งสุดท้ายของตนแต่อย่างใด

"บิ๊กต้อม" นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย เปิดเผยว่า "หลังจากที่ตนและเจ้าหน้าที่ของโอลิมปิกไทย ได้เดินทางมาถึงนครริโอ เด จาเนโร เมื่อวันที่ 23 ก.ค.แล้วนั้น ก็ได้ดำเนินการลงทะเบียนนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ของไทย พร้อมรอรับทัพนักกีฬาไทยชุดใหญ่ ที่จะเดินทางมาถึงบราซิล พร้อมเข้าพักในหมู่บ้านนักกีฬา วันที่ 26 ก.ค.นี้แล้ว สำหรับครั้งนี้ นักกีฬาไทยจะเข้าพักในตึกหมายเลข 2 อยู่ชั้นที่ 16 และชั้น 17 ซึ่งตนได้ทำการรับมอบห้องพักจากทางเจ้าภาพและตรวจสอบความเรียบร้อยในส่วนต่างๆของห้องพักแล้ว ทั้งเตียง โต๊ะ ผ้าปูที่นอน แอร์ ชักโครก ซึ่งก็ถือว่าเรียบร้อยดี แม้บางส่วนอาจจะยังติดขัดอยู่บ้างแต่ก็ได้มีการแก้ไข ซึ่งคิดว่าไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่ต่อทัพไทยแต่อย่างใด ทั้งนี้ นักกีฬาทีมชาติไทยจะทำพิธีเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดเสาวันที่ 4 ส.ค.นี้ เวลา 19.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น)"

"เรื่องของสภาพอากาศก็ปกติดี กลางวันอาจจะร้อนมากหน่อย อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 30 องศาเซลเซียส ขณะที่กลางคืนค่อนข้างจะเย็น อุณหภูมิประมาณ 16-17 องศาเซลเซียส ถือว่าเป็นอากาศที่กำลังดีสำหรับนักกีฬาไทย" บิ๊กต้อมกล่าว

ขณะที่ ดร.พิชิต เมืองนาโพธิ์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา มศว. นักจิตวิทยาทางการกีฬา ซึ่งดูแลสุธิยาอย่างใกล้ชิด กล่าวว่า "อยากฝากถึงนักกีฬาไม่ควรเน้นไปที่เหรียญรางวัลเป็นสำคัญตามที่สังคมต้องการ เพราะจะทำให้ไม่สามารถทำผลงานได้เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตามสถิติแล้ว เมื่อเล่นท่ามกลางแรงกดดันจะมีประสิทธิภาพเหลือเพียง 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งการเล่นอย่างผ่อนคลายจะทำผลงานได้ดีกว่า ทั้งนี้ การเดินทางไปที่บราซิล สิ่งที่สำคัญเป็นอันดับแรกคือการปรับตัวกับเวลาที่ต่างออกไปถึง 10 ชั่วโมง โดยระหว่างเดินทางควรดื่มน้ำมากๆ เนื่องจากการเดินทางในระยะเวลานานจะทำให้ร่างกายอยู่ในภาวะขาดน้ำ หรือดีไฮเดรต ซึ่งการดื่มน้ำจะทำให้ร่างกายปรับสมดุลกับไทม์โซนที่เปลี่ยนแปลงได้ดียิ่งขึ้น"