จากกรณีชาวบ้านหมู่ 13, 14, 17, 18 ต.ท่าแซะ และหมู่ 13 ต.ท่าข้าม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร กว่า 1 พันครัวเรือน อยู่อาศัยในที่ดินจัดสรรนิคมสหกรณ์ท่าแซะ ตาม พ.ร.บ.จัดสรรที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ.2511 มานาน ร่วม 40 ปี แต่ยังไม่มีเอกสารสิทธิในที่ดินและเตรียมเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เพื่อขอความช่วยเหลือนั้น (ร้องรัฐช่วยอาศัยที่นิคมฯ-ไร้เอกสารสิทธิ) เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 ก.ค. ที่ห้องประชุมนิคมสหกรณ์ท่าแซะ อ.ท่าแซะ นายนักรบ ณ ถลาง นายอำเภอท่าแซะ น.ส.วาณี อังตระการศิริ สหกรณ์จังหวัดชุมพร นายวิเชียร ชาญตสบุตร ผอ.นิคมสหกรณ์ท่าแซะ และตัวแทนชาวบ้านร่วมปรึกษาหารือ นายนักรบกล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้กันไว้เพื่อราชการ 400 ไร่ และเพื่อกิจการของนิคมฯประมาณ 1,000 ไร่ แต่มีชาวบ้านเข้าไป อยู่อาศัยตั้งแต่ปี 2514 จนถึงปัจจุบัน

ที่ประชุมได้ข้อสรุป 2 ข้อ 1.ให้ผู้ใหญ่บ้านและผู้เกี่ยวข้องสำรวจการเข้าทำประโยชน์ว่ามีกี่ราย พร้อมจัดทำผังแต่ละแปลง และให้ทำเรื่องยื่นมาที่นิคมสหกรณ์ท่าแซะ ภายในวันที่ 29 ก.ค. ก่อนเสนอ ผวจ.ชุมพรดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป 2.มอบหมายให้ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านไปทำความเข้าใจกับชาวบ้านถึงแนวทางการแก้ปัญหาตามขั้นตอน โดยขอให้ชะลอการเดินทางไปพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

...

น.ส.กาญจนา หนูทอง แกนนำชาวบ้าน เปิดเผยว่าทางนิคมสหกรณ์เป็นผู้จัดสรรให้ชาวบ้านเข้าไปอยู่เองไม่ได้บุกรุกจนเป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีถนนลาดยาง ไฟฟ้าสิ่งสาธารณูปโภค วันที่ 29 ก.ค.นี้ หลังจากชาวบ้านยื่นเอกสารหลักฐานการครอบครองทำประโยชน์แล้ว ผู้เกี่ยวข้องจะต้องกำหนดระยะเวลาด้วยว่าจะส่งเรื่องเข้าไปยังกรมและกระทรวงเมื่อไร ไม่อยากให้เรื่องเงียบหายเหมือนที่ผ่านมา และรัฐบาล คสช.คือที่พึ่งของพวกเรา.