ทะเลจีนใต้ร้อนระอุขึ้นทันที แม้สภาพอากาศในช่วงนี้จะมีพายุฝนฟ้าคะนองจากอิทธิพลของพายุและลมมรสุม เมื่อคณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ อ่านคำตัดสินคดีพิพาททะเลจีนใต้ เมื่อ 12 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า จีนไม่มีกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำในทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมดตามคำอ้าง เนื่องจากไม่สามารถอ้างแผนที่ทางประวัติศาสตร์ เพื่อนำมาใช้อ้างสิทธิ์ในการครอบครอง หมู่เกาะ แนวปะการัง และทรัพยากรธรรมชาติบริเวณน่านน้ำเกือบทั้งหมดในทะเลจีนใต้ได้
นอกจากนั้นแล้ว คณะอนุญาโตตุลาการฯ ยังชี้ว่าจีนได้ละเมิดอธิปไตยของฟิลิปปินส์ อีกทั้งยังเป็นเหตุให้เกิดอันตรายอย่างร้ายแรงต่อแนวปะการัง สภาพแวดล้อมทางทะเลจากการสร้างเกาะเทียมหลายเกาะในทะเลจีนใต้อีกด้วย...
สรุปง่ายๆ ก็คือ จีนเป็นฝ่ายแพ้ในข้อพิพาททะเลจีนใต้ ไม่มีกรรมสิทธิ์เหนือทะเลจีนใต้ตามคำอ้าง ขณะที่ฟิลิปปินส์เป็นฝ่ายชนะ หลังสวม ‘หัวใจสิงห์’ ขอสู้กับพี่ใหญ่แดนมังกร ยื่นคำร้องต่อคณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศว่าด้วยกฎหมายทางทะเลของสหประชาชาติ ตั้งแต่ 3 ปีก่อน !!
...
ด้วยเหตุนี้ สิ่งที่ต้องจับตาจากนี้ ก็คือ ปฏิกริยาของรัฐบาลปักกิ่งว่าจะเป็นอย่างไร? ท่ามกลางเสียงคำรามจากเหล่าผู้นำแดนมังกรก่อนหน้าแล้วว่าจีนจะไม่ยอมรับผลการตัดสิน เพราะจีนถือว่า น่านน้ำเหนือทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมดเป็นของจีนมาตั้งแต่ประวัติศาสตร์
**ย้อนดูประวัติศาสตร์ ‘แผนที่เส้นประ 9 เส้น’ คืออะไร?
แผนที่ทางประวัติศาสตร์ ‘เส้นประ 9 เส้น’ (Nine-dash Line) ของจีน ที่นำมาใช้อ้างอิงในการมีกรรมสิทธิ์ครอบครองเหนือน่านน้ำทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมด หรือคิดเป็นอาณาบริเวณประมาณ 90% นั้น เป็นเส้นที่ลากขึ้น เพื่อกำหนดอาณาเขตของจีนในทะเลจีนใต้ จัดทำขึ้นครั้งแรกโดยรัฐบาลก๊กมินตั๋ง ซึ่งตอนนั้น ยังครอบครองจีนแผ่นดินใหญ่ ในปี 2490 หรือหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลงได้เพียงแค่ 2 ปี
เส้นกำหนดอาณาเขตดังกล่าว ซึ่งมีลักษณะเป็นเหมือนตัว U ครอบคลุมน่านน้ำทะเลจีนใต้เป็นอาณาบริเวณกว้าง โดยเป็นแนวเส้นที่ลากลงมาจากเกาะไหหลำของจีน บริเวณอ่าวตั๋งเกี๋ย ขนานกับชายฝั่งเวียดนาม มาจนถึงเกาะบอร์เนียว บริเวณรัฐซาราวักของมาเลเซีย แล้ววนขึ้นไปเลียบชายฝั่งบรูไน ผ่านรัฐซาบาห์ ไปยังน่านน้ำของฟิลิปปินส์ และเลียบเลาะชายฝั่งของฟิลิปปินส์ไปจนถึงเกาะลูซอน กระทั่งสิ้นสุดที่เกาะไต้หวัน
** หลายประเทศในอาเซียน-ไต้หวัน โวยจีนรุกล้ำน่านน้ำ
การอ้างกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมดของจีน โดยเฉพาะ หมู่เกาะสแปรตลีย์ ที่อยู่ใกล้กับฟิลิปปินส์ และหมู่เกาะพาราเซล ซึ่งอยู่ใกล้เวียดนาม ส่งผลให้หลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ บรูไน มาเลเซีย และไต้หวันออกมาคัดค้านคำกล่าวอ้างของจีน ขณะที่จีนยังคงเดินหน้าแสดงความเป็นเจ้าของน่านน้ำในบริเวณนี้ ไม่ว่าจะเป็น การย้ายแท่นขุดเจาะน้ำมันในทะเล ลึกเข้าไปยังน่านน้ำใกล้กับหมู่เกาะพาราเซล รวมถึงการเร่งถมทะเลสร้างเกาะเทียม และสร้างสิ่งปลูกสร้าง บริเวณหมู่เกาะสแปรตลีย์ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาท ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จนทำให้สถานการณ์ในทะเลจีนใต้ตึงเครียดมากขึ้น
**รบ.ฟิลิปปินส์ สวมหัวใจสิงห์ ยื่นฟ้องต่อศาลระหว่างประเทศ
ท่ามกลางความอึดอัดคับข้อง ไปจนถึงการชุมนุมประท้วงต่อต้านจีนละเมิดน่านน้ำข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ และแล้ว รัฐบาลฟิลิปปินส์ สมัยอดีตประธานาธิบดีเบนิกโญ อาคีโนที่ 3 ได้ตัดสินใจยื่นฟ้อง ต่อคณะอนุญาโตตุลาการถาวร (พีซีเอ) ณ กรุงเฮก เมื่อต้นปี 2556 คัดค้านแผนที่ประวัติศาสตร์ เส้นประ 9 เส้นของจีน นั้น ไม่เป็นไปตามอนุสัญญาแห่งสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทางทะเล (UNCLOS) ซึ่งทั้งฟิลิปปินส์และจีนต่างลงนามรับรอง ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรกับฟิลิปปินส์ ประกาศยืนอยู่ฝ่ายเดียวเคียงข้างกับฟิลิปปินส์อย่างเต็มที่
...
**จีนยืนกรานไม่ยอมรับคำตัดสิน
หลังจากชาวฟิลิปปินส์รอคอยกันมานานถึง 3 ปี ในที่สุด คณะอนุญาโตตุลาการฯ ได้วินิจฉัยเอกสารหลักฐานและตัดสินให้ฟิลิปปินส์เป็นฝ่ายชนะ ชี้ว่าจีนไม่มีกรรมสิทธิ์ที่จะครอบครองน่านน้ำในทะเลจีนใต้ทั้งหมด ปรากฏว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ออกมากล่าวยืนยันท่าทีว่า จีนจะยังคงรักษาสันติภาพและความสงบสุขในน่านน้ำจีนใต้ แต่จะไม่ยอมรับคำชี้ขาดหรือกระทำการใดๆ ที่สืบเนื่องจากคำตัดสินของคณะอนุญาโตตุลาการ
ขณะที่ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีน ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า คำตัดสินของคณะอนุญาโตตุลาการฯ เป็นโมฆะ และไม่มีผลผูกพันใดๆ ทั้งสิ้น เพราะชาวจีนครอบครองพื้นที่ดังกล่าวมายาวนานถึง 2,000 ปี และมีอำนาจอธิปไตยเต็มที่ในพื้นที่ดังกล่าว พร้อมชี้ว่า คำตัดสินครั้งนี้ ยิ่งทำให้สถานการณ์ในภูมิภาคตึงเครียดและเสี่ยงต่อการเผชิญหน้ามากขึ้น ซึ่งทางกองทัพจีนก็พร้อมจะปกป้องอธิปไตยทางทะเล
...
**จีนกร้าว ระดมกำลังทหารซ้อมรบในทะเลจีนใต้
ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากมีคำตัดสินออกมา กองทัพจีนได้มีการเรียกรวมทหารเรือและเจ้าหน้าที่สำรองเข้าฝึกซ้อมกำลังพลทันที แต่ไม่ได้แจ้งถึงจุดมุ่งหมายว่ามีความเกี่ยวข้องกับคำตัดสินของคณะอนุญาโตตุลาการหรือไม่ !!
หลังจาก 2 วันก่อนจะถึงวันนัดอ่านคำตัดสิน กองทัพจีนได้มีการซ้อมรบโดยใช้กระสุนจริงในทะเลจีนใต้ และมีการซ้อมรบเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ใกล้หมู่เกาะพาราเซล ข่มขวัญไปแล้ว พร้อมกับแจ้งวัตถุประสงค์ของการซ้อมรบครั้งนี้ว่า เพื่อเป็นการทดสอบและเตรียมความพร้อมทางทหาร ในการ ‘เผชิญหน้า’ กับเรือดำน้ำและเครื่องบินรบของศัตรู ที่สามารถโจมตีได้จากทุกที่และทุกเวลา เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันในทะเลจีนใต้ ถือเป็น ‘สถานการณ์สงครามจริง’
เรียกว่า จากนี้ไป สำหรับจีนแล้ว สถานการณ์ในทะเลจีนใต้ คือสถานการณ์สงครามจริง ใช้กระสุนจริง ขีปนาวุธจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทุกอย่างจะจริงมากขึ้น หลังจากจีนต้องตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในข้อพิพาทจากคำตัดสินของคณะอนุญาโตตุลาการ ไม่มีกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำในทะเลจีนใต้ ซึ่งถือเป็นความปราชัยภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศเป็นครั้งแรกของจีนในเรื่องนี้เลยทีเดียว.
...