ผมเขียนเรื่องที่ว่าระบบโครงข่ายอินเตอร์เน็ตจะเข้าไปถึงทุกหมู่บ้านของประเทศไทย ด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่งไปเมื่อวานนี้ โดยอ้างถึงคำกล่าวของท่านนายกรัฐมนตรี ในรายการคืนความสุขให้แก่คนไทยเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว
พร้อมกับได้เขียนขอร้องให้พี่น้องประชาชนในหมู่บ้านที่จะมีโอกาสใช้เน็ตทั้งหลาย ขอให้ใช้ประโยชน์ในการตักตวงความรู้ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
เพื่อให้คุ้มค่ากับเงินลงทุนที่รัฐบาลชุดปัจจุบันได้ทุ่มเทลงไปหลายพันล้านบาท สำหรับการติดตั้งเครือข่าย และระบบอินเตอร์เน็ตดังกล่าว
เมื่อข้อเขียนตีพิมพ์ออกมาแล้ว ผมก็อ่านพบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ จากหน้าข่าวเศรษฐกิจของไทยรัฐเรานี่เอง
ขออนุญาตนำมาเขียน “อัพเดต” เพื่อสรุปสถานการณ์ล่าสุดของโครงการนี้ให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบไว้อีกครั้งหนึ่ง
เริ่มจากประเด็นที่ผมเขียนในทำนองว่า ทุกหมู่บ้านมีเน็ตใช้ครบถ้วนแล้วนั้น...ในข้อเท็จจริงยังต้องรออีกพักหนึ่งครับ
เพราะขณะนี้กระทรวงไอซีทีท่านเพิ่งประกาศไว้ในเว็บไซต์ของกระทรวง เพื่อรับความคิดเห็นสาธารณะก่อนจะลงนามในสัญญาจ้าง บริษัททีโอที จำกัด (มหาชน) ให้ดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบจัดซื้อจัดจ้าง และระเบียบพัสดุของทางราชการที่ได้กำหนดไว้
แต่เดิมตั้งเป้าหมายว่า จะเริ่มทยอยติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆตามหมู่บ้านเป้าหมายในเดือนมิถุนายนปีนี้ คงต้องเลื่อนไปราวๆเดือนตุลาคมปีนี้
หมู่บ้านที่อยู่ห่างไกล หรือไม่อยู่ในเครือข่ายอินเตอร์เน็ตปัจจุบันนี้มีอยู่ 24,700 หมู่บ้าน ซึ่งทีโอทีจะต้องติดตั้งอุปกรณ์อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ในวงเงิน 13,000 ล้านบาท
ส่วนอีกประมาณ 40,000-50,000 หมู่บ้าน ที่มีโครงข่ายอินเตอร์เน็ตเข้าถึงแล้ว ก็จะติดตั้งจุดบริการไวไฟฟรีหมู่บ้านละ 1 จุด
...
จากข่าวนี้ เป็นการยืนยันได้ว่า หมู่บ้านทั่วประเทศไทยจะมีอินเตอร์เน็ตใช้อย่างแน่นอน เพียงแต่จะต้องรอเวลาติดตั้งอีกสักพักเท่านั้น
สำหรับตัวเลขเงินลงทุนทั้งโครงการ ที่เมื่อวานผมใช้คำว่าหลายพันล้านบาท เพราะได้ยินมาว่าอย่างนั้น แต่ในตัวเลขที่กระทรวงไอทีซีแถลง สูงถึง 13,000 ล้านบาท
นับเป็นวงเงินที่มากพอสมควร จำเป็นที่จะต้องมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย ในประเด็นเรื่องวงเงินค่าใช้จ่ายก้อนนี้
เท่าที่ผมได้ยินมาเงินก้อนนี้ ก็คือเงินที่ได้จากการประมูลใบอนุญาตการให้บริการดิจิตอลทีวีของ กสทช. นั่นเอง
เป็นการนำเงินรายได้ที่รัฐบาลได้มาอย่างเกินความคาดหมาย ไปใช้ลงทุนในสิ่งที่จะเป็นประโยชน์โดยตรงแก่ประชาชน ในกลุ่มที่ยังด้อยโอกาส ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้อง
แต่ที่จะต้องฝากข้อคิดเพิ่มวันนี้ก็คือเงินที่ กสทช.ได้มานั้นเป็นที่ทราบกันดีแล้วว่ามาจากหยาดเหงื่อ และบางครั้งก็รวมไปถึงหยาดน้ำตาของผู้ประมูลสัมปทานดิจิตอลทีวีทั้งหลาย
ฉะนั้นขอให้ใช้อย่างโปร่งใสทุกบาททุกสตางค์ ขออย่าได้มีการกินนอกกินใน หรือกินหัวคิวใดๆเกิดขึ้นเป็นอันขาด
ส่วนพี่น้องประชาชนในหมู่บ้านต่างๆ ที่จะมีโอกาสใช้บริการอินเตอร์เน็ตที่ว่านี้ ก็ขอให้ใช้เพื่อประโยชน์แก่ตัวท่านเอง ในเชิงสร้างสรรค์ให้มากที่สุดที่จะมากได้
เพราะท่านเองก็น่าจะต้องเสียค่าใช้บริการเน็ตเป็นรายจ่ายของท่านเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งเว้นแต่ในจุดไวไฟฟรี ซึ่งก็จะมีข้อจำกัดทาง เทคนิคมากมายดังที่เคยเกิดขึ้นในจุดบริการฟรีของ กทม.มาแล้ว
ผมเรียนแล้วว่า นี่เป็นก้าวที่สำคัญก้าวหนึ่งของการพัฒนาประเทศไทย และเป็นก้าวที่ใหญ่มาก จึงขอเอาใจช่วยให้ประสบความสำเร็จ
ที่สำคัญโครงการนี้ใช้เงินสูงพอสมควร ก็อยากจะให้คุ้มค่าในทุกๆบาท ทุกสตางค์ที่จะต้องจ่ายออกไป จึงต้องขอย้ำให้ทุกฝ่ายทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง และอย่าทำแบบเล่นๆ โดยเฉพาะการโกงกิน อย่ามีเป็นอันขาด ฝากรัฐบาลให้ระมัดระวังเอาไว้ด้วยก็แล้วกันครับ.
“ซูม”